Triumph Thruxton FINAL EDITION Café racer ที่ถือเป็นรุ่นสุดท้ายที่มาพร้อมความพิเศษ

รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์รุ่น “ทรักซ์ตัน” (Thruxton) ได้รับการยกย่องในฐานะสุดยอดรถจักรยานยนต์สไตล์ Café racer มาตั้งแต่ปี 1964 โดยจะเสร็จสิ้นการผลิตครั้งสุดท้ายในปี 2024 เพื่อเป็นการอำลารถจักรยานยนต์ที่ได้รับรางวัลคันนี้ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ จึงได้เปิดตัว “Thruxton Final Edition” รถจักรยานยนต์ที่มีความโดดเด่นและพิเศษเฉพาะตัว ที่มาพร้อมสเปคและสมรรถนะอันน่าทึ่ง รวมถึงความสามารถและสไตล์เหนือกาลเวลา

ด้วยพื้นฐานจากรุ่น Thruxton RS ซึ่งมีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม การควบคุมที่คล่องตัว และคุณสมบัติระดับพรีเมียม รุ่นพิเศษนี้จึงเป็นผลลัพธ์จากการพัฒนา Thruxton หลากหลายรุ่นก่อนหน้า จนกลายมาเป็นรถจักรยานยนต์รุ่นลิมิเต็ดที่สวยงามและน่าสะสมเป็นอย่างมากคันนี้ ทั้งนี้ Thruxton Final Edition ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามในเฉดสี Competition Green สุดพิเศษ โดยมีเส้นขอบสีทองวาดด้วยมือ ที่มาพร้อมลายเซ็นของศิลปินผู้วาด ทำให้รถจักรยานยนต์ Thruxton Final Edition เป็นการผสมผสานสไตล์ และความสง่างามแบบดั้งเดิมของ Thruxton RS เพื่อแสดงความเคารพต่อมรดกทางการแข่งรถอันยาวนานของ Thruxton

และเพื่อให้กลายเป็นรถจักรยานยนต์ที่นักสะสมและเหล่าแฟนพันธุ์แท้ไทรอัมพ์พึงปรารถนา Thruxton Final Edition แต่ละคันจะมาพร้อมกับใบรับรองผลิตภัณฑ์ของแท้ พร้อมหมายเลข VIN ที่เป็นเอกลักษณ์ของรถจักรยานยนต์ ลงนามโดยสมาชิกของทีมออกแบบ Thruxton 1200 และ มร. นิค บลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ นอกจากนี้ ตราสัญลักษณ์เครื่องยนต์ Final Edition อันเป็นเอกลักษณ์ยังถูกใส่บนรถจักรยานยนต์แต่ละคัน ซึ่งจะถูกวาดด้วยขอบสีทอง และกราฟิก ‘Final Edition’ ซึ่งตราสัญลักษณ์ที่สวยงามนี้จะทำให้รถจักรยานยนต์คันนี้กลายเป็นผลงานชิ้นยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน

เป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นและเป็นเอกสิทธิ์สำหรับผู้ชื่นชอบรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์รุ่น Thruxton ที่จะได้ครอบครองหนึ่งในรถจักรยานยนต์ที่หายากในประวัติศาสตร์ไทรอัมพ์ และเป็นเจ้าของ Thruxton รุ่นที่อยู่บนจุดสูงสุดของการพัฒนา

พัฒนาขึ้นโดยมีสเปคพื้นฐานเดียวกับ Thruxton RS และนี่เป็นเพียงไฮไลท์บางส่วนของรถจักรยานยนต์ Thruxton Final Edition
• เครื่องยนต์บอนเนวิลล์กำลังสูง 1200cc – เวอร์ชันที่ทรงพลังที่สุดของเครื่องยนต์สูบคู่สัญชาติอังกฤษสุดคลาสสิก ที่ผลิตขึ้นตามมาตรฐาน Euro 5 ให้พละกำลังที่ 105 แรงม้า พร้อมแรงบิด 112 นิวตันเมตร เครื่องยนต์ความเฉื่อยต่ำที่ตอบสนองพร้อมลูกสูบกำลังอัดสูง พอร์ตทางเดินไอดีและไอเสียที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ พร้อมแคมชาฟท์ มอบสมรรถนะอันเร้าใจ ตลอดจนท่อไอเสียที่เป็นเครื่องหมายการค้าของ Thruxton
• โช้คหัวกลับแบบ ‘Big Piston’ ของ Showa ที่ปรับได้เต็มที่ และระบบกันสะเทือนด้านหลังคู่ของ Öhlins ช่วยให้ Thruxton Final Edition มีการควบคุมรถสไตล์ Café racer อันน่าทึ่ง โดยให้ความคล่องตัว การควบคุม และการตอบสนองของผู้ขับขี่ที่ดีที่สุดในระดับเดียวกัน
• ล้ออะลูมิเนียม 32 ซี่ น้ำหนักเบาขนาด 17 นิ้ว ที่มาพร้อมกับยาง Metzeler Racetec RR ให้ความมั่นคงขณะวางเท้าและการยึดเกาะถนนที่ทรงพลัง
• คาลิปเปอร์โมโนบล็อกเรเดียล Brembo M50 ให้ประสิทธิภาพการเบรกระดับการแข่งขัน พร้อมเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยด้วยระบบ ABS ขณะขับขี่บนท้องถนน
• โหมดการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ Road, Rain และ Sport สำหรับการปรับเปลี่ยนลิ้นปีกผีเสื้อ และการตั้งค่าระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (Traction Control) ได้ทันที
• ระบบแผงหน้าปัดนาฬิกาคู่ รวมถึงการตั้งค่าโหมดการขับขี่ ตำแหน่งเกียร์ ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง และมาตรวัดระยะทาง
• ระบบไฟ LED รวมถึงไฟ DRL ที่โดดเด่น พร้อมฝาครอบหลอดไฟที่มีตราสัญลักษณ์และไฟท้ายขนาดกะทัดรัด
• ช่องชาร์จ USB ที่สะดวกสบาย เหมาะสำหรับอุปกรณ์นำทางจีพีเอส การใช้โทรศัพท์ และอุปกรณ์อื่น ๆ

คุณสมบัติพิเศษเฉพาะของรุ่น Final Edition ได้แก่:
• ธีมสี Competition Green
• แผงด้านข้างและบังโคลนสีดำตัดกัน
• เส้นวาดสีทองด้วยมือบนถังน้ำมันเชื้อเพลิง และครอบเบาะนั่งพร้อมอักษรย่อของศิลปินผู้วาด
• โลโก้ไทรอัมพ์สีทองแบบดั้งเดิมบนถังน้ำมัน
• ตราสัญลักษณ์ Thruxton Final Edition
• สัญลักษณ์เครื่องยนต์ Final Edition
• ใบรับรองผลิตภัณฑ์ของแท้

ประสิทธิภาพสูงสุด
สุดยอดรถจักรยานยนต์ Café racer อย่าง Thruxton Final Edition มาพร้อมเครื่องยนต์บอนเนวิลล์ 1200cc ที่ทรงพลังที่สุดในกลุ่มรถโมเดิร์นคลาสสิกของไทรอัมพ์

เครื่องยนต์สูบคู่ที่ได้รับการปรับแต่งมาสำหรับ Thruxton โดยเฉพาะ ให้กำลัง 105 แรงม้า ที่7,500 รอบต่อนาที พร้อมกำลังที่เพิ่มขึ้นทั้งในช่วงรอบต่ำ เพื่อให้อัตราเร่งเร้าใจตลอดรอบกลางและไปจนถึงรอบสูง แรงบิดน่าประทับใจเช่นกัน โดยให้แรงบิด 112 นิวตันเมตร ในช่วงรอบเครื่องยนต์เร็วกว่ารถที่ใช้เครื่องบอนเนวิลล์รุ่นอื่น ๆ ที่ 4,250 รอบต่อนาที ประสิทธิภาพสูงสุดที่เหมาะกับรถจักรยานยนต์อันเป็นเอกลักษณ์คันนี้ ทำให้รุ่น Final Edition มีความพิเศษอย่างแท้จริง

การควบคุมที่ทันสมัย คล่องตัว และใช้งานง่าย
Thruxton ได้รับการยกย่องอย่างมากจากผู้ขับขี่ และสื่อมวลชนในเรื่องของการควบคุมที่เป็นธรรมชาติ มีความไดนามิก ซึ่งเน้นไปที่สมรรถนะเป็นหลัก จากตำแหน่งการขี่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการแข่งขัน พร้อมแฮนด์จับแบบคลิปออน โดยทุกส่วนประกอบได้รับการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน จากนั้นปรับแต่งอย่างละเอียด เพื่อดึงสิ่งที่ดีที่สุดของแชสซีที่เน้นความเป็นสปอร์ตของ Thruxton Final Edition ออกมา

โช้คหัวกลับ Big Piston สเปคสูงระดับพรีเมียมจาก Showa ที่จับคู่กับระบบกันสะเทือนหลังคู่ Öhlins ส่งมอบความสามารถในการปรับแต่งได้อย่างเต็มที่ ให้ความสมดุลที่สมบูรณ์แบบของความสะดวกสบาย และการควบคุมถนนที่ยอดเยี่ยม คาลิปเปอร์เรเดียล Brembo M50 ที่ดีที่สุดในระดับเดียวกันที่จับคู่กับจานเบรกแบบลอย Brembo ขนาด 310 มม. ให้พลังการหยุดมหาศาลพร้อมความรู้สึกของคันเกียร์ที่ใช้งานง่ายและระบบ ABS ที่เสริมความมั่นใจ

ล้อ Tubeless น้ำหนักเบา 32 ซี่ ขนาด 17 นิ้ว ยังช่วยเพิ่มความคล่องตัวของ Thruxton ในขณะที่สัมผัสกับถนนได้อย่างมั่นใจพร้อมยาง Metzeler Racetec RR ซึ่งมอบประสิทธิภาพในการยึดเกาะระดับสนามแข่งและตอบสนองของผู้ขับขี่อย่างยอดเยี่ยม

สไตล์ CAFÉ RACER อันเป็นเอกลักษณ์
รถจักรยานยนต์สไตล์ Café racer ที่ไม่มีใครเลียนแบบได้ของ Thruxton ด้วยสไตล์สีดำร่วมสมัยที่มีฝาครอบเครื่องยนต์เคลือบ Powder-coated ฝาครอบลูกเบี้ยว และขอบล้อสีดำชุบอะโนไดซ์ระดับพรีเมียม พร้อมความใส่ใจในรายละเอียดที่ทอดยาวไปจนถึงระบบกันสะเทือนหลังของ Öhlins ที่ถูกยกระดับขึ้นไปอีกระดับสำหรับรุ่น Final Edition

โทนสี Competition Green เพื่อเฉลิมฉลองการแข่งขันที่ได้รับการยกย่องของ Thruxton ในอังกฤษด้วยโลโก้ ไทรอัมพ์แบบคลาสสิก และรายละเอียดลายเส้นสีทองที่เข้ากันที่วาดด้วยมือบนถังน้ำมันและฝาครอบเบาะนั่งสีเขียวเข้มอันน่าทึ่งนี้ตัดกับสีดำเงาของแผงด้านข้างและบังโคลน พร้อมตกแต่งด้วยโลโก้ Thruxton Final Edition สุดพิเศษ

รายละเอียดเครื่องหมายการค้าของ Thruxton ทั้งหมดยังคงอยู่ ตั้งแต่เบาะนั่งแบบกระสุนเดี่ยวและฝาปิดถังน้ำมันเชื้อเพลิงสไตล์ Monza ไปจนถึงสายรัดถังน้ำมันสแตนเลสปัดเงา สวิงอาร์มอะลูมิเนียมชุบอะโนไดซ์ใส ที่พักเท้าแบบสปอร์ต และแฮนด์จับแบบคลิปออน ผลลัพธ์ที่ได้คือรถจักรยานยนต์รุ่นพิเศษที่โดดเด่นซึ่งสะท้อนถึงจิตวิญญาณของตำนาน

สุดพิเศษสำหรับรุ่น FINAL EDITION ด้วยอุปกรณ์เสริมสีที่เข้ากันกับค็อกพิทแฟริ่ง
อุปกรณ์เสริมของแท้จากไทรอัมพ์สำหรับรุ่น Thruxton มีมากกว่า 80 รายการ รวมถึง เบาะนั่งซ้อนท้าย ที่พักเท้า และราวจับผู้โดยสาร และตัวเลือกมากมายเพื่อเพิ่มสไตล์ การปกป้อง ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย

นอกจากนี้ อุปกรณ์เสริมค็อกพิทแฟริ่งยังได้รับการออกแบบเป็นพิเศษสำหรับรุ่น Final Edition โดยมีสีที่เข้ากันอย่างลงตัวกับเฉดสี Competition Green รุ่นลิมิเต็ดเอดิชัน ทั้งสวยงามและใช้งานได้จริง ค็อกพิทแฟริ่งอันน่าทึ่งนี้นำความงดงามอีกรูปแบบหนึ่งมาสู่ Thruxton Final Edition อันโดดเด่น

เป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ตำนานแห่งชัยชนะ
มร. พอล สเตราท์ ประธานเจ้าหน้าที่การพาณิชย์ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ กล่าวว่า “Thruxton เป็นจักรยานยนต์ในดวงใจของเหล่านักบิดทั่วโลก และเราภูมิใจเป็นอย่างยิ่งกับรุ่น Final Edition นี้ ที่ได้รวมเอาแก่นแท้ของวงการ Café racer สัญชาติอังกฤษเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม โดยจะปิดฉากการผลิต Thruxton ที่รุ่นพิเศษนี้เป็นรุ่นสุดท้าย เพื่อจารึกถึงตำนานความยิ่งใหญ่ไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์”

เปิดไทม์ไลน์สุดยอดรถจักรยานยนต์ CAFÉ RACER ตลอด 60 ปีแห่งชัยชนะ
แม้ Bonneville จะเริ่มต้นผลิตครั้งแรกในช่วงยุค 50 แต่ Thruxton ได้ถือกำเนิดขึ้นหลังจากนั้นในปีค.ศ. 1964 ในฐานะรถจักรยานยนต์ CAFÉ RACER รุ่นลิมิเต็ด ซึ่งประสบความสำเร็จในการแข่งขัน Endurance โดยหลังการเปิดตัว Thruxton รุ่นลิมิเต็ดนี้ก็ได้รับรางวัลเกียรติยศสูงสุด กวาดครบ 3 รางวัลจากการแข่งขันระยะทาง 500 ไมล์ในปีค.ศ. 1969 และไม่นานหลังจากประสบความสำเร็จในการแข่งขัน Isle of Man TT รถจักรยานยนต์ Thruxton ก็กลายเป็นรถจักรยานยนต์รุ่นแรกที่สามารถขับขี่บน Mountain Course ด้วยความเร็วมากกว่า 100 ไมล์ต่อชั่วโมง และด้วยสไตล์การขับขี่ที่ไร้ข้อจำกัด การควบคุมรถ ไปจนถึงสมรรถนะอันยอดเยี่ยม ทำให้ Thruxton กลายเป็นพระเอกที่ขาดไม่ได้สำหรับการแข่งขัน Grand Prix ทั่วโลก

Thruxton ที่ทันสมัยและเข้าถึงทุกคน
ในปี 2016 Thruxton R เครื่องยนต์ 1200cc ตัวแรกได้ออกสู่สายตาสาธารณะชน ทำให้เกิดเกณฑ์มาตรฐานประสิทธิภาพใหม่ในประเภทที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ 3 ปีต่อมา Thruxton RS ได้เปิดโลกการขับขี่ใหม่ ด้วยพละกำลังที่เพิ่มขึ้น การบังคับรถที่ดีขึ้น และสเปคที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ Thruxton RS ปี 2019 มีสมรรถนะที่ไม่มีใครเทียบได้และมีรูปลักษณ์ที่สวยงามเข้ากันได้อย่างลงตัว

วิวัฒนาการขั้นสุดท้าย
สุดยอดแห่งการพัฒนารถจักรยานยนต์ Thruxton โดยไทรอัมพ์ได้เฉลิมฉลองด้วยการรังสรรค์รุ่น Final Edition สุดพิเศษ ที่มาพร้อมความงดงาม ความสมบูรณ์แบบที่ลงสีด้วยมือ ซึ่งพร้อมสำหรับการผลิตครั้งสุดท้ายที่จะมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

สเป็ก Triumph Thruxton FINAL EDITION

เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
Thruxton Final Edition
ประเภทเครื่องยนต์ เครื่องยนต์สูบคู่แบบ SOHC (Single Over Head Camhaft) 8 วาล์ว ช่วงจุดระเบิด 270° พร้อมระบายความร้อนด้วยของเหลว

ประมาตรกระบอกสูบ 1200 ซีซี
ขนาดกระบอกสูบ 97.6 มม.
ระยะชัก 80 มม.
อัตราส่วนการอัด 12.1:1
กำลังสูงสุด 105 PS / 103 bhp (77 กิโลวัตต์) @ 7,500 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 112 Nm @ 4,250 รอบต่อนาที
ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง Ride by wire, หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ต่อเนื่องหลายจุด
ท่อไอเสีย ท่อไอเสียแบบ 2 ออก 2 ปัดเงาพร้อมท่อเก็บเสียงปัดเงาคู่
ชุดขับท้าย โซ่ O-Ring
คลัตช์ คลัตช์เปียกแบบหลายแผ่นพร้อมระบบช่วยผ่อนแรง
กระปุกเกียร์ 6 สปีด

โครงรถ
Thruxton Final Edition
เฟรม โครงเหล็ก (Tubular steel) และคานเปล (Steel cradles)
สวิงอาร์ม โครงเหล็กอะลูมิเนียมแขนคู่ ชุบอะโนไดซ์ใส
ล้อหน้า วงล้ออะลูมิเนียม 32 ซี่ ขนาด 17 x 3.5 นิ้ว
ล้อหลัง วงล้ออะลูมิเนียม 32 ซี่ ขนาด 17 x 5 นิ้ว
ขนาดยางหน้า 120/70 ZR17
ขนาดยางหลัง 160/60 ZR17
ระบบกันสะเทือนหน้า โช้คหัวกลับแบบ Big Piston ขนาด 43 มม. ของ Showa ปรับตั้งได้อย่างสมบูรณ์ ระยะยุบตัว 120 มม.
ระบบกันสะเทือนหลัง โช้คหลังคู่ Öhlins พร้อมกระปุกน้ำมันแยก ปรับตั้งค่าได้อย่างเต็มรูปแบบ ระยะยุบตัวล้อหลัง 120 มม.
เบรกหน้า จานเบรกคู่แบบลอยตัวขนาด 310 มม. ของ Brembo และคาลิปเปอร์โมโนบล็อก 4 ลูกสูบ Brembo M50 พร้อมระบบเบรก ABS

เบรกหลัง จานเดี่ยว 220 มม. คาลิปเปอร์แบบลอยของ Nissin 2 ลูกสูบ พร้อมระบบเบรก ABS
หน้าจอแสดงผล แผงหน้าปัด LCD มัลติฟังก์ชัน ที่มีพร้อมทั้งมาตรวัดความเร็วแบบอะนาล็อก มาตรวัดอัตรารอบแบบอะนาล็อก สัญลักษณ์แสดงตำแหน่งเกียร์ เกจน้ำมันเชื้อเพลิง ระยะทางที่วิ่งได้ก่อนน้ำมันหมด สัญลักษณ์เตือนการซ่อมบำรุง นาฬิกา ทริปคอมพิวเตอร์ ปุ่มเลื่อนและปุ่มโหมดบนแฮนด์รถ พร้อมสำหรับติดตั้งปลอกมือจับปรับอุณหภูมิไฟฟ้า (อุปกรณ์เสริม) แสดงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง แสดงสถานะระบบควบคุมการยึดเกาะถนนและโหมดการขี่

ขนาดและน้ำหนัก
Thruxton Final Edition
ความกว้างแฮนด์บังคับ 745 มม.
ความสูงไม่รวมกระจก 1,030 มม.
ความสูงเบาะนั่ง 810 มม.
ระยะฐานล้อ 1,415 มม.
มุมเรค 22.8°
ความยาว Trail 92 มม.
น้ำหนักแห้ง 197 กิโลกรัม
ความจุถังน้ำมัน 14.5 ลิตร

ระยะเวลาการเข้ารับบริการ
Thruxton Final Edition
Service interval 16,000 กม.หรือ 12 เดือน อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน