หลังผ่านการประกาศเคอร์ฟิวแบบไม่ให้ประชาชนทั่วไปออกนอกเคหสถานหลัง 4 ทุ่ม จนถึงเวลาตี 4 มาเกือบครบ 1 เดือน ล่าสุด แม้สถานการณ์ COVID-19 จะเริ่มดีขึ้นบ้างแล้วในประเทศไทย เพราะพบผู้ป่วยใหม่น้อยลงเรื่อยๆ แต่ด้วยความจริงที่ยังมีการแจ้งพบผู้ป่วยทุกวัน จึงทำให้ยังเป็นความเสี่ยงที่เชื้ออาจแพร่ระบาดไปทั่วได้อยู่ดีหากมีการรวมกลุ่มทำกิจกรรมเป็นหมู่ใหญ่ ทำให้ล่าสุด วันที่ 27 เม.ย. 2563 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้ออกมาแถลงว่า ในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ มีมติเห็นชอบขยาย พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินต่ออีก 1 เดือน รวมถึงขยายระยะเวลาการประกาศเคอร์ฟิวในเวลา 22.00-04.00 น. ต่อไปจนถึง 31 พ.ค. 2563 นั่นจึงเท่ากับว่าเรายงคงต้องเก็บตัวอยู่บ้านหลัง 4 ทุ่มกันไปอีก 1 เดือนเป็นอย่างน้อย เพราะถ้าอิงตามเหตุผลที่ประกาศใช้ พ.ร.ก แล้ว ถ้าหากในอีกหนึ่งเดือนนับจากนี้ยังมีการพบผู้ป่วยใหม่เพิ่มอีก…
Author: admin
ระบบควิกชิฟท์เตอร์ ถือเป็นของเล่นที่กลายเป็นฟีเจอร์หลักในเหล่าซุปเปอร์ไบค์หลายหลายรุ่นของช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมันช่วยให้การต่อเกียร์ทั้งขาขึ้นและลงมีความฉับไวมากขึ้น เพราะไม่ต้องเสียจังหวะไปกับการกำคลัทช์ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากเวลาขี่ในสนามที่หากช้าไปเพียงเสี้ยววินาที ก็อาจทำให้เราแพ้ได้ แล้วถ้าเกิดเราอยากทำให้รถมอเตอร์ไซค์ของเรา ซึ่งไม่มีควิกชิฟท์เตอร์เลย สามารถสับเกียร์ขึ้น/ลงโดยไม่ต้องกำคลัทช์ได้บ้าง ต้องทำยังไงล่ะ ? ในวันนี้เราจะมาบอกทริกดังกล่าวกันครับ ก่อนอื่น เราอยากให้เพื่อนๆทำความเข้าใจก่อนว่า การสับเกียร์ขึ้นในจังหวะที่เครื่องยนต์ยังคงเร่งอยู่ หรือการสับเกียร์ลงขณะที่เราปิดคันเร่งหมดจนเอนจิ้นเบรกดึงรถให้ช้าลงนั้น เป็นเรื่องที่ยากมาก เนื่องจากมีแรงกระทำระหว่างเฟืองเกียร์ต้นกับเกียร์ตามอยู่ ถ้าฝืนจะเข้าเกียร์ทั้งอย่างนั้น ถ้าไม่ก้านเกียร์จะแข็งมากๆตอนเตะขึ้น/ลงแล้ว เฟืองเกียร์ก็อาจจะรูด จนถึงขั้นแตกหักแล้วพังเสียหายทั้งยวงเลยก็ได้ ดังนั้นเพื่อให้เราสามารถเสับเกียร์เพื่อไต่ระดับความเร็วได้ เราจึงจำเป็นจะต้องลดแรงกระทำที่ส่งมาจากเครื่องยนต์ก่อน ซึ่งเราก็ทำได้ง่ายๆด้วยการกำคลัทช์ เพื่อตัดกำลังดังกล่าว ไม่ให้เข้ามามีผลกับชุดเฟืองเกียร์อีกต่อไป ซึ่งนี่คือหลักการขึ้นต้นของการเข้าเกียร์ในแบบพื้นฐาน และปลอดภัย อย่างที่เราทำกันมาโดยตลอด แต่อย่างที่บอกว่าในครั้งนี้ เราจะใช้วีธีสับเกียร์ โดยไม่ต้องกำคลัทช์ ซึ่งอันที่จริงวิธีก็ไม่ได้ซับซ้อนเท่าไหร่นัก เพราะวิธีก็มีง่ายๆแค่เพียง หากเพื่อนๆต้องการจะสับเกียร์ขึ้น ก็ให้ปิดคันเร่งอย่างรวดเร็ว แล้วเตะเกียร์ขึ้นไปพร้อมๆกัน อย่าเร็วไป หรือช้าไป เพื่อที่จะได้อาศัยจังหวะเครื่องยนต์ยังไม่ลดรอบเครื่องตัวเองลงจนมีเอนจิ้นเบรกมายังเฟืองเกียร์เสียก่อน ก็เท่านั้น (สังเกตช่วง 10 วินาทีแรกของคลิป) ซึ่งเอาจริงๆแล้วนี่ก็เป็นหลักการเดียวกับที่ควิกชิฟท์เตอร์ทำงานกับเครื่องยนต์ของเรา เพราะถ้าเพื่อนๆเคยอ่านในบทความก่อนหน้านี้ ก็คงจะพอทราบว่ามันมีหน้าที่ตัดการทำงานของเครื่องยนต์ในจังหวะเสี้ยววินาทีที่เราเตะเกียร์…
Ducati MH900e ถือเป็นรถมออเตอร์ไซค์รุ่นตำนานอีกหนึ่งคันของค่ายแดงที่หลายคนรู้จักกันดีนับตั้งแต่มันได้ถือกำเนิดขึ้นในช่วงปี 2001-2002 ซึ่งด้วยความที่ในปัจจุบันหลายค่ายเริ่มหันมาผลิตรถมอเตอร์ไซค์ที่มีงานดีไซน์อีกจากผลงานของพวกเขาในอดีตมากขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้สื่ออเมริการายหนึ่งเกิดไอเดียอย่างให้ทางค่ายอิตาลีรายนี้นำตำนาน “Evoluzione” คันนี้กลับมารีเมคใหม่บ้าง และด้วยความที่เจ้า MH900e เวอร์ชันดัังเดิมนั้น มีความเป็นสปอร์ต หรือซุปเปอร์ไบค์ในตัวค่อนข้างสูงในช่วงยุคของมัน จึงทำให้หากทาง Ducati อยากที่จะรีเมคมันใหม่อีกครั้งจริงๆ พวกเขาก็น่าจะเอาพื้นฐานตัวรถ Ducati Panigale V4 มาใช้ในการสร้าง แล้วยัดสเปคจัดเต็มหรือเหนือกว่า V4 S ไปเลยก็ได้ เพื่อให้มันมีความพิเศษสุดๆสมกับความเป็นตัวลิมิเต็ดอิดิชันอย่างที่ต้นแบบของมันเคยเป็น ดังนั้นหากไม่นับเครื่องยนต์ที่แน่นอนว่าจะต้องเป็นบล็อค V4 1,103cc ที่ให้กำลังสูงสุด 217 แรงม้า กับชุดเฟรมแบบ Aluminium Front Frame, ระบบกันสะเทือนก็จะต้องเป็นของ Ohlins ที่สามารถปรับเซ็ทได้ทุกค่า แถมยังมาพร้อมกับระบบปรับไฟฟ้ากึ่งอัตโนมัติ แล้วล่ะก็ ชิ้นส่วนบอดี้พาร์ทภายนอกของมันที่ถูกออกแบบให้มีความเป็น Exotic Cafe Racer ก็จะต้องทำขึ้นจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมด ไม่เพียงเท่านั้นยังอาจจะมีการเสริมลูกเล่นสำคัญๆของ Panigale V4 R…
ท่ามกลางกระแสข่าวที่ส่อเค้าว่า MotoGP 2020 อาจจะไม่มีการแข่งขันอย่างใดในปีนี้ ล่าสุด Carmelo Ezpeleta ก็ได้ออกมาระบุว่าพวกเขาเริ่มเห็นแนวทาง หรือความหวังที่ว่าจะได้จัดการแข่งขันดังกล่าวในปีนี้บ้างแล้ว ว่ามันอาจจะพร้อมเริ่มในอีก 3 เดือนข้างหน้า “เราได้เห็นมุมมองที่ต่างออกไปและในแง่ดีที่สุดเราคงได้เริ่ม MotoGP ช่วงปลายเดือนกรกฏาคม” Ezpeleta กล่าวในบทสัมภาษณ์กับ BT Sport “หลังจากนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่เรายังต้องระวังอยู่สองอย่าง อยางแรงกคือจะมีประเทศไหนบ้างอนุญาตให้เราได้จัดแข่งเมื่อพวกเขาเปิดประเทศ และสอง คือความเป็นไปได้ที่จะเดินทางจากประเทศหนึ่ง ไปยังอีกประเทศหนึ่ง” “โดยหลักการแล้ว เราต้องใส่ใจในการเริ่มแข่งที่ยุโรปช่วงเดือนกรกฏาคม หรือสิงหาคมให้ได้ ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่จะเป็นอย่างไร, หลังจากนั้นเราค่อยมาดูว่าเราจะไปที่ไหนได้อีกบ้างในช่วงสิ้นปี ถ้าแต่ละประเทศจะอนญาตให้เราทำ แต่มันก็ต้องจบในกรอบเวลาเดิมด้วย (นั่นก็คือไม่ให้เกินช่วงเดือนพฤศจิกายน)” “นี่คือทางเลือกที่ดีที่สุด และในทุกๆวันผมคิดตลอดว่าจะทำยังไงให้มันเกิดขึ้น, บางที่อาจจะเป็นการแข่ง สองเรซต่อเนื่องในสนามแห่งเดียวแล้วค่อยเลื่อนไปแข่งที่อื่น, ในยุโรปเราสามารถย้ายของได้ด้วยรถ ซึ่งมันคือเรื่องที่เป็นไปได้มาก, ในสถานการณ์ที่เรารอดูอยู่ตอนนี้ คือการเริ่มแข่งในช่วงเดือนกรกฏาคม แล้วจบการแข่งช่วงพฤศจิกายน” นอกจากนี้เจ้าตัวยังย้ำถึงแนวคิดว่าจะจัดแข่งแบบปิด (ไร้คนดู มีแต่ทีมแข่งกับบุคลากรที่เกี่ยวข้อง แล้วถ่ายทอดสดเท่านั้น) ว่า “เราตัดสินใจว่าทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้คือการแข่งแบบไม่มีผู้เข้าชม เพราะเราไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้ (ถ้าต้องแข่งแบบปกติ)…
ย้อนไปเมื่อเดือนกรกฏาคมปีที่แล้ว Honda Winner X 150 ได้ถูกเผยโฉมเป็นครั้งแรกในเวียดนาม ซึ่งตอนนี้ผ่านไปเกือบ 1 ปี ก็ดูเหมือนว่าจะได้ฤกษ์ที่ทางผู้บริหารจะปรับสีใหม่ของมันอีกครั้งเพื่อเพิ่มความสดใหม่ให้กับตัวรถ โดยสำหรับพื้นฐานโครงสร้างตัวรถ 2020 Winner X 150 นั้น ในเบื้องต้นจะยังคงอิงพื้นฐานเดิมจากโฉมปี 2019 ทั้งชุดโครง, ชุดล้อขอบ 17 นิ้ว รัดด้วยยางไซส์ 90/80-17 และ 120/70-17 ตามลำดับ หน้า/หลัง , ระบบเบรกด้านหน้าดิสก์เดี่ยวทำงานร่วมกับปั๊มโฟลทติ้งเมาทคาลิปเปอร์ 2 พอร์ท ส่วนด้านหลังมีลักษณะคล้ายกันแต่ใช้ปั๊ม 1 พอร์ท และมีการเสริมระบบ ABS มาให้เป็นออพชันสำหรับตัวท็อปเรียบร้อย ไม่เพียงเท่านั้นแม้แต่เครื่องยนต์เองก็ยังเป็นบล็อค สูบเดียว 149.3cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ กำลังสูงสุด 15.5 แรงม้าที่ 9,000 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุดอีก 13.5 นิวตันเมตรที่…
อาจจะจริงอยู่วาการกลับมาของ Honda Monkey ด้วยร่าง 125cc จะดูประสบความสำเร็จพอสมควร แต่ดูเหมือนมันอาจจะมีขนาดที่ใหญ่ไปสักนิดเมื่อเทียบกับรุ่น 50cc ที่เราเคยรู้จัก จึงทำให้ทาง Honda เลือกพัฒนาโปรเจ็กท์รถมอเตอร์ไซค์ที่คล้ายกับเจ้าลิงนี้อีกครั้ง แต่มีขนาดเล็กกว่า แถมยังมาพร้อมกับระบบส่งกำลังออโตเมติกด้วย โดยจากภาพสิทธิบัตรรถมอเตอร์ไซค์ของ Honda ที่เพื่อนๆเห็นอยู่ในขณะนี้ จะพบว่าแม้มันอาจดูไม่เหมือนกับ Monkey ที่เราคุ้นชินเท่าไหร่นัก แต่ถ้าลองสังเกตกันดีๆจะพบว่าทั้งตำแหน่งแฮนด์บาร์, เบาะนั่ง, ถังน้ำมัน (ที่อาจจะดูเล็กไปสักนิด), และวงล้อ ต่างก็มีความคล้ายคลึงกับเจ้าลิงทั้งหมด เพียงแค่มันถูกจัดระยะกับสัดส่วนใหม่ให้สั้นลงกว่าเดิมจากแนวดิ่งด้านหน้าสู่แนวดิ่งด้านหลังก็เท่านั้น แต่จุดที่เราสงสัยและค่อนข้างแปลกใจจริงๆก็คือลักษณะเครื่องยนต์ที่ติดตั้งมาให้ในรถอ้างอิง ซึ่งเป็นแบบสูบนอนยึดกับชุดระบบส่งกำลังแบบออโตเมติก (CVT) แถมยังยึดกับชุดเฟรมแบบมีข้อต่อด้านล่าง และใช้ชุดโช้กหลังยึดระหว่างหูยึดตรงเฟรมด้านบน กับหูยึดตรงแครงก์สายพานด้านล่าง เหมือนที่เราเคยเห็นกันประจำในรถสกูตเตอร์ทั้งหลาย นั่นจึงหมายความว่า หาก Honda ต้องการจะสร้าง Mini-Monkey ในรูปแบบตามสิทธิบัตรนี้จริงๆล่ะก็ นอกจากขนาดตัวของมันจะเล็กกว่าเดิมแล้ว มันยังจะเป็น “เจ้าลิงออโต้” อีกด้วย ซึ่งไม่แน่ว่าทางค่ายอาจจะตั้งใจทำมันขึ้นมาเพื่อเอาใจผู้หญิง หรือผู้ที่ชื่นชอบการขี่รถมอเตอร์ไซค์หน้าตาคลาสสิคแต่ขี่ง่ายสบายๆแบบสกูตเตอร์ก็ได้ ทว่าเราจะได้เห็นพวกเขาขายมันจริงๆเมื่อไหร่นั้น ยังคงต้องรอติดตามกันต่อไป อ่านข่าว Honda…
แม้ว่าก่อนหน้านี้ Suzuki GSX-R150 เวอร์ชันปี 2020 จะเคยเผยโฉมออกมาแล้วหนึ่งครั้งในประเทศญี่ปุ่น ทว่านั่นก็มีแค่เพียงสีโปรโมทหลักซึ่งก็คือสีฟ้า/เทา แบบตัวแข่ง MotoGP เท่านั้น ซึ่งล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา พวกเขาก็พึ่งมีการเปิดตัวสีรองอื่นๆออกมาอีก 3 แบบด้วยกัน ดังที่เพื่อนๆจะเห็นอยู่ต่อไปนี้ สีเหลือง/ดำ สีดำ/แดง และสีดำ/เทา โดยจากภาพที่เพื่อนๆเห็นอยู่ จะพบว่าถ้าหากเทียบ GSX-R150 ทั้ง 3 สีรอง กับสีหลักนั้น ใช้ลักษณะกราฟฟิกที่คล้ายกันพอสมควร โดยเฉพาะกับวิธีการตัดสลับโทนสี และตัวหนังสือ “SUZUKI” ขนาดใหญ่ที่คาดตรงกลางตัวรถ ซึ่งต่างจากปีก่อนๆที่สีรองมักจะไม่ใช้ลายกราฟฟิกแบบเดียวกับสีหลัก ส่วนข้อมูลทางเทคนิคอื่นๆของ GSX-R150 เวอร์ชัน MY2020 ก็ถือว่าไม่ได้มีความเปลี่ยนไปใดๆทั้งสิ้นเมื่อเทียบกับโฉมปี 2019 ทั้งในเรื่องของดีไซน์แฟริ่งเปลือกนอก, ชุดโครงเหล็ก diamond frame, ระบบกันสะเทือนด้านหน้าตะเกียบคู่หัวตั้ง-ด้านหลังโช้กเดี่ยวทำงานร่วมสวิงอาร์มเหล็กกล่อง, ระบบเบรกด้านหน้าดิสก์เดี่ยวพร้อมปั๊มโฟลทติ้งเมาท์ 2 พอร์ท-ด้านหลังดิสก์เดี่ยวพร้อมปั๊มโฟลทติ้งเมาท์ 1 พอร์ท แถมยังมีระบบ ABS มาให้ด้วย…
หลัง Ducati Streetfighter V4 ที่เกิดมาเป็นตัวตายตัวแทนใหม่ของ Streetfighter 1099 ได้ถูกเปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยเมื่อปลายปีก่อน ต่อจากนั้นไม่นานนัก Claudio Domenicali บอสใหญ่ของทางค่ายก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตัวตายตัวแทนใหม่ของ Streetfighter รุ่นรองรหัส 848 เองก็เตรียมเกิดใหม่ด้วยเช่นกันในชื่อ Streetfighter V2 ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็มีสื่ออิตาลีหลายเจ้าเริ่มเล่นกระแสข่าวนี้อีกครั้งด้วยการนำเสนอภาพเรนเดอร์และสเปคโดยคร่าวๆของ Streetfighter V2 นั่นก็คือ มันจะมีลักษณะการพัฒณาตัวรถที่ไม่ต่างจากพี่ใหญ่ V4 เท่าไหร่นัก เริ่มจากการเอาชิ้นส่วนหลักๆของสปอร์ตเรพลิก้า Panigale V2 ได้แก่ชุดเฟรม, เครื่องยนต์ V2 กำลังสูงสุด 155 แรงม้า, และระบบกันสะเทือน, กับบอดี้พาร์ทช่วงหลังถังน้ำมันเป็นต้นมาใช้ นอกนั้นในส่วนแฟริ่งหน้าและแฟริ่งข้างต่างถูกโลกทิ้งไปทั้งหมดเพื่อให้เหมือนกับ Streetfighter V4 โดยเฉพาะกับชุดโคมไฟหน้า บังโคลนหน้า และกาบแฟริ่งข้าง ทว่าในส่วนของชิ้นวิงเล็ท 2 ชั้น นั้นดูเหมือนจะไม่ได้มีการใส่มาให้แต่อย่างใด และชุดอกล่างเองก็จะดูเรียบงายมากกว่า เพื่อให้…
หลังจากที่ Yamaha Factory เลือกที่จะดึง Fabio Quartararo เข้าสู่ทีมแทน Valentino Rossi ในปี 2021 ทำให้หลายคนสงสัยว่าแล้วอนาคตของพ่อหมอ VR46 จะเป็นอย่างไรต่อไปบ้างหลังหมด MotoGP ปี 2020 นี้ แต่จากข้อมูลที่เราได้รับมานั้นระบุไว้ว่า ณ ขณะนี้ Rossi ได้รับข้อเสนอในการเซ็นสัญญากับ Petronas SRT Yamaha เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เข้าได้ลงแข่ง MotoGP ปี 2021 ต่อไปด้วยตัวแข่งสเปคโรงงานแบบเดียวกับที่เขาเคยได้รับมาตลอด ทว่าจะติดอยู่แค่เรื่องเดียวเท่านั้น ก็คือเขายังไม่สามารถตัดสินใจว่าจะตกลงดีหรือไม่ เนื่องจากอยากพิสูจน์ตัวเองก่อน แม้ว่าตนเองจะยัง “หวัง” เอาไว้เล็กๆก็ตามว่าเขาจะยังแข่งต่อไปได้ “ผมอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เพราะอย่างที่บอก ความต้องการแรกสุดของผมคือการได้ไปต่อ” Rossi กล่าว “ผมมีแรงผลักดันมากพอและอยากจะแข่งต่อ, มันสำคัญมากที่จะเข้าใจระดับของการแข่งขัน เพราะในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว เราสับสนมากๆ และหลายๆครั้งผมช้าเกิดนไป แล้วยังต้องไปแข่งในอันดับต่ำกว่าที่ 5…
หลังจากที่ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์คุณภาพ ขานรับนโยบายของภาครัฐที่มุ่งหวังลดจำนวนผู้ติดเชื้อและป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส โควิด-19 ผ่านการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ซึ่งทางบริษัทฯ ได้ตระหนักถึงมาตรการดังกล่าว และได้ร่วมรณรงค์เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ผ่านมาตรการต่างๆ รวมทั้งการให้พนักงานทุกคนในบริษัทฯ ปฏิบัติงานเต็มรูปแบบภายในที่พักอาศัย (Work from home) นับตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม-24 เมษายน 2563 ในขณะที่สายงานการผลิตและสนับสนุนการผลิต ทางบริษัทฯ มีนโยบายให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ ระหว่างวันที่ 13 -24 เมษายน 2563 โดยช่วงเวลาดังกล่าว ให้ถือเป็นการทำงานโดยไม่ต้องเข้ามาปฏิบัติงาน และให้มีความพร้อมกลับเข้ามาทำงานทันทีเมื่อมีคำสั่งจากบริษัทฯ ปัจจุบันแม้สถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อไวรัส โควิด-19 ในประเทศไทยจะดีขึ้นเป็นลำดับอย่างต่อเนื่อง แต่ทางภาครัฐยังคงมีนโยบายคุมเข้มมาตรการต่างๆ ในการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส โควิด-19 ต่อไปอีกระยะ โดยยังคงความเป็นห่วงภาคแรงงานในภาคอุตสาหกรรมและบริการ เพื่อเป็นการให้ความร่วมมือกับภาครัฐ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด จึงได้ขยายระยะเวลาในการให้พนักงานทุกคนในบริษัทฯ ปฏิบัติงานเต็มรูปแบบภายในที่พักอาศัย…