หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีรายงานอย่างเป็นทางการออกมาว่า Toprak Razgatlıoğlu นักแข่งดีกรีแชมป์โลกจากที่ Yamaha ในฝั่งรายการรถโปรดักชั่น ทำการประกาศขอไม่ไปต่อกับค่ายรถเดินที่คว้าแชมป์โลกด้วยกันมา โดยระบุเหตุผลว่าต้องการไปหาความท้าทายครั้งใหม่กับค่ายรถใหม่(มีข่าวลือว่าเป็น Honda และ BMW) แต่หากเราดูจากปัญหาที่ค่ายรถรายนี้ต้องเจออยู่ใน MotoGP จะมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่นักแข่งรายนี้ จะย้ายทีมเพราะรถพัฒนาไม่เป็นตามที่หวัง?
สื่อมอเตอร์สปอร์ตต่างประเทศอย่าง GPOne ได้ทำการวิเคราะห์เหตุผลที่ Toprak Razgatlıoğlu ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับ Yamaha ไว้เบื้อต้น 3 อย่างคือ “ผลทดสอบตัวแข่ง M1” และ “การพัฒนารถ R1” หรือไม่ก็เรื่องพื้นฐานอย่าง “เงิน” โดยเราจะขอเริ่มที่อย่างหลังก่อน เพราะในปัจจุบัน Razgatlıoğlu มีรายได้จากค่ายส้อมเสียงปีละประมาณ 1.2-1.3 ล้านยูโร ซึ่งค่ายรถรายอื่นอาจจะมีข้อเสนอสำหรับนักแข่งดีกรีแชมป์โลกที่ดีกว่านี้ แม้แต่อาจารของเขาอย่าง Kenan Sofuoğlu ที่เป็นแชมป์ในคลาสกลางยังได้เงินมากกว่านี้ด้วยซ้ำ
การพัฒนาตัวแข่ง Yamaha YZF-R1 ที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่แย่เป็นพิเศษ เพราะรถค่ายนี้ยังสามารถสู้อยู่หัวแถวได้ตลอด แถมมีข้อมูลการพัฒนารถคอยสนับสนุน จากการที่มีรถรุ่นเดียวกันอยู่ในสนามจำนวนมาก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้วค่ายส้อมเสียงก็ยังถูก Ducati แซงฉีกในทางตรงอยู่ดี(ไม่ต่างกับฝั่ง MotoGP) ยกตัวอย่างเช่นในการแข่งขันฤดูกาลล่าสุดที่ผ่านไปแล้ว 12 เรซ Toprak Razgatlıoğlu สามารถคว้าชัยชนะไปได้เพียง 1 เรซ แถมยังเป็น Sprint Race ที่มีคะแนนแค่ครึ่งเดียวด้วยซ้ำ ส่วนการแข่งขันอีก 11 เรซ นั้นถูกแชมป์เก่าอย่าง Alvaro Bautista ชิงไปหมดแบบขาดลอยชนิดที่ดูไม่มีแววสู้ได้แม้แต่น้อย
เรื่องสุดท้ายคือความหวังการย้ายไปสู่ MotoGP ที่ดูจะยากลำบาก เนื่องจากเจ้าตัวไม่ค่อยพอใจกับผลทดสอบตัวแข่งของรถสูตร Yamaha YZR-M1 เท่าไรนัก ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบทั้งใน Aragon และ Jerez ที่นักแข่งของเราพยามร้องข้อให้ทางค่ายส้อมเสียงช่วยปรับท่านั่งให้เหมาะกับเขามากขึ้น แต่ก็ดูเหมือนว่าทางค่ายจะยังมีท่าทีไม่เชื่อใจ Toprak Razgatlıoğlu เท่าที่ควร เพราะแม้แต่อาจารย์ของเขาก็ได้ให้ข้อมูลกับสื่อว่า การทดสอบดังกล่าวเป็นแบบขอไปที และไม่ได้ทำเพื่อจะย้ายตัวแชมป์โลกรายนี้ไปอยู่รายการใหญ่
ที่มา gpone
อ่านข่าวสาร Motorsport เพิ่มเติมได้ที่นี่
