Tips Trick: ปัจจัยการใช้งานรถใดบ้างที่ทำให้ “รถกินน้ำมัน” ?

0

หนึ่งสิ่งที่เพื่อนๆหลายคนมักพะวงกันในการใช้ยานพาหนะแต่ละวัน เชื่อได้เลยว่าหนึ่งในนั้นจะต้องมีการขี่หรือขับรถอย่างไรให้มัน “ประหยัดน้ำมัน” บ้าง ดังนั้นในวันนี้เราจึงจะพาเพื่อนๆมาดูกันหน่อยดีกว่าครับว่า มีปัจจัยในการใช้งานรถใดๆบ้างที่ทำให้รถกินน้ำมัน ?

rider-and-passenger-tips-trick-01
– น้ำหนักตัวรถ
เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว หากรถมีน้ำหนักหรือโหลดเยอะ เครื่องยนต์ก็ต้องใช้กำลังมากขึ้นเพื่อที่จะดันรถคู่ใจของเราให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้า หากเพื่อนๆนึกไม่ออกก็เหมือนการที่เราวิ่งแบบมีกระเป๋าสะพายหนักๆ ย่อมเหนื่อยกว่าการวิ่งตัวเปล่า ดังนั้นการลดน้ำหนักสัมภาระ, ตัวรถ, หรือตัวเรา จึงสามารถช่วยในเรื่องนี้ได้

เพียงแต่หากเป็นรถมอเตอร์ไซค์ อาจจะไม่มีผลในเรื่องนี้เท่าไหร่นัก เพราะจุดที่สามารถลดน้ำหนักบนตัวรถได้มีน้อย (เว้นแต่เพื่อนๆจะทำรถแข่ง) น้ำหนักที่หายไปจึงไม่มากพอที่จะมีผลต่ออัตราสิ้นเปลืองมากขนาดนั้นอยู่ดี

tirepressurecheck-01
– ลมยาง
หากเพื่อนๆเคยติดตามการแข่งขันขี่รถหรือขับรถประหยัดน้ำมัน เพื่อนๆคงเคยได้ยินว่านักแข่งรายการนี้มักมีทริกพิเศษคือการเติมลมยางให้แข็งไว้ก่อน ซึ่งประโยชน์ของมันก็ไม่ซับซ้อนครับ อย่างแรกเลยก็คือพอยางแข็งแล้ว พื้นที่ผิวสัมผัสของหน้ายางกับถนนก็น้อยลง ทำให้แรงเสียดทานของยางมีผลมาฉุดกำลังเครื่องฯน้อยลงนั่นเอง

ทว่ามันก็จะแลกมากับความปลอดภัยของตัวผู้ใช้เองนั่นแหล่ะครับ เพราะถ้ายางเกาะถนนได้น้อยลงโอกาสที่รถจะลื่นไถล หรือหลุดโค้งก็มีมากขึ้นตาม ดังนั้นสำหรับเพื่อนๆที่อยากให้รถประหยัดน้ำมันล่ะก็ เติมลมยางแค่ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม อย่าปล่อยให้ลมอ่อนเกินไปก็พอครับ

รถติด
– สภาพการจราจร
หากเพื่อนๆเป็นคนที่ต้องใช้รถในเมือง แล้วเจอกับสภาพจราจรติดขัดเดี๋ยวต้องเบรก เดี๋ยวต้องเร่งเป็นพักๆประจำ มันก็ย่อมไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอยู่แล้ว ที่เครื่องยนต์ของเราจะกินน้ำมันกว่าปกติ เพราะการเร่งเครื่องยนต์เพื่อให้ไต่ความเร็วขึ้นแล้วเบรกบ่อยๆนั้น เครื่องยนต์จะใช้น้ำมันในการสร้างกำลังเพื่อไต่ความเร็วขึ้นมากกว่าการวิ่งด้วยความเร็วคงที่ สังเกตง่ายๆแบบไม่ต้องอธิบายตามหลักฟิสิกส์ให้งงกัน คือแม้เพื่อนๆจะใช้รถด้วยความเร็วที่เท่ากัน แต่การขี่มาด้วยความเร็วนั้นอย่างคงที่แต่แรก มักจะใช้คันเร่งน้อยกว่าการเปิดคันเร่งจากหยุดนิ่งเพื่อให้ไปถึงความเร็วนั้นๆ และหลายครั้งเครื่องยนต์ก็จะต้องใช้รอบสูงกว่าด้วย เพราะต้องไล่เกียร์ขึ้นไปนั่นเอง

tips-trick-how-to-be-good-passenger-07
– พฤติกรรมการเปิดคันเร่ง
สำหรับปัจจัยนี้ ถือเป็นปัจจัยที่มีผลต่ออัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากที่สุดแล้ว เพราะแม้รถของเพื่อนๆจะประหยัดน้ำมันแค่ไหนตามใบข้อมูลที่ผู้ผลิตเคลมไว้ แต่ถ้าเพื่อนๆชอบเปิด/ปิดคันเร่ง หรือกระแทกคันเร่งอย่างรุนแรงบ่อยๆเพื่อเร่งแซง อัตราการการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อให้เครื่องยนต์สามารถไต่รอบขึ้นไปได้อย่างรวดเร็วนั้น ก็ย่อมสูงกว่าการค่อยๆเปิดคันเร่งเพื่อไต่ความเร็วอย่างเหมาะสมอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าหากเพื่อนๆซีเรียส อยากให้รถของตัวเองประหยัดน้ำมันขึ้นล่ะก็ ลองตั้งสติแล้วเช็คแขนหรือเท้าของเราก่อนนะครับ ว่าชอบกระแทกคันเร่งเกินไปหรือไม่

2020-yamaha-v4-engine-01
– ความสมบูรณ์ของเครื่องยนต์
สุดท้าย คือเพื่อนๆเคยหมั่นเช็คสภาพเครื่องยนต์และส่วนที่เกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะหากเครื่องยนต์ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ฟิต 100% อย่างเช่นเครื่องหลวมจนกำลังอัดในห้องเผาไหม้หาย หัวเทียนไม่ได้อยู่ในสภาพที่สามารถจุดระเบิดได้เต็มที่ การสันดาปที่เกิดขึ้นก็ย่อมจะไม่สมบูรณ์เหมือนเมื่อก่อน หรือแม้แต่กรองอากาศก็ไม่เคยเปลี่ยนหรือทำความสะอาด จนทำให้อากาศเข้ามาเผาไหม้กับน้ำมันเชื้อเพลิงได้น้อยลงจากที่ควรจะเป็น กล่อง ECU จึงต้องสั่งจ่ายน้ำมันมากขึ้น หรือตัวเพื่อนๆเองนั่นแหล่ะที่เป็นคนบิด หรือเหยียบคันเร่งมากขึ้น) เพื่อให้ได้กำลังที่เท่าเดิมกับที่เคยเป็น ยังไงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ก็ย่อมมากกว่าตอนที่เราออกรถมาใหม่ๆอยู่แล้ว

เพราะฉะนั้นปัจจัยสุดท้ายนี่ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เพราะหากมันมีผลต่ออัตราสิ้นเปลืองไปแล้ว ต่อให้เราปรับพฤติกรรมการขี่แค่ไหน ยังไงยานพาหนะของเราก็กินน้ำมันกว่าใครเพื่อนอยุ่ดีนั่นเอง

อ่าน Tips Trick เพิ่มเติมที่ได้ที่นี่

เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ

Share.

About Author

Background EXP in Automotive journalists more than 10 Years Writer & Test Driver @Pantip Garage 2018-Present @9carthai 2015- 2017 @Torque & VIPStyle Magazine 2015 @Autospinn 2012-2015 @GTmania.tv 2009-2010

error: Content is protected !!