BMW Motorrad ได้ทำการเปิดตัว เอ็นดูโร่ พาร์ค ไทยแลนด์ (Enduro Park Thailand) สนามฝึกขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ สไตล์ Enduro ของ BMW แห่งแรกในประเทศไทย ที่กรุงเทพฯ เมื่อช่วงเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมานี้
ล่าสุดทาง BMW Thailand ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้เปิดประสบการณ์ทดสอบ การขับขี่ในรูปแบบ Enduro ณ BMW Enduro Park ใหม่ แห่งนี้ เมื่อวันที่ 20 สค. 2015 ที่ผ่านมา ซึ่งทาง MotoRival เราจึงขอนำเสนอถ่ายทอดสู่ๆแฟนๆ กับ รีวิว เปิดประสบการณ์ BMW Enduro Park ในครั้งนี้
ก่อนจะเริ่มภาคปฏิบัติได้ คงต้องมาเริ่มกันที่ภาคทฤษฎีกันเสียก่อนในห้องเรียนซึ่งติดเครื่องปรับอากาศสู้แข่งกับอากาศภายนอก อันแสนร้อนแรงในช่วงเช้ากันเสียก่อน ซึ่งครูฝึกได้สอนตั้งแต่การจัดท่าขี่แบบ Enduro ซึ่งต้องใช้การยืนเป็นหลัก การใช้คลัช 2 นิ้วคอยเลี้ยงเพื่อตัดกำลงเครื่องยนต์ เป็นต้น
วางเท้าลงตรงกลางพักเท้า เข่าแนบชิดหนีบถังน้ำมัน งอข้อศอก ให้มีระยะยืดหยุ่น เหมือนเป็นโช้คอัพในการรับซับแรง สายตามองไกล โฟกัสในระยะมองเห็นที่ไกลที่สุด ขณะเลี้ยวให้ใช้ท่า Lean Out ลำตัวเอียงสวนทางตัวรถ และให้ใช้การบิดลำตัว แบบเปิดหน้าขาแทงเข่าช่วยในการเลี้ยว
หลังอบรมในห้องเรียนเสร็จสิ้นก็ออกมาบรีฟกันต่อกับท่านั่งบนตัวรถก่อนขี่จริงกันอีกครั้ง ซึ่งได้นำสิ่งที่เรียนในห้องมาลองจัดท่าทางนั่นเอง
เมื่อสวมหมวกเครื่องแต่งกายเสร็จเรียบร้อยทางทีมของเราได้ถูกแบ่งออกมาตามครูไก่ ซึ่งได้เริ่มต้นสอนตั้งแต่การแก้ปัญหาหากเกิดรถล้มจะต้องสามารถช่วยตนเองได้
โดยการพยุงรถขึ้นในท่าถีบขาขึ้น
เมื่อเสร็จเรียบร้อยก็มาต่อกันที่ภาคปฏิบัติในการขับขี่บนทางฝุ่นของจริง ซึ่งเบื้องต้นจะให้ขี่วนตาม Route เส้นทางโดยรอบของสนาม BMW Enduro Park แห่งนี้กันเสียก่อนเพื่อให้คุ้นชินกับตัวรถ และสไตล์การขี่ Enduro ที่ต้องใช้การยืนควบคุมโดยตลอด
เมื่อปรับความคุ้นชินกันสักพักกับการยืนขี่เป็นที่เรียบร้อย ก็เป็นการสอนเทคนิคการเบรกให้รถหยุดนิ่ง โดยการกำเบรกหน้าจนสุด (โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าล้อจะล๊อกเนื่องจากรถ BMW GS ทุกคันในสนามนี้มีระบบ ABS ติดตั้งมาด้วย)
เทคนิคอยู่ที่ให้กำเบรกหน้าจนสุดและกำคลัชค้างไว้ และใช้เทคนิคเอนก้นกบไปทางด้านหลังโดยที่ตำแหน่งพักเท้ายังอยู่ที่เดิม เพื่อถ่ายเทน้ำหนักในการบาลานซ์ตัวรถได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับในช่วงบ่าย จะต้องพบกับสเตนชั่นสุดหิน ซึ่งทางพี่ๆครูฝึกและทีมงานก็ได้สาธิตให้พวกเราได้ดูการขี่ที่ถูกต้องรวมถึงจำลองรถล้มในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อที่จะสอนเทคนิคการตั้งรถขึ้นได้อย่างถูกต้อง
– สเตชั่นแรกพื้นทราย นับได้ว่าเป็นฐานการขี่ที่ยากที่สุด เทคนิค คือ ให้ใช้การหักแฮนด์ซ้าย-ขวาๆ อยู่ตลอดเพื่อเปิดทางตะกุยทรายทางด้านหน้า และเปิดคันเร่งอย่างสมูทในทีเดียว ห้ามเปิดแบบเบิ้ล ซึ่งจะทำให้กำลังของล้อหลังหยุดไป และไม่ต้องใช้นิ้วไปยุ่งกับคลัชใดๆทั้งสิ้น
– สเตชั่นกรวด เทคนิคคล้ายการขี่ผ่านทราย คือให้เปิดคันเร่งส่งทีเดียว หนีบตัวถังให้มั่นคง สายตามองไกล โดยไม่จำเป็นต้องหักแฮนด์เพื่อเปิดทางถี่แบบการขี่ผ่านพื้นทราย
– สเตชั่นเนินต่อเนื่อง เทคนิคอยู่ที่การถ่ายเทน้ำหนัก โดยโน้มตัวไปข้างหน้าจังหวะขึ้นเนิน เปิดคันเร่งส่งเล็กน้อยทีเดียว เมื่อถึงหัวเนินปิดคันเร่ง โน้มตัวไปข้างหลังเตรียมลงเนิน กำเบรก กำคลัช
– สเตชั่นคลองโคลน สูงประมาณหน้าแข้ง เทคนิคคล้ายจังหวะลงเนิน และขึ้นเนิน แต่ให้ระวังเรื่องการเปิดคันเร่งมากขึ้น เน้นความสมูท ต้องระวังการเปิดคันเร่งมากเกินไปซึ่งจะส่งผลให้เกิด Traction Control ทำงาน ขณะวิ่งอยู่บนผิวน้ำซึ่งอาจเกิดอันตรายได้
– สเตชั่นเนินสูง (วัดใจ) ฐานนี้ดูเหมือนจะน่ากลัวมากที่สุด แต่จริงๆ แล้วไม่ยากอย่างที่คิด เทคนิคเหมือนการไต่ขึ้นเนินเล็ก โน้มตัวไปข้างหน้าจังหวะขึ้นเนิน เปิดคันเร่งส่งทีเดียว เมื่อถึงหัวเนินปิดคันเร่งให้ไว เตรียมตัวลงโดยการโน้มตัวไปข้างหลัง กำเบรก กำคลัช สายตามองให้ไกล และพยายามลงเนินให้ช้าที่สุด
เมื่อเรียนจบคอร์สหลักสูตรนี้ซึ่งนับเป็น Basic Enduro จะได้รับใบประกาศนียบัตรเบื้องต้น ว่าคุณได้ผ่านหลักสูตรเบื้องต้นและพร้อมที่จะไปขั้น Advanced ต่อได้หากต้องการ
ผู้ที่สนใจเรียนขับขี่สไตล์ Enduro ที่ Enduro Park Thailand สามารถสมัครเรียนได้โดยมีค่าใช้จ่าย 5,500 บาท สำหรับลูกค้าทั่วไป และ 5,000 บาท สำหรับลูกค้า BMW ซึ่งลูกค้า สามารถเลือกได้ว่าจะเรียนด้วยรถของตนเอง หรือว่าเช่ารถของทาง BMW ซึ่งมีให้เลือก ในรุ่น F700GS/F800GS ราคา 3,000 บาท และ R1200GS/R1200GS Adventure ราคา 4,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่รวมประกันภัยของตัวรถเรียบร้อย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ BMW Motorrad ทั่วประเทศ โทร 082-4410777
ขอขอบคุณ
BMW Thailand สำหรับกิจกรรม ทดสอบขี่ในสนาม BMW Enduro Park ครั้งนี้
พี่ๆทีมงานครูผู้ฝึกสอนทุกท่าน พี่บอล นักเลงมอเตอร์ไซค์ สำหรับคำแนะนำในการขับขี่ครับ
ภณ เพียรทนงกิจ ผู้เขียน
อ่านข่าวสาร BMW เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านรีวิวรถอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ