อย่างที่เพื่อนๆทราบกันว่าโรงงานผลิตสินค้าของบริษัทระดับโลกนั้น ถือเป็นพื้นที่หวงห้ามที่น้อยคนนักจะได้เข้าไป หากไม่มีความเกี่ยวข้อง แต่ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางทีมงาน MotoRival ได้รับเชิญจาก BMW Motorrad Thailand เป็นหนึ่งในแขกพิเศษที่ได้เข้าไปเยี่ยมชมโรงงานประกอบรถมอเตอร์ไซค์ของทางค่ายอย่างเป็นทางการครั้งแรก
โรงงาน BMW Manufacturing (Thailand) ตั้งอยู่ในนิคมอุตสหากรรม อมตะนคร จ.ระยอง กินพื้นที่ทั้งโรงงานประมาณ 115 ไร่ และเป็นโรงงานของ BMW ที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 (ค.ศ. 2000) หรือประมาณ 20 ปีก่อนพอดีจากตอนนี้ โดยเริ่มจากการประกอบรถยนต์ BMW Series-3 ก่อนเป็นรุ่นแรก และขยายไลน์ผลิตเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนปี พ.ศ. 2557 (ค.ศ. 2014) ก็ถึงเวลาที่โรงงานแห่งนี้จะได้เริ่มประกอบรถมอเตอร์ไซค์ของทางค่ายนั่นคือ BMW F800-Series
และสำหรับในตอนนี้ ทาง BMW Manufacturing (Thailand) ก็ได้มีการประกอบรถมอเตอร์ไซค์ BMW ทั้งหมด 9 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ R1250GS Adventure, R1250GS, F900XR, F900R, F850GS Adventure, F850GS, F750GS, S1000R, และ S1000RR ซึ่งหลักๆแล้วจะมีการตัดสต็อกมาไว้สำหรับส่งมอบและจำหน่ายให้กับลูกค้าในประเทศไทยเพียงแค่ราวๆ 30% เท่านั้น นอกนั้นจะส่งออกไปขายในประเทศต่างๆของทวีปเอเชีย คือ จีน (ตลาดใหญ่สุด), มาเลเซีย, เวียดนาม, ฟิลลิปปินส์, และอินเดีย
ส่วนการทำงานของไลน์ประกอบรถมอเตอร์ไซค์ BMW Motorrad นั้น หลักๆแล้วจะมีทั้งหมดราวๆ 13 สถานีด้วยกัน ซึ่งในแต่ละสถานี จะมีพนักงานประกอบตัวหลักๆเพียง 1-2 คนเท่านั้น เพื่อไม่ให้สับสนกันในระหว่างทำงาน และในขณะเดียวกันก็หมายความว่าพนักงานคนดังกล่าวเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษในด้านนั้นๆโดยเฉพาะ แต่อย่างน้อยก็จะมีพนักงานสำรองอีก 3-4 คน ซึ่งจะมีความเชี่ยวชาญสูงขึ้นไปอีก และสามารถทำงานตามมาตรฐานได้ในทุกสถานี มาเป็นตัวสลับกรณีพนักงานตัวหลักขอพักไปทำธุระส่วนตัว เรียกได้ว่าวางแผนมาเป็นอย่างดี เพื่อให้การทำงานมีความต่อเนื่องสุดๆ (จากข้อมูล BMW เปิดเผยว่า 1 วันพนักงานเหล่านี้จะประกอบรถมอเตอร์ไซค์ได้เฉลี่ยสูงสุดราวๆ 40 คัน)
ขณะที่ขั้นตอนการประกอบรถมอเตอร์ไซค์ในแต่ละสถานี ก็จะเริ่มตั้งแต่การให้พนักงานในสถานีแรกนั่นก็คือ สถานีเลือกชิ้นส่วนที่พาร์ทเนอร์ต่างๆทั้งในประเทศและนอกประเทศส่งเข้ามา ซึ่งพนักงานจะต้องจัดการนำชิ้นส่วนเหล่านั้นมาจัดเรียงเป็นชุดๆบนรถเข็นสำหรับประกอบเป็น รถมอเตอร์ไซค์ 1 คัน ให้ครบตั้งแต่แรก แต่จะเป็นรุ่นไหนก็ขึ้นอยู่กับว่าชั่วโมงนั้น ทาง BMW อยากให้พนักงานประกอบรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใด ซึ่งจังหวะที่พวกเราได้เข้าไปก็เป็นช่วงการประกอบ F900GS, F900R กับ F900XR พอดี
ซึ่งที่จริง จะมีการผลิตไลน์อัพตัว 1000 อย่าง S1000RR (อ่านรีวิวได้ที่นี่) และ S1000R รวมไปถึง S1000XR อีกด้วย
ขณะที่ ขุมพลังเครื่อง Boxer ก็จะมีตระกูล RNineT กับ R1250GS (อ่านรีวิว ได้ที่นี่)
หลังจากนั้นพนักงานก็จะเลื่อนรถขนชิ้นส่วนไปยังสถานีต่อไปเพื่อให้พนักงานอีกคนเริ่มประกอบรถ (หรือในสถานีหลังๆจากมีรถหุ่นยนต์มาเป็นตัวช่วยขนย้ายรถชิ้นส่วนให้ นั่นก็คือรถสีเหลืองๆคันแบนๆที่อยู่ตรงข้างสถานี ที่จะทำงานด้วยเซนเซอร์และระบบอัตโนมัติ) เลื่อนตั้งแต่สถานีรวมเครื่องยนต์เข้ากับชุดเมนเฟรม, สถานีประกอบระบบกันสะเทือนและระบบส่งกำลัง, สถานีเดินระบบสายไฟ
สถานีประกอบระบบเซนเซอร์และกล่องควบคุม, สถานีประกอบชิ้นส่วนหลักภายใน, สถานีเติมของเหลว (น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำมันเชื้อเพลิง), สถานีประกอบชุดสีหลัก
ส่วนสถานีทดสอบรถ ทาง BMW จะไม่มีการนำรถที่ประกอบเสร็จแล้วไปทดสอบนอกโรงงาน แต่จะทดสอบในห้องปิดทั้งหมด เพื่อให้ได้ค่าการทดสอบที่ต้องการจริงๆ และเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่ารถที่ลูกค้าได้ไป เจ้าของได้ขี่เป็นคนแรก แม้แต่เบาะนั่งที่ใช้คร่อมรถตอนขี่รถบนเครื่องทดสอบ ก็ยังต้องเป็นเบาะที่พนักงานทดสอบเตรียมแยกมาเอง
หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่สถานีตรวจสอบคุณภาพสินค้า (แผนก Inspection หรือถ้าแบบที่คุ้นหุหน่อยคือ Quality Control) เช่น ความเสมอของรอยต่อชิ้นส่วนกับ แรงขันน็อตในแต่ละจุด เป็นต้น ซึ่งหากรถคันไหนผ่านการตรวจสอบว่าผ่านตามมมาตรฐานสุดเข้มงวดได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ตัวรถก็จะถูกเข็นต่อไปยังสถานีเก็บงานรถขั้นสุดท้าย นั่นคือแพ็คใส่กล่องเตรียมส่งไปยังศูนย์บริการ และส่งมอบให้กับลูกค้าต่อไปนั่นเอง
อ่านข่าว BMW เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ