หลังจากที่ MotoRival เราได้วิเคราะห์คาดเดาว่า 2017 CBR1000RR จะมากับ 2 เวอร์ชั่น ซึ่งได้วิเคราะห์ไว้ในบทความ Spyshot 2017 CBR1000RR รุ่นใหม่ ไปแล้ว ซึ่งดูท่าแล้วมันจะเปิดตัวภายในสิ้นปีนี้ และทำตลาดเป็นโฉมปี 2017 อย่างแน่นอน
แต่ทว่าดูเหมือน Honda จะมาเหนือความคาดหมายอีกแล้ว เพราะ 2017 CBR1000RR จะมีให้เลือกถึง 3 สเป็กด้วยกัน โดยในบทความนี้เราจะพูดถึงความเปลี่ยนแปลงทั้งหมดสำหรับ “Fireblade” รุ่นใหม่ ว่ามันจะแตกต่างจากโฉมปี 2016 ไปมากเพียงใด
ตามที่เราได้บอกไปแล้วว่า ในภาพ Spyshot 2017 CBR1000RR ที่ได้มีเผยภาพหลุดออกมานี้ เห็นได้ชัดว่ามันเเป็นรุ่นพื้นฐาน เพราะใช้ปั๊มเบรกล่างจาก Tokico และ โช้คหน้าจาก Showa ซึ่งไม่ใช่ เบรก Brembo และ โช้คหน้า Ohlins ตัวท๊อปสเป็กแต่อย่างใด ดังนั้นมันจะต้องมีอีกรุ่นที่เป็นรุ่น High Performance ออกมาอย่างแน่นอน
ในช่วง 2 ปีมานี้ Honda ทำตลาด CBR1000RR ไว้ 2 รุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่ เวอร์ชั่นมาตรฐาน และเวอร์ชั่น SP แต่ในโมเดล 2017 จะมีทั้ง รุ่นมาตรฐาน รุ่นสมรรถนะสูง และรุ่นสำหรับลงสนามโดยเฉพาะ รวมเป็น 3 รุ่นด้วยกัน โดย 2 รุ่นหลังอาจจะใช้โค้ดเนมต่อท้ายว่า SP-1, SP-2 ตามลำดับ (ซึ่งคล้ายกับทางฝั่ง Yamaha ที่ทำตลาด R1 ไว้ 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ R1-S, R1, และ R1-M)
ระบบ Combined-ABS ใน CBR1000RR รุ่นปัจจุบันถูกถอดออกไป แล้วแทนที่ด้วยระบบ Cornering – ABS (ชุดซอฟแวร์รุ่น 9ME Plus) จาก Bosch ที่มีความฉลาดมากกว่าและเบากว่าเข้ามาติดตั้ง
เสริมด้วยระบบมาตรฐานที่รถซุปเปอร์ไบค์สมัยใหม่เลือกใช้กัน ทั้งระบบควบคุมการยึดเกาะ (TC), ระบบป้องกันล้อหน้ายก (Anti-Wheelie), ระบบควบคุมเสถียรภาพ (MSC), ระบบวัดองศาตัวรถ 6 ทิศทาง(IMU) และเพื่อให้นกแก้วคันนี้เหนือกว่าคู่แข่ง มันจึงมีทั้งระบบควบคุมแรงบิด (Torque Control), ระบบควบคุมแรงหน่วงเครื่องยนต์ (Engine Brake Control) และ Power Mode ที่ปรับปรุงมาจาก RC213V-S ติดตั้งให้พร้อมสรรพ
เครื่องยนต์ยังคงเป็นพื้นฐานเดิมกับโฉมปี 2016 ซึ่งเอาจริงๆมันถูกลากใช้งานมาตั้งแต่ปี 2008 นู่นแล้วสำหรับเครื่องลูกนี้ โดยในการปรับปรุงสำหรับโฉมปี 2017 นั้น คือการลดแรงเสียดทานภายในเครื่องยนต์ ซึ่งช่วยในเรื่องของการตอบสนองต่อคันเร่งที่ดียิ่งขึ้น เรียกรอบง่ายขึ้นและประหยัดน้ำมันกว่าเดิม
Ram-Air, ท่อไอดี, และหม้อกรองอากาศ ถูกปรับปรุงให้มีการไหลเวียนไอดีเข้าสู่เครื่องยนต์ดีกว่าเดิม ทำให้แรงม้าสูงสุดที่ได้นั้นอยู่ที่ราวๆ 200 Bhp ซึ่งเป็นระดับหัวแถวของรถซุปเปอร์ไบค์ 1000cc ตามที่ Honda ได้ตั้งเป้าไว้ ในขณะที่ท่อไอเสียมีตัว Catalytic ที่ใหญ่กว่าเดิม เพื่อให้มันผ่านกฏ Euro4 ซึ่งเป็นข้อบังคับสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ที่จะทำตลาดในปี 2017
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า CBR1000RR รุ่นใหม่ จะมีเวอร์ชั่นเอาใจนักแข่งทั้งหลายด้วย ทำให้เฟรมถูกปรับปรุงกันยกใหญ่ และสิ่งนึงที่จะไม่พูดถึงก็ไม่ได้ นั่นคือชุดปั๊มเบรกจาก Brembo และโช๊คอัพ Ohlins ที่มีระบบ Semi-Active ซึ่งทาง Honda จะติดตั้งให้กับรุ่นสูงเท่านั้น (อาจจะทั้ง SP-1, SP-2 หรือเพียงรุ่นใดรุ่นหนึ่ง) เพื่อให้รองรับการใช้งานในสนามที่ดียิ่งขึ้น ในขณะที่รุ่นมาตรฐาน (ในรูป Spyshot) จะยังคงใช้ชุดปั๊มเบรก TOKICO และโช๊คอัพจาก Showa ที่สามารถปรับเซ็ทได้ครบครัน ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเหมือนเดิมอย่างที่เคยมีในรุ่น 2016
ในส่วนของรูปทรงทาง Honda เลือกที่จะออกแบบให้มีรุปทรงเฉียมคมและดุดันมากขึ้น เพื่อเอาใจลูกค้าฝั่งยุโรปอีกครั้ง หลังจากที่ออกแบบให้มีความโค้งมนตามความชอบของลูกค้าเอเชียมาตั้งแต่ปี 2008
อ่านข่าวสาร Honda เพิ่มเติมที่ได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ
