2024 Harley-Davidson DRT รีวิว ลุยสามทาง เปียกตลอดวัน กับอินทรีมะกัน

0

2024 Harley-Davidson DRT (Dirt Road Track) คือ กิจกรรมทดสอบ รถ ไปกับ 3 สาย ทั้งทางฝุ่น ทางดำ และสนาม
pon road glide2

2024 Harley-Davidson DRT ได้จัดขึ้นเป็น ปีที่ 3 ณ สนามพีระฯ เช่นเดียวกับในปี 2022 ปีแรก ณ สนามพีระฯ (ในครั้งที่ 2 ปี 2023 ที่ผ่านมาจัดที่ 8Speed เขาใหญ่ ซึ่ง MotoRival เราไม่ได้เข้าร่วม)

ในปีนี้การทดสอบจะถูกเน้นไปที่รถตระกูล Road Glide และ Street Glide ใหม่ ที่ได้มีการปรับปรุงขนานใหญ่ ทำให้มันขี่ง่าย และขี่ดียิ่งขึ้น พร้อมกับความทันสมัยอีกด้วย

โดยกิจกรรม DRT = Dirt Road Track ปีนี้ ก็ยังคงมีการทดสอบ 3 Station เหมือนเดิม

โดยผมเริ่มที่ Track ก่อน

3สำหรับ Station แรก Track จะได้ทดสอบ Sportster S กันก่อน ซึ่งรถ Sportster S เราก็ได้ทดสอบไปแล้ว ด้วยกันหลายครั้งหลาย รับชมรีวิว ได้ที่นี่

โดยรวมมันเป็นรถที่แรง เคร่ื่อง Revolution Max ที่ให้ความเป็นสปอร์ต ลากรอบได้มากกว่าเครื่องตระกูล Milwaukee ที่เน้นทอร์ค สำหรับการขี่สนามเช่นนี้ถือว่าขี่ได้สนุก แต่การที่ล้อหน้าไซส์ยางใหญ่ ทำให้มันพลิกรถหนืดๆ หนักๆ ไปเสียหน่อย แต่ก็ยังให้ Grip ในการยึดเกาะที่ดีในทางโค้ง
ส่วนช่วงล่างก็ติดแข็ง ขี่แทร็กก็ถือว่าเฟิร์มขี่ได้สนุก

2ขณะที่รุ่นไฮไลท์ เลยก็คือ การได้ลองขี่ CVO Road Glide ST รถที่เรียกได้ว่าแพงสุด และ ดิบสุดในงานครั้งนี้ กับการที่ใช้เครื่องยนต์ Milaukee 121 High Output ที่ปรับจูนโดยทาง Screamin Eagle สำหรับรายละเอียดอื่นๆ ของตัวรถ สามารถอ่านได้ที่นี่

จากการที่เราได้ขี่ทดสอบ ต้องบอกว่า อาจจะไม่ได้รีดเค้นสมรรถนะ เต็มที่นัก เพราะว่าฝนตกตลอดทั้งวัน ทำให้พื้นเปียก อย่างไรก็ดี เราก็พอจับอาการได้ว่า เครื่องยนต์ 121 High Output นี้ให้ความเร้าใจกว่าเครื่อง 117 ในรุ่นปกติ ที่เป็นเครื่องยนต์วาล์วแปรผัน จะเน้นประหยัดกว่า
ไม่ใช่เพียงแค่ซุ่มเสียง แต่รวมถึงพละกำลังทั้งม้า และทอร์ค ที่มีมากกว่า รวมถึงช่วงรอบเคร่ื่องที่รีดทอร์ค ได้มากกว่าอีกเล็กน้อย
ระบบเบรกที่อัพเกรดขึ้น ก็ถือว่าให้การเบรกตอบสนองได้ดีขึ้นอีกหน่อย ให้เหมาะสมกับการหยุดพละกำลังของรถที่มันแรงขึ้น

4
ต่อกัน Station ที่ 2 Dirt ใช้รถ Pan America 1250 บนแทร็ก Dirt ส่วนตัวผมเองก็ไม่ใช่สาย Enduro สักเท่าไร เลยต้องเรียนตามตรงว่า ผมไม่อาจเค้นสมรรถนะของมันออกมาได้เท่าที่ควร

แต่จากที่ได้ลองขี่ ก็พบว่า เบาะของมันไม่ได้สูงมากนัก และมีระบบช่วงล่างไฟฟ้า ที่เวลาจอดแล้วเบาะจะกดตำแหน่งลงมาต่ำด้วย ทำให้มันดูเป็นมิตรกับคนที่สรีระไซส์เอเชียอย่างเราๆ

สำหรับ นน.ตัวที่มาก ก็อาจจะเป็นอุปสรรคสักหน่อย ในการเลี้ยวหรือคอนโทรลวงแคบอยู่

ส่วนพละกำลังในการขับขี่ ถือว่าทำได้ดี จากเครื่อง V-Twin Revolution Max ที่แรงเหลือเฟือ สำหรับการเดินทาง และเปิดคันเร่งผ่านเส้นทางอุปสรรค

6ปิดท้าย Station สุดท้าย กับเส้นทาง Road เป็นที่น่าเสียดายอีก เพราะ เราเจอฝนตลอดทั้งวัน ทำให้ต้องขี่รถลุยฝน โดยใน Station นี้ ไฮไลท์ คือ การขี่เปรียบเทียบกันระหว่าง 2023 และ 2024 Road Glide / Street Glide ใหม่

โดยขาไป ผมได้ขี่ 2023 ก่อน ต้องบอกเลยว่า รู้สึกว่ารถหนัก กว่า 2024 พอสมควร ตั้งแต่ที่นั่งคร่อมแล้ว ดึงรถขึ้นมาตั้งตรง เตะขาตั้งถือว่าลำบากพอสมควรเลย เวลาขี่แล้ว รู้สึกเลยว่า รถ 2023 หนักกว่า 2024 อยู่ หลาย กก. แต่จุดดูจะทำได้ดีกว่า 2024 อยู่หน่อย คือ เรื่องของแฮนด์ ที่ผมว่ามันดูจะพอดีกว่า ไม่สูงเหมือนตัว 2024 สำหรับสรีระผมเลยลจะรู้สึกว่า ขี่ตัวนี้แล้ว ไม่ต้องยกไหล่เยอะ ไม่เมื่อยมาก

1นอกจากนัั้น ขี่กลับผมสลับมาขี่ตัว 2024 อีกครั้ง หลังจากที่ได้ลองขี่ตอน Bike of the year 2024 เมืื่อปลายปีที่ผ่านมา ณ สนาม พีระฯ คาร์ท ไปแล้ว รวมถึงเซสชั่นเมื่อเช้า ที่ได้ลองขี่ในแทร็กใหญ่ พีระฯ ไปแล้วอีกด้วย
5ต้องบอกว่า สมรรถนะการขี่ดีขึ้นจากเดิมมากๆ เลี้ยวคอนโทรลง่ายกว่าที่คิด เลี้ยววงแคบ ยังรู้สึกทำได้ไม่ลำบาก กับ นน. ตัวที่ลดลง 7.3 กก. จากตัวเก่า แต่ความรู้สึกในการขี่รู้สึกว่า เบากว่ากันเกิน 10 กก. จากการออกแบบเฟรมใหม่
ด้วยความที่เป็นรถสไตล์ Bagger เลยอาจจะยังมีช่วงที่ให้เรารู้สึกว่ามันโต้ลมทางด้านบนศรีษะอยู่บ้าง แฮนด์บาร์ที่ยกให้สูงขึ้น ซึ่งจุดนี้ผมมองว่า ขึ้นกับสรีระแต่ละคน บางคนอาจจะพอดีช่วงแขน ให้การขี่หลังตรงไม่เมื่อยปวดหลังนัก

pon roadglideสรุป Harley-Davidson DRT ในครั้งนี้ ก็ ยังถือว่าสนุก ไม่แพ้ปีก่อนๆ น่าเสียดายตรงที่ฝนตกทั้งวัน ทำให้เปียกแฉะชุ่มฉ่ำ ทุกอณูร่างกาย จนอาจทำให้อรรถรสในการขี่ มันไม่เต็มที่นัก และไม่สามารถรีดสมรรถนะรถออกมาได้อย่างเต็มที่ แต่ถึงอย่างไรก็ดี การได้ขี่ครบทุกสาย ทุกเส้นทาง ในวันเดียวก็ถือเป็นอะไรที่สนุก และไม่ค่อยได้ขี่ทดสอบกันบ่อยๆ
ซึ่งทาง Harley ก็ได้พยายามทำรถให้ครอบคลุมทุกสายมาแล้ว ตอนนี้ ในบ้านเราก็เห็นเหลือแต่ ตระกูล Livewire แบรนด์ไฟฟ้า ลูกของทางค่ายอินทรีมะกันเขานี่ล่ะ

อย่างไรก็ดี เมื่อ 4 ปีก่อน ผมได้เป็นคนเดียวในประเทศไทยที่ได้ไปสเปน เพื่อทดสอบ Harley Livewire มันมาแล้วด้วย อ่านรีวิวได้ที่นี่ เหลือ แค่รอ ถ้า Harley-Davidson Thailand จะนำ Hi Performance EV Bike คันนี้ มาทำตลาดเป็นคันแรกในประเทศไทย เท่านั้น

ขอขอบคุณ Harley-Davidson Asia สำหรับการทดสอบในครั้งนี้

อ่านข่าว Harley-Davidson เพิ่มเติมได้ที่นี่

Share.

About Author

Background EXP in Automotive journalists more than 10 Years Writer & Test Driver @Pantip Garage 2018-Present @9carthai 2015- 2017 @Torque & VIPStyle Magazine 2015 @Autospinn 2012-2015 @GTmania.tv 2009-2010

error: Content is protected !!