Kawasaki Ninja 400 VS KTM Duke 390 ใหม่ ในงบ 2 แสน "สปอร์ตตัวแรง" หรือ "เน็คเกตทันสมัย" คันไหนน่าโดนกว่ากัน ?

จากกรณีการเปิดตัวมอเตอร์ไซค์ยอดนิยม 2 รุ่น จาก 2 ค่ายในไทย ทั้ง 2018 KTM Duke 390 และ 2018 Kawasaki Ninja 400 ซึ่งผลปรากฏว่าตัวเลขราคาที่ถูกตั้งไว้เพื่อทำตลาดนั้น ถือว่าชนกันในระดับ 2 แสนบาทพอดีเป้ะ ทำให้หลายคนเริ่มเปรียบเทียบกันว่าหากพวกเค้ามีเม็ดเงินราวๆนี้ การเลือกซื้อโมเดลไหนถึงจะเหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด

ดังนั้นในบทความนี้เรา ทาง MotoRival จึงจะขอพาเพื่อนมาชมออพชั่นของทั้งสองคันว่าคันไหนที่ให้ข้อเสนอมาครบครันยิ่งกว่าให้เพื่อนๆได้ทราบไปพร้อมๆกัน

เครื่องยนต์

2018 Kawasaki Ninja 400 : Inline 2 / 70 mm x 52.8 mm / 45 Bhp @ 10,000 RPM / 38 Nm @ 8,000 RPM
2018 KTM Duke 390 : Single Cylinder / 89 mm x 60 mm / 44 Bhp @ 9,000 RPM / 37 Nm @ 7,000 RPM

ครับ ในหมวดแรกที่เราจะเกริ่นถึงกันก่อนเลยนั่นก็คือเครื่องยนต์ ซึ่งอย่างที่เพื่อนๆทราบกันดีกว่าในสองรุ่นนี้จุดแตกต่างหลักๆของมันเลยก็คือจำนวนลูกสูบ โดยทางฝั่งของ Ninja 400 นั้นให้จำนวนลูกสูบมา 2 ลูกสูบด้วยกัน ส่งผลให้ความสนุกของการเล่นกับตัวรถนั้นอยู่ที่การได้รีดรอบจนทะลุย่านกำลังสูงสุดระดับ 45 แรงม้า ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของมันตั้งแต่ต้นตระกูลตอนยังเป็นแค่ Ninja 250 อยู่แล้ว ในขณะที่ทางฝั่งของ Duke 390 นั้น ก็ยังคงใช้เครื่องยนต์แบบลูกโตสูบเดียว ซึ่งโดดเด่นในเรื่องของความหนักแน่นของอัตราเร่งจากแรงบิด 37 นิวตันเมตรที่ 7,000 รอบ/นาที ที่มาแบบตู้มเดียวพร้อมจะทะยานออกไปตามสไตล์ของเครื่องยนต์ลักษณะนี้ ดังนั้นถ้าพูดถึงเรื่องความสนุกในการขับรถแบบผาดโผนล่ะก็ เจ้า Duke คันนี้น่าจะให้การตอบสนองและรองรับได้ดีกว่า

นอกจากนี้จุดเด่นอีกอย่างที่ทำให้ทั้งสองคันแตกต่างจากชาวบ้านก็คือระบบ Assist & Slipper Clutch ที่ถูกติดตั้งมาให้ตั้งแต่ออกโรงงาน ซึ่งในตอนนี้ยังไม่มีรถมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ในช่วงพิกัดความจุ 300-400cc และราคาราวๆ 2 แสนบาทจากค่ายใดติดตั้งมาให้แม้แต่คันเดียวยกเว้นของสองค่ายนี้ แต่สิ่งนึงที่เราอยากยกความดีความชอบให้กับทาง KTM ก็คือพวกเค้าได้ทำการปรับระบบคันเร่งใหม่ให้เป็นแบบ Ride By Wire หรือคันเร่งไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่มีโหมดใดๆให้ปรับเลยก็ตาม แต่ก็ถือว่าได้ความล้ำสมัยไปเต็มๆ

ระบบกันสะเทือน

2018 Kawasaki Ninja 400 : โช้คหน้าตะเกียบคู่ ขนาดแกน 41 มิลลิเมตร / สวิงอาร์ม ‘เหล็กกล่อง’ พร้อมโช้คหลังแก๊สเดี่ยวพร้อมระบบกระเดื่องทดแรง “Uni-Trak” ปรับความแข็งอ่อนได้ 5 ระดับ
2018 KTM Duke 390 : โช้คหน้าหัวกลับ ขนาดแกน 43 มิลลิเมตร จาก WP / สวิงอาร์ม ‘เหล็กหล่อ’ ขึ้นรูปพร้อมโช้คเดี่ยวปรับความแข็งอ่อนได้ 5 ระดับจาก WP

ด้านหมวดระบบกันสะเทือนนั้นถือว่าได้เสียคนละอย่างเพราะทางฝั่ง Duke นั้นจะให้โช้กอัพคู่หน้าเป็นแบบหัวกลับขนาดแกนใหญ่ถึง 43 มิลลิเมตรของ WP พาร์ทเนอร์คู่ใจมาให้ตั้งแต่ออกโรงงานซึ่งแน่นอนว่าจะมีภาษีที่ดีกว่าในเรื่องของหน้าตาและชื่อชั้นของผู้ผลิต ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหลัง แม้ว่าของ Duke จะเป็นแค่โช้คเดี่ยวธรรมดา ปรับแข็งอ่อนได้ 5 ระดับแต่ก็ยังเป็นของ WP เช่นกัน รวมถึงสวิงอาร์มก็ยังเป็นแบบเหล็กหล่อขึ้นรูปสวยงาม ซึ่งดูดีกว่าของ Ninja 400 ที่เป็นแบบเหล็กกล่องธรรมดาขึ้นมาหลายขุม (แต่ก็ยังดีที่ตัวโช้กหลังมีชุดกระเดื่องทดแรงมาให้ซึ่งก็พอสู้กับคู่แข่งได้อยู่บ้างในเชิงความรู้สึก)

ระบบเบรก

2018 Kawasaki Ninja 400 : ด้านหน้า คาลิปเปอร์ 2 ลูกสูบ ทำงานร่วมกับจานเบรกขนาด 310 มิลลิเมตร / ด้านหลัง คาลิปเปอร์ 1 ลูกสูบ ทำงานร่วมกับจานเบรกขนาด 220 มิลลิเมตร (มีระบบ ABS ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง)
2018 KTM Duke 390 : ด้านหน้า เรเดียลเมาท์คาลิปเปอร์ 4 ลูกสูบจาก Byre ทำงานร่วมกับจานเบรกขนาด 320 มิลลิเมตร / ด้านหลัง คาลิปเปอร์ 1 ลูกสูบ ทำงานร่วมกับจานเบรกขนาด 230 มิลลิเมตร (มีระบบ ABS จาก Bosch รุ่น 9MP ทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง โดยผู้ใช้สามารถสั่งปิดการทำงานของระบบ ABS ที่ล้อหลังได้ในโหมดการขับขี่แบบ Super Moto )

ในเรื่องของระบบเบรกก็ยังเป็นทางฝั่ง KTM ที่ยังให้ออพชั่นมาดีกว่า (ถ้าหากพูดถึงในเรื่องของหน้าตา) เพราะให้มาทั้งชุดคาลิปเปอร์เบรกแบบเรเดียลเมาท์และจานเบรกหน้าขนาดใหญ่สะใจถึง 320 มิลลิเมตร ในขณะที่ระบบ ABS เองก็ยังเป็นรุ่นอัพเกรดจาก Bosch มาแล้วเรียบร้อย แถมในส่วนของล้อหลังก็ยังสามารถสั่งเปิดปิดได้ตามใจสั่งของผู้ใช้อีกด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องมาวัดกันอีกทีในการทดสอบขับขี่จริงๆว่าเจ้า Duke จะสามารถทำได้ดีจริงหรือไม่เมื่อเทียบกับทางฝั่งของ Ninja 400 ของ Kawasaki

ขนาดหน้ายาง

2018 Ninja 400 : ด้านหน้า 110/70-17 / ด้านหลัง 150/60-17
2018 KTM Duke 390 : ด้านหน้า 110/70-17 / ด้านหลัง 150/60-17

ในส่วนของหน้ายางนี้ไม่มีอะไรแตกต่างกันมากมายนัก เพราะให้ขนาดหน้ายางมาเท่ากันทั้งคู่ คือ 110 มิลลิเมตรที่ล้อหน้า และ 150 มิลลิเมตรที่ล้อหลัง แต่อาจจะแตกต่างกันนิดหน่อยคือยางติดรถที่แถมมาให้ซึ่งทางฝั่ง KTM Duke 390 จะให้ยาง Metzeler รุ่น Sportec M5 ติดรถ ในขณะที่ทาง Kawasaki Ninja 400 จะเป็นยางของ Dunlop รุ่น Sportmax GPR-300 (อย่างน้อยๆก็น่าจะดีกว่ายางของรุ่นก่อนที่เป็นของ iRC รุ่น Roadwiner RX-01 ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งถึกทนจนไม่คิดจะเกาะถนนเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจั้งแต่ช่วงกลางของอายุการใช้งานเป็นต้นไป)

ขนาดตัวรถ (กว้าง x ยาว x สูง )

2018 Ninja 400 : 710 mm x 1,990 mm x 1,120 mm
2018 KTM Duke 390 : 836 mm x 2,026 mm x 1,267 mm

ด้านขนาดตัวรถนั้นไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความเลย เพราะเมื่อมองจากตัวเลขเพียงแว้บเดียวก็ทราบได้ทันทีว่าทางฝั่ง KTM Duke 390 นั้นให้สเกลใหญ่กว่า Ninja 400 ในทุกๆด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความกว้างตัวรถซึ่งอาจจะเป็นผลมาจากแฮนด์บาร์ที่กางออกตามสไตล์แน็คเก็ทไบค์ก็เป็นได้

นอกจากนี้ทางฝั่ง KTM Duke 390 ก็ยังมีอีกหนึ่งออพชั่นที่น่าสนใจก็คือชุดหน้าจอแสดงผล TFT Full Color ที่สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัทพ์มือถือเพื่อเข้าสู่โหมดนำทาง ฟังเพลง และอื่นๆอีกมากมายผ่านระบบ KTM My Ride ซึ่งผู้ขับขี่สามารถสั่งการระบบทั้งหมดได้ผ่านชุดปุ่มกดบริเวณประกับแฮนด์ด้านซ้าย

อย่างไรก็ตามแม้ว่าเมื่อมองโดยภาพรวมแล้วออพชั่นต่างๆของทางฝั่ง KTM จะให้มาค่อนข้างจัดเต็มกว่าของ Kawasaki แต่ถ้าพูดถึงในการใช้งานจริงๆแล้วล่ะก็ เราอาจจะต้องมาดูอีกทีว่าทุกสิ่งอย่างที่ติดรถ Duke มานั้นจะสามารถทำงานได้ดีแค่ไหนบนสภาวะการขับขี่จริง

นอกจากนี้อีกหนึ่งปัจจัยหลักที่จะทำให้เพื่อนตัดสินใจเลือกซื้อรถสักคันอาจจะไม่ได้อยู่ที่อุปกรณ์ต่างๆติดรถ แต่อาจจะเป็นที่หน้าตาของตัวรถและลักษณะการใช้งานของเพื่อนๆเองว่าต้องการแบบไหน เพราะตัว Duke 390 เป็นแบบแน็คเก็ทไบค์ที่เน้นการขับขี่ด้วยจุดเด่นเกี่ยวกับพละกำลังในช่วงรอบต่ำซึ่งอาจจะโดนใจสายสตันท์หรือคนเมืองซะมากกว่า ในขณะที่ฝั่ง Ninja 400 ของ Kawasaki เองก็เป็นรถมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ต-ทัวร์ริ่งซึ่งตอบโจทย์การใช้งานเชิงท่องเที่ยวด้วยความเร็วสูงมากกว่า ซึ่งตรงจุดๆนี้เพื่อนๆต้องตอบตัวเองแล้วล่ะครับว่าตัวเองต้องการไปสายไหน ด้วยเม็ดเงินในมือที่ถืออยู่ 200,000 บาท