Takaaki Nakagami ถือเป็นนักบิดญี่ปุ่นและนักบิดชาวเอชียที่สามารถสร้างผลงานได้ดีเป็นอย่างมากในเวที MotoGP ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเท่าไหร่นักที่จะมีคนตัดสินใจนำลายตัวแข่งของเขาไปใช้แล้วเกิดเป็น 2021 Honda CBR600RR Nakagami Replica คันนี้ขึ้น เช่นเดียวกับ Honda CBR1000RR-R SP : Marc Marquez Repsol Edition ที่เราได้เคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้ ตัวรถ 2021 CBR600RR Nakagami Edition คันนี้ ก็จะมาพร้อมกับลวดลาย Idemitsu Honda หรือ Honda MotoGP ทีมรองที่อยู่บนตัวแข่ง RC213V ของ Takaaki Nakagami แบบเป๊ะๆแทบทุกระเบียดนิ้ว ไม่เว้นแม้แต่ชุดวิงเล็ทที่ติดตั้งมากับรถต่แรก ก็ถูกแรพด้วยไวนิลลายคาร์บอนเช่นกัน ซึ่งเจ้าของผลงานชิ้นนี้ระบุว่าต้องใช้เวลาถึง 12 วันเลยทีเดียวกว่าจะเก็บงานตัวรถให้มีลวดลายที่เนี๊ยบได้ขนาดนี้ ด้านการตกแต่งตัวรถอื่นๆ น่าเสียดายที่ทางเจ้าของผลงานไม่ได้มีการระบุรายละเอียดตรงนี้ออกมาเลยแม้แต่น้อย จึงทำให้เราสังเกตได้แค่เพียงจากภายนอกเท่านั้น นั่นคือชุดท่อไอเสียจาก Akrapovic, มือเบรก/มือคลัทช์จาก…
Author: admin
จากความสำเร็จอย่างก้าวกระโดดในศึก MotoGP 2020 ประกอบกับความเคลื่อนไหวที่เริ่มมีเหล่าทีมแข่งสนใจในการมาทำทีมรองในการแข่งขันรุ่นใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ล่าสุดมีสื่อเข้าไปสัมภาษณ์กับ Pit Beirer ว่าทาง KTM มีแผนการที่จะปรับเปลี่ยนโครงสร้างทีมรอง หรือเปิดทีมแข่งใหม่เพิ่มขึ้นอีกทีมบ้างหรือไม่ ? ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ตอบกลับมาว่า “ในตอนนี้, มันไม่ได้อยู่ในการตัดสินใจและก็ยังไม่ต้องไปหาข้อมูลใดๆเกี่ยวกับมัน, เราจะยังคงร่วมงานกับ Tech3 ต่อไปแน่นอนในมุมของเรา, แต่ในบางจุดเราก็อาจจะคิดถึงความเป็นได้ที่จะมีทีมที่สามหากเราต้องการ, ตราบใดที่ยังไม่มีความจำเป็น, เราจะอยู่กับความเป็นจริง, Dorna อยากให้ผู้ผลิตทั้งหกต่างก็มีทีมรองเป็นของตนเอง, ดังนั้นมันจึงอาจเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกันก็ได้ถ้าหากผู้ผลิตสักรายจะมีสามทีม” (ซี่งอันที่จริงตอนนี้ก็มีอยู่แล้วนั่นคือ Ducati ที่มีทั้งทีมโรงงาน, Pramac, และ Avintia) โดยหากในอนาคตทาง KTM มีีแผนที่จะทำทีมแข่งสำรองเป็นทีมที่ 3 จริงๆ ทีมแข่งที่มีความเป็นไปได้ก็จะมีอยู่ทั้งหมด 3 รายด้วยกัน นั่นคือ Petronas ที่ดูจะเป็นไปได้ยากเพราะก็ยังคงรักกันดีในการทำงานร่วมกับ Yamaha, Gresini ที่พึ่งประกาศแยกออกมาจากการทำทีมโรงงานร่วมกับ Aprilia หลังปี 2021 แต่จะให้กลับมาทำงานร่วมกับ KTM อีกครั้งก็คงยาก…
จากเสียงวิจารณ์ทั้งภายนอก และภายในโดยตัวนักแข่งเองไม่ว่าจะเป็นในฝั่งเวที MotoGP หรือเวที Formula 1 ทำให้ล่าสุดทางผู้จัดสนาม Circuit de Barcelona-Catalunya ต้องรีบทำการปรับเลย์เอาท์สนามใหม่เพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้น ใช่ครับ หลังจากที่โดนนักแข่งหลายรายชี้ว่าลักษณะเลย์เอาท์ของโค้ง 10 เป็นเลย์เอาท์ที่ค่อนข้างอันตรายเพราะนอกจากจะเป็นโค้งที่ต้องเข้าหลังวิ่งออกมาจากโค้ง 9 แล้วเข้าทางครงด้วยความเร็วสูงแล้ว ลักษณะของโค้งยังเป็นโค้งซ้ายที่หักศอกแคบมากๆ จนทำให้มันมักเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง เช่นกรณีนักบิดเสียบในแล้วล้มเกี่ยวกันเป็นโดมิโน่ ยกตัวอย่างเช่นในการแข่งขัน MotoGP เมื่อปี 2019 ที่ Jorge Lorenzo กวาดทั้ง Maverick Vinales, Valentino Rossi, Andrea Dovizioso ล้มไปในคราวเดียวกันเป็นต้น ทำให้ทาง FIM และ FIA ต่างมีมติตรงกันว่าทางผู้จัดสนาม Catalunya ควรมีการปรับเลย์เอาท์สนามแข่งใหม่ ทั้งการปรับมุมของโค้งให้กว้างขึ้นอีกนิด เพื่อที่นักบิดจะได้มีพื้นที่สำหรับบิดหลบอุบัติเหตุข้างหน้าได้ แต่เชื่อว่าคงไม่ถึงขนาดปรับไปใช้เลย์เอาท์โค้งนอกแบบเดิมกับที่เคยใช้ช่วงปี 2016 ลงไป เนื่องจากเลย์เอาท์เดิมที่ว่านั้นก็อันตรายไม่แพ้กัน เพราะแม้มันจะมีความกว้างมาก จนทำให้นักบิดอาจไม่จำเป็นเบียดกันเข้าโค้งและต้องเบรกให้หนักเท่ากับปัจจุบัน…
ขณะที่ข่าวการเดินโปรเจ็กท์ Suzuki GSX-R250 ยังคงคลุมเครืออยู่นั้น ทางค่ายคนบ้าก็ได้มีเปิดตัว Suzuki GSX-250R 2021 โฉมสำหรับทำตลาดในปีหน้าออกมาเพื่อกลบกระแสข่าวไปพลางก่อนแทน โดยสำหรับชุดสีของ 2021 GSX-250R นั้น แท้จริงแล้ว มันก็คือชุดสีเดียวกันกับตัวรถเวอร์ชันปี 2019/2020 ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสีฟ้า Triton Blue Metallic No.2 ลายตัวแข่ง MotoGP, สีน้ำเงิน/ดำ Crystal Blue Metallic / Pearl Neblar Black, สีขาว/ดำ Pearl Gresher White No.2 / Pearl Neblar Black, และสีดำล้วน Pearl Neblar Black นอกนั้นในด้านสเปคอื่นๆของตัวรถยังคงเหมือนเดิมทั้งหมดกับที่เผยโฉมมาตอนแรกเมื่อปี 2016 นั่นก็คือยังคงใช้เครื่องยนต์ 2 สูบเรียง…
หลังจากที่เราได้นำเสนอข้อมูลของ Royal Enfield Interceptor 350 ไปเพียงไม่กี่วัน ล่าสุดเราก็มีอีกหลักฐานที่น่าสนใจมานำเสนอให้เพื่อนๆได้ชมกันเพิ่มอีก นั่นคือคลิปที่จับเอาไว้ได้ขณะตัวรถกำลังขี่ทดสอบบนถนนสาธารณะ โดยอย่างที่เราเกริ่นไว้ในบทความก่อนหน้านี้ ว่าตัวรถ Interceptor 350 ที่ถูกทดสอบอยู่นั้น จากมุมมองด้านหลังจะเห็นว่ามันใช้ชุดไฟท้ายและไฟเลี้ยวที่หน้าตาคล้ายกับ Interceptor 650 รวมถึงมือจับด้านหลัง แม้แต่โช้กคู่หลังยังเป็นแบบมีซับแทงค์แก๊สมาให้ มีเพียงท้อไอเสียเท่านั้นที่ไม่ได้เป็นแบบออกคู่ซ้าย-ขวาอีกต่อไป เหลือเพียงออกทางด้านซ้ายข้างเดียวเท่านั้น ซึ่งอันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเพราะมันจะเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์สูบเดียว 350cc จาก Meteor 350 แทนนั่นเอง แน่นอนว่าแม้นี่จะเป็นเพียงคลิปสั้นๆไม่กี่วินาที แต่มันก็เป็นหลักฐานชั้นดีที่ช่วยยืนยันได้ว่า Royal Enfield Meteor 350 นั้นเป็นข้อมูลรถที่มีอยู่จริงแน่นอน แต่กว่าเราจะได้เห็นตัวรถโฉมขายจริงนั้นก็อาจจะต้องรอกันอีกพักใหญ่เลยทีเดียว เนื่องจากปกติแล้วทาง Royal Enfield มักใช้เวลาในการพัฒนาตัวรถมอเตอร์ไซค์โมเดลใหม่ๆหลังถูกจับภาพ Spyshot ได้อีกประมาณหนึ่งปีเป็นอย่างน้อยนั่นเอง อ่านข่าวสาร Royal Enfield เพิ่มเติมได้ที่นี่
หลัง Aprilia Tuono 660 ถูกเผยโฉมครั้งแรกออกมาเมื่อปลายปี 2019 ในฐานะคอนเซปท์ไบค์แล้วเงียบหายไปพักใหญ่ ในที่สุดเราก็ได้รับข้อมูลใหม่ที่ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่ามันใกล้พร้อมแล้วที่จะถูกวางจำหน่ายจริงในเร็วๆนี้ ก่อนอื่น สำหรับรายละเอียดตัวรถ Tuono 660 นั้น คือมันจะถูกสร้างบนพื้นฐานเดียวกันกับ Aprilia RS660 สปอร์ตไบค์ไซส์มิดเดิลเวท ที่ใช้ขุมกำลัง 2 สูบเรียง ความจุ 659cc กำลังสูงสุดได้ 98.5 HP และแรงบิดสูงสุดอีก 67 นิวตันเมตร, ใช้ชุดเฟรมร่วมกัน, แม้แต่ระบบกันสะเทือนและระบบเบรกต่างๆก็ดูเหมือนจะเป็นเซ็ทเดียวกันทั้งหมด เว้นเพียงชุดแฟริ่งหน้า แล้วก็แฟริ่งท้ายกับเบาะหลัง และชุดแฮนด์บาร์เท่านั้นที่ถูกปรับให้มันเหมาะสมกับการใช้งานนั่นคือแนวเนคเก็ทไบค์มากขึ้น นอกจากนี้ ด้วยความที่เมื่อหลายเดือนก่อน ทาง Aprilia ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดภาพสิทธิบัตรของ Tuono 660 ในคราบโปรดักชันไบค์ออกมาเป็นที่เรียบร้อยเช่นกัน ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่ตัวรถอาจพร้อมแล้วสำหรับการเปิดตัวเวอร์ชันวางขายจริง เว้นแต่ว่ามีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้กำหนดการต้องล่าช้าออกไป อย่างเช่นที่สื่อยุโรปวิเคราะห์เอาไว้นั่นคือ พิษการระบาดของเชื้อ COVID-19 ที่ทำให้งาน EICMA Show 2020…
ในการอ่านสเปคเครื่องยนต์แต่ละครั้ง นอกจากเพื่อนๆจะมองในเรื่องของจำนวนลูกสูบ, ระบบระบายความร้อน, และจำนวนวาล์วที่ให้มากับเครื่องยนต์ลูกนั้นๆแล้ว ยังมีเรื่องของการที่เครื่องยนต์ลูกนั้นใช้กลไกการเปิดปิดวาล์วแบบไหนด้วย ระหว่าง SOHC กับ DOHC ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ข้อแตกต่างของกลไกทั้งสองแบบนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง เรามาไขข้อสงสัยในบทความ Tips Trick ครั้งนี้กันเลยดีกว่าครับ โดยสำหรับความหมายของระบบกลไกเปิดปิดวาล์วแบบ Single Over Head Camshaft หรือ SOHC หรือ แคมเดี่ยว นั้น ก็จะหมายถึงว่า เป็นกลไกที่ใช้ชุดแคมชาฟท์ หรือเพลาลูกเบี้ยวตัวเดียว ในการควบคุมการเปิด/ปิดวาล์ว ทั้งฝั่งไอดี และไอเสีย ซึ่งอันที่จริงมันก็ถูกออกแบบมาให้ใช้กับเครื่องยนต์รอบสูงประมาณหนึ่งอยู่แล้ว เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ที่ใช้กลไกการเปิด/ปิดวาล์วแบบ Overhead Valve หรือไม่ก็ แบบก้านกระทุ้ง ที่มักพบในเครื่องยนต์ของรถมอเตอร์ไซค์สไตล์วินเทจ ไม่ก็ครุยเซอร์ V-Twin ดังนั้นข้อดีของเครื่องยนต์ที่ใช้กลไกการเปิด/ปิดวาล์วแบบ SOHC ก็คือ จะสามารถทำรอบเครื่องยนต์ได้สูงขึ้นอีกประมาณหนึ่งเมื่อเทียบกับ OHV ที่เป็นเทคโนโลยีเก่ากว่า และในขณะเดียวกันก็สามารถซ่อมบำรุงรวมถึงปรับตั้งองศาการเปิด/ปิดวาล์วได้ง่ายอยูู่เพราะมีชิ้นส่วนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ DOHC ไม่เพียงเท่านั้นด้วยน้ำหนักที่น้อยกว่า DOHC…
รถสกู๊ตเตอร์ยอดนิยมในยุโรปอย่าง Honda Vision 110 ที่ขายมาได้สักพัก ตอนนี้ก็ได้เวลาเปลี่ยนโฉมใหม่สำหรับปี 2021 เพื่อเพิ่มความสดใหม่ของตัวรถ และเพื่อให้ผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro5 ที่จะถูกบังคับใช้ในปีหน้า โดยหน้าตาภายนอกของมันได้รับการอัพเดตใหม่ให้ทันสมัยขึ้น แต่ก็ยังคงสไตล์ดั้งเดิมแบบพิมพ์นิยมของรถออโตเมติกที่ขายในยุโรป รวมถึงยังคงเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับพี่น้องร่วมค่ายรุ่นอื่นอย่าง Honda SH เครื่องยนต์ eSP ใหม่ความจุ 109.5 ซีซี SOHC 2 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยอากาศ ขนาดลูกสูบ x ช่วงชักอยู่ที่ 47 x 63.1 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10:1 ให้พละกำลัง 8.7 hp@ 7500rpm แรงบิด 9 Nm@ 5750rpm ที่ยังคงอึดถึกทนตามสไตล์ฮอนด้า แถมประหยัดน้ำมันมากขึ้น 5% อัตราการกินน้ำมันที่ 54.5 กม./ลิตร เมื่อรวมกับถังน้ำมันขนาด 4.9…
หลังจากเผยโฉมออกมาเป็นครั้งแรกเมื่อปลายปี 2019 และเงียบหายไปเลยช่วงต้น-กลางปี 2020 ในที่สุด CFmoto 700CL-X ก็ถูกอัพเดทความเคลื่อนไหวใหม่อีกครั้งเพื่อเกริ่นให้ลูกค้าที่สนใจได้เก็บเงินเตรียมตัวกันแล้วในเร็วๆนี้ เช่นเคย สำหรับ CFmoto 700CL-X ที่เพื่อนๆเห็นอยู่ตอนนี้นั้น ก็คือตัวรที่ถูกปรับแต่งให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับการขายจริงมากขึ้น เมื่อเทียบกับตัวรถที่ถูกเปิดตัวเมื่อปลายปี 2019 นั่นคือชุดเบาะนั่งที่ถูกเปลี่ยนจากหนังหุ้มสีน้ำตาล เป็นหนังหุ้มสีดำ และมีการเปลี่ยนสีชิ้นส่วนใหม่อีกเล็กน้อย เช่นเปลี่ยนล้อจากสีทองเป็นสีดำ, เปลี่ยนสีปลอกโช้กให้เป็นสีทองสว่าง ขณะที่สีคอท่อก็เปลี่ยนเป็นสีสแตนเลส ไม่ได้เป็นสีดำเหมือนกับตัวรถร่างโปรโตไทป์, ยางหน้า-หลังก็เปลี่ยนจากแบบยางเทรลเป็นยางกึ่งสลิค, และไม่มีการติดตั้งกระจกมองข้างกับชุดกันดีดด้านท้ายที่ถูกถอดออกไปนั้น ก็คาดว่าจะเป็นการทำเพื่อให้ตัวรถดูมีความปราดเปรียวเพื่อเสริมภาพลักษณ์เอาไว้ลงสนามมากขึ้น นอกนั้นในด้านสเปคทางเทคนิคตัวรถอื่นๆก็คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากที่ทางค่ายเคยระบุไว้เมื่อปลายปีก่อนเท่าไหร่นัก นั้นคือขุมกำลังของมันจะยังคงเป็นบล็อค 2 สูบเรียง ความจุ 692cc กำลังสูงสุด 74 Bhp และแรงบิดสูงสุดอีก 66.43 Nm, ถังน้ำมันความจุ 14 ลิตร, น้ำหนักตัว 183 กิโลกรัม, และระบบเบรกที่ยกชุดมาจากแบรนด์ J.Juan ส่วนกำหนดการเปิดตัว CFmoto 700CL-X ก็คาดว่าจะยังคงเป็นไปตามแผนเดิมนั่นคือ…
ยังคงถูกกล่าวถึงอยู่อย่างต่อเนื่อง สำหรับ Joan Mir ที่ถูกเหล่าสาวกผู้ติดตาม MotoGP มองว่าเขาทำผลงานได้ไม่ค่อยสมกับการเป็นแชมป์โลกฤดูกาล 2020 เท่าไหร่นัก เนื่องจากแทบไม่เคยวิ่งขึ้้นมาเข้าเส้นชัยในอันดับหนึ่งเลย (ชนะไปเพียงเรซเดียว) จน Marc Marquez ต้องออกมาแย้งว่าไม่เห็นเป็นอะไรเลย เพราะยังไงความนิ่งในการทำผลงานต่างหากที่สำคัญกว่า แต่ล่าสุด JM36 ก็ได้ออกมากล่าวเสริมต่อว่า MM93 ไม่ต้องมาออกความเห็นก็ได้ เพราะยังไงทุกคนก็ควรรู้อยู่แล้วว่าตนเองทำผลงานได้เหมาะสมกับการเป็นแชมป์ “ผมไม่ได้ต้องการความเห็นจาก Marquez, เพราะในใจของผมมันบอกว่าเราต่างก็รู้กันดีว่ามันมีความเสี่ยงสูงมากในกีฬาชนิดนี้” Mir กล่าวกับสื่อ Motorsport.com “และเราก็เล่นกับความเสี่ยงนี้, เราเล่นอยู่กับขีดจำกัด”, “มันสำคัญที่จะไม่ข้ามขีดจำกัดออกไป, เพราะคุณจะได้รับบาดเจ็บ, และในกรณีนี้, Marc ในปีที่แล้วก็ไม่มีใครเทียบได้” “เค้าทำพลาดในการแข่งขันครั้งแรกและก็มีในหลายๆเรซที่นักบิดตัวหลักล้มหรือได้รับบาดเจ็บ, แล้วหลังจากนั้นนักบิดคนอื่นๆก็ได้โอกาสคว้าชัยชนะไป”, “ซี่งนี่ไม่ได้หมายความว่าการแข่งขันมันมีค่าน้อยลง” “ถ้าหากคุณลบเอาการแข่งขันจากทุกคนที่ชนะออกไปแบบนี้, รางวัลที่ผมได้จากทุกการแข่งขันมันก็คงไม่มีผลกับใครสักคนเหมือนกัน” อ่านข่าวสาร MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่