ผ่านไปหลายเดือนเลยทีเดียวนับตั้งแต่ Yamaha Tricity 300 ได้ถูกวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในโลกที่ประเทศสเปนเมื่อเดือนพฤษภาคม ล่าสุดเจ้าสกู๊ตเตอร์ 3 ล้อพิกัด 292cc รุ่นนี้ก็ถูกเปิดตัวและวางจำหน่ายในบ้านเกิดตนเองสักทีด้วยราคาที่ยังจัดว่าสูงอยู่เช่นเคย แม้จะไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าอีกต่อไปแล้วเหมือนการนำไปวางจำหน่ายในทวีปยุโรปก็ตาม
โดยสำหรับตัวรถ Yamaha Tricity 300 จะเปรียบเสมือนการเอา Yamaha Xmax 300 และ Tricity 150 มารวมร่างกัน นั่นก็คือการที่มันจะใช้เครื่องยนต์บล็อกสูบเดียว 292cc SOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่สามารถทำแรงม้า 27.6 HP ที่ 7,250 รอบ/นาที และแรงบิดอีก 29 Nm ที่ 5,750 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ CVT แบบ Xmax แต่มาพร้อมกับชุดเฟรมใหม่ที่ออกแบบให้รองรับกับระบบบังคับเลี้ยว LMW (โช้ก 4 ต้น ยึดกับล้อฝั่งละ 2 มีชุดคานที่สามารถทำให้ล้อคู่หน้าเลี้ยวและเอียงตามองศาของรถได้โดยไม่งัดซึ่งกันและกัน) เหมือนของ Tricity
ส่วนลูกเล่นและจุดเด่นอื่นๆที่เพิ่มเข้ามาในตัว Tricity 300 คันนี้ก็คือระบบล็อคแผงคอช่วยให้รถตั้งตรงขณะจอดพักติดไฟแดง (ไม่ใช่ตอนจอดนิ่งเพื่อไปทำธุระ), ชุดมาตรวัด LCD-Full Digital, ชุดดิสก์เบรกคู่หน้า (ล้อละจาน) และดิสก์เบรกเดี่ยวด้านหลัง ขนาดใหญ่ 267 มิลลิเมตรเท่ากันทั้ง 3 ชิ้น, ขณะที่ชุดอัลลอยด์ขาด 14 นิ้วทั้ง 3 วง ก็รัดด้วยยางไซส์ 120/70-14 สำหรับคู่หน้า และ 140/70-14 สำหรับล้อเดี่ยวด้านหลัง, ถังน้ำมันความจุ 13 ลิตร, และน้ำหนักตัวก็ถือว่าเยอะเอาเรื่องเพราะเคลมตัวเลขไว้สูงถึง 239 กิโลกรัม
ด้านราคาที่เป็นประเด็นน่าสนใจในครั้งนี้ของ Yamaha Tricity 300 สำหรับวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ก็จะเปิดไว้ที่ 957,000 เยน หรือประมาณ 284,000 บาท ซึ่งถ้าเทียบส่วนต่างราคากับตัวเลขที่รถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ถูกนำไปวางจำหน่ายในประเทศโซนยุโรปแล้ว เราจะพบว่ามันถูกกว่าแต่เพียงราวๆ 10,000 บาทเท่านั้น
หรือถ้าหากเทียบกับราคาของ Yamaha Tmax 560 ในประเทศญี่ปุ่น เจ้าสกู๊ตเตอร์ 3 ล้อ 292cc ที่ว่า ก็จะมีราคาถูกกว่าพี่ใหญ่ตระกู Max อยู่ประมาณ 100,000 บาทพอดิบพอดี ซึ่งถ้าหาก Yamaha Tricity 300 ถูกนำเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทย โดยมีฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นล่ะก็ ราคาของมันอาจจะพุ่งไปสูงถึงเกือบๆ 4 แสนบาทเลยทีเดียว เนื่องจากในฝั่ง Tmax 560 ตัวเริ่มต้นนั้นจะถูกวางจำหน่ายในบ้านเราด้วยราคา 499,000 บาทนั่นเอง
อ่านข่าวสาร Yamaha เพิ่มเติมที่ได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ
