แม้ Honda CB350 จะถูกเปิดตัวออกมาเพื่อเน้นรุกตลาดลูกค้าชาวอินเดียโดยเฉพาะ แต่ถือว่ามันสร้างแรงกระเพื่อมให้กับลูกค้าชาวไทยกันไปพอสมควรเลยทีเดียว ดังนั้นในวันนี้เราจะจึงขอนำเสนอข้อมูลของ มันเพิ่มอีกครั้ง โดยจะว่าด้วยเรื่องของรายละเอียดตัวรถต่างๆที่เพื่อนๆหลายคนอาจจะยังไม่ได้อัพเดทกัน
และอย่างที่เราได้เปิดเผยไปแล้วเบื้องต้นเมื่อวานนี้ Honda ได้ทำการพัฒนามันขึ้นมาเพื่อ จะมาทำตลาดในกลุ่มเดียวกันกับ Royal Enfield 350 รถคลาสสิค ขนานแท้ เพื่อตีตลาดอินเดียโดยตร ดังนั้น เรื่องของดีไซน์ มันจะไม่สามารถยกตระกูลไฟกลมโช้กหน้า USD ที่ผลิตในบ้านเรามาได้ เพราะรถมอเตอร์ไซค์คันนี้ต้องคงความเป็นสายเรโทรขนานแท้ อย่างพี่ใหญ่ CB1100EX นั่นเอง
นั่นจึงหมายความว่า ตัวรถ Honda CB350 H’ness คันนี้ จะมาพร้อมกับชุดไฟหน้าทรงกลม แต่ปรับใช้หลอด LED ด้านใน, ถังน้ำมันทรงคลาสสิคความจุ 15 ลิตร, ชุดเฟรมแบบกึ่งเปลคู่, ท่อไอเสียชุบโครเมียมทั้งเส้น ที่ถูกออกแบบมาอย่างดีเพื่อให้สุ้มเสียงมีความเป็นเอกลักษณ์
รวมไปถึงเบาะนั่งยาวตอนเดียวที่สูงเพียง 800 มิลลิเมตร เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานของผู้ขี่ และชุดแฟริ่งที่ดีไซน์ให้มีึความเรียบง่ายที่สุด
นอกนั้นในส่วนช่วงล่าง ก็จะใช้ชุดโช้กหน้าตะเกียบคู่ด้านหน้า และโช้กคู่ด้านหลัง และฝั่งระบบเบรกก็จะเป็นแบบดิสก์เดี่ยวขนาด 310 มิลลิเมตร ด้านหน้า และ 240 มิลลิเมตรทางด้านหลัง แถมยังมาพร้อมกับระบบ ABS แบบ Dual-Channel ส่วนชุดล้อก็จะเป็นแบบอัลลอยด์ รัดด้วยยางไซส์ 100/90-19 และ 130/70-18 ตามลำดับหน้า-หลัง พร้อมเคลมน้ำหนักตัวอีก 181 กิโลกรัม
ด้านขุมกำลังของมัน ก็จะเป็นแบบสูบเดียว SOHC ระบายความร้อนด้วยอากาศ ขนาดลูกสูบ 70 มิลลิเมตร คูณ ช่วงชัก 90.5 มิลลิเมตร (ลูกเล็กชักยาว) ขนาดความจุ 348cc จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด PGM-Fi และมีแรงม้าสูงสุด 21 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุดอีก 30 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบ/นาที ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์ที่สามารถเรียกกำลังได้ในรอบต่ำมากๆ
ส่วนระบบส่งกำลังของมันก็จะเป็นแบบชุดเฟืองเกียร์ 5 สปีด แต่ก็มีระบบสลิปเปอร์คลัทช์มาให้ด้วยเพื่อช่วยลดอาการกระชากของล้อหลังตอนเชนจ์เกียร์ลงหนักๆ และเป็นการลดน้ำหนักก้านคลัทช์ลงไปในตัว
และสุดท้ายคือในส่วนของมาตรวัด ที่จะเป็นแบบเข็มกวาดในส่วนของการแสดงผลความเร็ว และมีชุดหน้าจอ LCD เพื่อแสดงผลในเรื่องของระดับน้ำมัน, ระยะทางรวม, ระยะทางทริป, ตำแหน่งเกียร์, สภาพแบตเตอรี่
เสริมด้วยชุดดวงไฟเซนเซอร์ขาตั้งรถ, ระบบ Traction Control และที่พิเศษสุดๆก็คือมันรองรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านสัญญาณบลูทูธ เพื่อเข้าถึงฟังก์ชันการรับสาย, ฟังเพลง, รวมถึงรองรับระบบสั่งการด้วยเสียงเป็นครั้งแรกในโลกด้วย
โดยตัวรถ Honda CB350 จะมีรุ่นย่อยให้เลือก 2 ระดับด้วยกัน นั่นก็คือ DLX และ DLX-Pro ซึ่งอันที่จริงจะแตกต่างกันแค่เพียงชุดสีที่เน้นความทันสมัยนิดๆในรุ่นย่อยแรก กับชุดสีที่มีความคลาสสิคมากกว่า และมีฟังก์ชันรับคำสั่งเสียงเป็นออพชันพื้นฐานมาให้ในรุ่นย่อยหลัง
ขณะที่ราคาก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย เพราะสนนตัวเลข ราคา Honda CB350 อยู่ที่ 190,000 รูปีย์ หรือราวๆ 81,650 บาท เท่านั้น ซึ่งถือว่าถูกมากเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับสิ่งต่างๆที่ให้มา แต่ถ้าหากเพื่อนๆถามว่ามันมีโอกาสจะถูกนำมาวางจำหน่ายในประเทศไทยด้วยหรือไม่นั้น ? งานนี้เราต้องบอกตรงๆเลยว่ามีโอกาสน้อยมากๆ แต่ก็ไม่แน่ว่าถ้าหากทาง Honda ได้เห็นความสนใจของลูกค้าชาวไทยที่มากมายขนาดนี้แล้วล่ะก็ พวกเขาก็อาจจะมีอาการลังเลบ้างแน่นอนครับ
อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่
