Kawasaki Motorcycles ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ที่กำลังสนใจและกำลังพัฒนาโปรเจ็กท์รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เพื่อทำมันขึ้นมาไว้วางจำหน่ายในอนาคตอันใกล้ ซึ่งนอกจากสิทธิบัตร Kawasaki Ninja 300 ที่ถูกนำมาดัดแปลงใหม่ให้รองรับกับการติดตั้งชุดแบตเตอรี่ลูกยักษ์และมอเตอร์ไฟฟ้าแล้ว ล่าสุดพวกเขายังเผยอีกว่า ตนมีแผนจะทำตลาดรถมอเตอร์ไซค์ 4 ล้อด้วย เกี่ยวกับเรื่องนี้ นาย Sergio Vicarelli ผู้จัดการฝ่ายงานขายและการตลาดของ Kawasaki Italia ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่ออิตาลีรายหนึ่งว่า “อันที่จริงในตอนนี้เกือบทุกๆค่ายต่างก็พยายามพัฒนารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไว้วางจำหน่ายในอนาคตอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าปัญหาคือในตอนนี้เทคโนโลยียังไม่เอื้อให้มันสามารถใช้งานได้อย่างตอบโจทย์ที่คิดไว้ในอุดมคติเท่าไหร่นัก (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของตัวจ่ายพลังงาน) ” Sergio ยังอธิบายเพิ่มเติมอีกว่า “อย่างเร็วที่สุดกว่าที่เทคโนโลยีแบตเตอรี่จะพัฒนาไปถึงขึ้นใช้งานในอุดมคติ หรือตามที่คาดหวังไว้ได้ เราอาจจะต้องรอจนถึงปี 2030 และเมื่อถึงเวลานั้นแล้ว Kawasaki ก็พร้อมที่จะเดินหน้าปล่อยรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีล้อให้ใช้งานถึง 4 วงออกมาให้ลูกค้าได้เลือกซื้อกัน” ซึ่งหากเอ่ยถึงโปรเจ็คท์รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 4 ล้อแล้ว มันก็คงหนีไม่พ้นเจ้า Kawasaki J Concept ที่เคยเผยโฉมมานานแล้วตั้งแต่ 5 ปีก่อน โดยสำหรับจุดเด่นของ Kawasaki J Concept…
Author: admin
อย่างที่เราทราบกันดีว่า Marc Marquez กับฉายา ไอหนูมหัศจรรย์ หลังจากที่เขาได้คว้าแชมป์ MotoGP ปีแรก ที่เป็น Rookie และ ได้แชมป์ 2 ปีซ้อน ซึ่งถือเป็นนักบิดที่อายุน้อยที่สุด ในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ การที่อยู่ใน Premier Class มา 7 ปี และคว้าแชมป์ได้ถึง 6 สมัย (ตั้งแต่ปี 2013-2019) โดย พลาดแชมป์เพียงปี 2015 ปีเดียว ให้กับ Jorge Lorenzo ทีมเมท Repsol Honda ซึ่ง ณ เวลานั้น เจ้าตัวยังแข่งให้กับ Movistar Yamaha นั่นเป็นผลงานการันตีให้เห็นได้แล้วว่า ณ เวลานี้ ไม่มีใคร จะเทพ ได้เทียบเท่า…
ถือได้ว่าเป็นการหลุดข้อมูลออกมาแบบไม่ทันให้ตั้งตัวเลยก็ว่าได้สำหรับการเปิดตัว 2020 Kawasaki Ninja 650 ที่จู่ๆทาง Kawasaki USA ก็ได้จัดงานเผยโฉมมันขึ้นมา ซึ่งเราก็ไม่รอช้า รีบนำมันมาเสนอให้เพื่อนๆได้รับชมกันครับ โดยสำหรับจุดเปลี่ยนหลักๆของ 2020 Ninja 650 นั้น หลักๆแล้วก้ต้องเริ่มจากรูปลักษณ์ภายนอก ที่สุดท้ายก็ไม่วายว่ามันจะยกเอาเบ้าไฟหน้าของ Ninja 400 มาใช้ ขณะที่แฟริ่งรอบๆแม้จะมีเส้นสายที่คล้ายรุ่นน้อง แต่มันก็ถูกทำให้มีมิติดูดุดันยิ่งขึ้น ส่วนแฟริ่งด้านข้าง อกล่าง ก็มีการรีดีไซน์ใหม่ให้มีความแข็งกร้าวมากกว่าเดิม ขณะที่ชุดแฟริ่งท้ายนั้นยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน (ต้องลองดูตัวรถจริงอีกทีในภายหลัง) แต่เท่าที่เห็นก็ดูเหมือนมันจะยังคงเหมือนเดิม เพิ่มเติมแค่เบาะนั่งผู้ซ้อนใหม่ที่หนาและใหญ่มากขึ้น ด้านชุดแฮนด์บาร์ยังคงเป็นแบบจับเหนือแผงคอสไตล์รถมอเตอร์ไซค์ สปอร์ต-ทัวร์ริ่งตามเดิม, เฟรมถักคล้ายเดิม และระบบกันสะเทือนหน้าก็ยังคงเป็นแบบหัวตั้งทำงานร่วมกับปั๊มเบรกโฟลทติ้งเมาท์เช่นเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆนอกจากเซ็ทติ้งใหม่เล็กน้อยเท่านั้น ชุดมาตรวัด TFT – Full Color แบบใหม่ที่ถูกนำมาติดตั้งแทนชุดมาตรวัดเข็มกวาด+ดิจิตอลสุดอเนกประสงค์ของเดิม โดยมันยังสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านระบบบลูทูธเพื่อเข้าถึงโหมดนำทาง GPS และอื่นๆได้ด้วย ทว่าน่าเสียดายที่มันจะยังไม่มีแทร็คชันคอนโทรลมาให้เสียอย่างนั้น อย่างไรก็ดี แม้จะมีการประโคมข่าวในสื่ออื่นอยู่พักหนึ่งว่า Ninja 650 โฉมใหม่นั้นจะมากับเครื่องยนต์ 4…
แม้ว่าจะเป็ฯน้องใหม่ใน MotoGP แต่เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า Fabio Quartararo คือนักบิดเพียงคนเดียวที่สามารถต่อกรณ์กับ Marc Marquez ได้ในตอนนี้ ซึ่งแม้ว่าผลสุดท้าย ในการแข่งขัน ThaiGP รอบและโค้งท้ายสุด FB20 จะเป็นผู้พ่ายให้กับความเก๋าเกมของ MM93 ทว่างานนี้น้องใหม่ก็ไม่ได้จมกับความเสียใจที่พลาดโอกาสคว้าแชมป์สนามครั้งแรกของตนเองไป พร้อมบอกเล่าเหตุการณ์ ณ ขณะนั้นว่า “ในโค้งสุดท้ายที่มิซาโน่ ผมไม่ได้ลองทำอะไรเลย, พอมาที่นี่ผมเลยอยากจะลองอะไรบางอย่าง” Quartararo กล่าว “ผมแซงเค้าขึ้นไป แต่ผมไม่รู้เลยว่าเค้าจะสามารถเข้าโค้งแล้วปิด(ไลน์)ได้, แต่พอผมเห็นล้อของเค้า(ที่เริ่มสวนขึ้นมา) ผมบอกเลยว่ามันผิดหวังมาก” “คือผมอยู่อีกไม่ใกลกับธงหมากรุก ดังนั้นผมเลยผิดหวังมากๆ แต่ก็มีความสุุขมากๆเช่นกันที่ได้สู้กับ Marc เพราะเราทุกคนก็รู้ว่าในปีนี้ ถ้าไม่นับที่ Austin เค้าก็จบบนโพเดี้ยมตลอด และผมก็คิดมาตลอดหลายปีว่าเค้าคือระดับอ้างอิงจริงๆ (ของนักบิด) MotoGP” “จากใจเลยในตอนนั้นหัวผมดับ, ผมบอกว่าผมจะลอง เพราะว่าถ้าไม่ทำและไม่ได้ลองแซงดู ผมก็คงกลับบ้านแล้วนอนไม่หลับจนกว่าจะถึงที่ญี่ปุ่น ดังนั้นผมเลยต้องลอง”, “คือเรารู้ว่าที่โค้ง 12 ถ้าหลุดปลายโค้งไปมันไม่ใช่กรวด ดังนั้นผมเลยลอง เพราะถ้าหลุดผมก็แค่บาน…
นับตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา หลายคนที่ติดตามการแข่งขัน MotoGP ต่างก็ทราบกันดีว่า Marc Marquez นั้น นอกจากเขาจะพกเอาความเก่งติดตัวมาด้วย จนสามารถคว้าแชมป์โลกในคลาส MotoGP ได้ถึง 6 สมัย หรือถ้ารวมกับ 2 ครั้งก่อนหน้าใน Moto2 กับ GP125 ก็เท่ากับเป็นแชมป์โลก 8 สมัยแล้ว เขายังเป็นนักบิดที่สามารถทำลาย แล้วสร้างสถิติใหม่ๆในวงการการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลกระดับ World GP อีกหลายอย่างด้วยกัน ซึ่งในวันนี้เราจะมาเปิดข้อมูลสถิติที่น่าสนใจจำนวน 50 ข้อให้เพื่อนๆได้ทราบกันครับ – สถิตินักบิดอายุน้อยที่สุดที่สามารถ คว้าแชมป์โลกในรุ่นพรีเมียร์คลาสได้ ด้วยวัย 20 ปี กับอีก 266 วัน – สถิตินักบิดอายุน้อยที่สุดที่สามารถ คว้าแชมป์สนามในรุ่นพรีเมียร์คลาสได้ ด้วยวัย 20 ปี กับอีก 63 วัน…
ย้อนไปเมื่อปี 2017 ทาง Hesketh แบรนด์ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์แบบแฮนด์เมดจากอังกฤษ ได้เคยสร้างเสียงฮือฮาจากการเปิดตัว Hesketh – Valiant SC เรโทร-แน็คเก็ท คอนเซปท์ไบค์ ที่นอกจากหน้าตาจะโดดเด่นแล้ว เครื่องยนต์ของมันยังเป็นแบบ V2 พ่วงซุปเปอร์ชาร์จ Rotrex พิกัด 2.1 ลิตร ที่สามารถทำแรงม้าได้สูงสุด 210 ตัว และมีแรงบิดให้เรียกใช้อีกถึง 295 นิวตันเมตรอีกด้วย และภายในปี 2020 นี้ พวกเขาก็มีแผนการที่จะสร้างกระแสรูปแบบนั้นอีกครั้ง ด้วยการนำเครื่องยนต์บล็อค 3 สูบเรียง ขนาด 1,000cc ที่มีการโมดิฟายไส้ในเพื่อให้รองรับกับระบบซุปเปอร์ชาร์จเจอร์ ไปติดตั้งในรถมอเตอร์ไซค์แนวซุปเปอร์ไบค์แฮนด์เมดคันใหม่ของตน นอกนั้นในเรื่องของส่วนประกอบตัวรถอื่นๆก็อิงตามภาพด้านบนสุด ที่เห็นได้ว่ามันจะมาพร้อมกับชุดเฟรมอลูมิเนียมแบบทวินสปาร์, ใช้โช้กหลังเดี่ยว, ทำงานร่วมกันกับสวิงอาร์มอลูมิเนียมขนาดใหญ่, และใช้โช้กหน้าหัวกลับที่รองรับการใช้งานร่วมกับระบบเบรกแบบดิสก์คู่และปั๊มเรเดียลเมาท์ ส่วนช่วงเวลาเปิดตัวทาง Hesketh ได้ระบุว่าพวกเขาจะพร้อมเผยโฉมมันในช่วงปี 2020 แต่จะเป็นตอนไหนของปีนั้น เรายังต้องติดตามกัน่อไปครับ อ่านข่าวสาร Hesketh…
แม้รถจะวางจำหน่ายมาหลายปีจนเลิกผลิตไปแล้ว แต่ทาง NHTSA หรือหน่วยงานด้านความปลอดภัยทางจราจรบนถนนหลวงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ก็ยังคงจริงจังในการหาและคอยเรียกให้ผู้ผลิตแก้ไขข้อบกพร่องของตัวรถที่พวกเขาผลิต หรือเคยผลิตอยู่เสมอๆ ซึ่งในรายล่าสุดที่เรากำลังจะกล่าวถึงนั้น ก็คือเหล่า 1199 Panigale / 1299 Panigale ของ Ducati จำนวนกว่า 651 คันที่ขึ้นทะเบียนอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกานั่นเอง โดยสำหรับปัญหาที่กระทบ Ducati 1199 Superleggera, Ducati 1299 Superleggera, Ducati Panigale 1199 R, และ Ducati 1299 Panigale R Final Edition จนต้องมีการประกาศรีคอลล์ในครั้งนี้นั้น ก็เกิดจากการที่ NHTSA ได้ถูกเรียกร้องว่า เหล่า L-twin Superbike ที่เรากล่าวถึงนี้ มักมีอาการน้ำมันเครื่องรั่วซึม เพราะแรงอัดในแครงก์สูงเกินไปอยูบ่อยครั้ง และจากเหตุการณ์ดังกล่าวจึงทำให้มีโอกาสสูงมากที่น้ำมันเครื่องอาจไหลไปเข้าสู่หม้อกรองอากาศฝั่งไอดี ซึ่งจะส่งผลถึงการทำงานของเครื่องยนต์ L-Twin ในภายหลัง…
เรียกได้ว่านี่น่าจะเป็นข่าวที่พวกเราเหล่าสาวกและผู้ตดตามการแข่งขัน MotoGP นั้นดีใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะหลังจากที่ปล่อยให้ใจหวิวกันอยู่นานว่าประเทศไทยเราจะยังได้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ระดับโลกนี้ต่อหรือไม่ ? ในที่สุดทาง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก็ได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่า ขณะนี้ทางรัฐบาลได้จัดการเซ็นสัญญากับทาง ดอร์น่า เจ้าของลิขสิทธิ์การแข่งขันนี้เพิ่มเติมเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยสัญญา 5 ปี นั่นจึงหมายความว่า หลังจากจบการแข่งขัน MotoGP 2019 ไปแล้ว พวกเราชาวไทย ยังจะได้มีโอกาสรับชมศึก MotoGP กันต่อไปอีกจนถึงปี 2026 ซึ่งตัวสัญญาฉบับใหม่ที่ว่านี้ก็มีมูลค่าสูงใช่ย่อยเลยล่ะครับ เพราะทาง กกท. ต้องใช้เงินถึง 47.5 ล้านยูโร หรือราวๆ 1,600 ล้านบาท เลยทีเดียวเพื่อเซ็นสัญญา MotoGP 5 ปี ฉบับใหม่กับทางดอร์น่าในครั้งนี้ อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ Motorival
เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่ชั่วโมง การแข่งขัน ThaiGP 2019 ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ศึกมอเตอร์ไซค์รายการใหญ่ที่สุดในโลกได้มาจัดในบ้านเราจะเริ่มขึ้น ดังนั้นเพื่อให้การชมมีอรรถรสขึ้นอีกนิด เราจึงจะขอนำเสนอ 10 สถิติน่าสนใจก่อนชมศึกนี้กันหน่อยดีกว่าครับ 1. แม้ว่าจะล้มไปในรอบสุดท้ายของ Q2 แต่ด้วยการคว้าโพลโพซิชันของ Fabio Quartararo ในครั้งนี้ ทำให้มันเท่ากับว่าเขาสามารถเก็บโพลโพซิชันในฐานะนักบิดหน้าใหม่ของ MotoGP ได้แล้วถึง 4 ครั้ง ซึ่งนั่นเทียบเท่ากับสถิติที่ Jorge Lorenzo เคยทำไว้เมื่อปี 2008 และที่ Dani Pedrosa เคยทำไว้เมื่อปี 2006 โดยมีเพียง Marc Marquez เท่านั้นที่สามารถทำสถิติได้เหนือกว่าคือ 9 ครั้งเมื่อปี 2013 2. ด้วยอายุเพียง 20 ปี 168 วัน กับการคว้าตำแหน่งโพลโพซิชันไปแล้วถึง 4 สนาม ในรุ่นใหญ่…
ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ค่อนข้างน่าแปลกใจไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับการที่จู่ๆ Valentino Rossi, Marc Marquez, และ Fabio Quartararo ต่างก็พลาดล้มที่โค้ง 5 ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน และมีลักษณะตอนล้มที่ไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก ขณะพากันหวดตัวแข่งเพื่อกดเวลาหากริดสตาร์ทในรอบ Q2 ของรุ่น MotoGP ซึ่งหลังจากจบเซสชันดังกล่าว ทั้ง 3 คนต่างก็ได้เปิดเผยสาเหตุที่ทำให้ล้มไปในทิศทางคล้ายกันคือ เป็นเพราะการบั๊มพ์ที่ปลายโค้ง 4 Rain delays, a tricky turn 5 and battle scars to show off to your friends ?Take a look at the best shots of day 2 in Thailand…