Honda CL300 คือชื่อสมมุติของรถที่อยู่ในภาพสิทธิบัตรชิ้นใหม่ของค่ายปีกนก Honda ที่ถูกจดทะเบียนไปเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางค่ายได้จดสิทธิบัตรโครงสร้างของรถที่ดูเหมือนว่าจะมาในสไตล์คลาสสิกตัวลุยที่ใช้เครื่อง 500cc และในเวลาต่อมายังมีการจดลิขสิทธิ์ชื่อรถรุ่นใหม่อย่าง CL500 ซึ่งเป็นชื่อของรถสไตล์ Scrambler ที่เคยถูกใช้ในอดีต นั่นก็ทำให้เราคาดเดาว่า “ชื่อรถ” และ “โครงสร้าง” ดังกล่าวนั้นจะถูกใช้ในรถรุ่นเดียวกัน โดยสิ่งที่น่าสนใจก็คือ โครงสร้างของรถ Scrambler ดังกล่าวนั้นถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก Honda Rebel ซึ่งเป็นโครงสร้างที่สามารถนำมาใช้ได้กับเครื่องยนต์ของ 500 series และ 300 series นั่นก็ทำให้มีความเป็นไปได้สูงมากที่ทางค่ายจะพัฒนารถ CL300 ในเวลาต่อมา ซึ่งสมมุติฐานนั้นก็ถูกยืนยันด้วยการจดลิขสิทธิ์ชื่อดังกล่าวในประเทศไทย จึงทำให้มีความเป็นไปได้ตามมาว่ามันจะมีรุ่น CL250 โผล่ตามมาสำหรับบางตลาดอีกด้วย ถ้ามากันทั้งสิทธิบัตรและลิขสิทธิ์ขนาดนี้ มันก็ทำให้เราค่อนข้างมั่นใจว่ารถโมเดิร์นคลาสสิก ไฟกลมตัวลุยทั้งรุ่นเล็กและรุ่นกลาง จะต้องถูกเปิดตัวในอนาคตอย่างแน่นอน ซึ่งตัวรถทั้งหมดก็จะยังคงใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเช่นเคย แบบเดียวกับรถคลาสกลางและคลาสเล็กของ Honda รุ่นอื่น ๆ ที่มา young machine อ่านข่าวสาร Honda…
Author: Kristha
All-New Honda Hornet และ Transalp สองรถมอเตอร์ไซค์สไตล์ Streetfighter และ Adventure ในความทรงจำของแฟนคลับค่ายปีกนก Honda ที่มีแววว่ากำลังจะถูกเปิดตัวโฉมใหม่ในเร็ว ๆ เพื่อเดิมเต็มช่องว่างในตลาดของรถมอเตอร์ไซค์คลาสกลาง(ตอนบน) ที่ค่ายรถรายนี้ไม่มีของมาปิดปากผู้บริโภคจนลูกค้าแห่ไปซื้อรถยี่ห้ออื่นกันหมด ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่มีข้อมูลที่แน่นอนว่ารถทั้ง 2 รุ่นนี้จะถูกพัฒนาด้วยพื้นฐานเดียวกันหรือไม่ แต่ก็มีความเป็นไปได้อยู่สูงมากที่มันจะแชร์เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ 2 สูบเรียง ที่มีความจุประมาณ 750-900cc ลูกใหม่ที่ต่อยอดมาจากเครื่องยนต์ของ Africa Twin 1100, NT1100, Rebel 1100, Hawk 11 ซึ่งมีชื่อเสียงและรู้จักกันดีในฐานะที่มันสามารถนำมาใช้งานกับรถมอเตอร์ไซค์ได้หลายประเภท ตั้งแต่รถตัวลุยโดดเนิน ไปจนถึงรถนั่งสบายกินลม แต่เอามาลดขนาดและปรับรายละเอียดใหม่ตามความเหมาะสม ช่วยประหยัดงบการพัฒนาของค่ายไปได้เยอะ และก็มีความเป็นไปได้สูงว่าเครื่องยนต์ลูกดังกล่าว จะพ่วงระบบเกียร์ DCT ที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดให้ดีขึ้นอีกเล็กน้อย ช่วยทำให้รถที่ใช้เครื่องยนต์ดังกล่าวมีเอกลักษณ์แตกต่างออกไปจากคู่แข่ง ช่วยเติมช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่าง 650 series และ 1100 series รวมถึงมาทำตลาดแทนรถตระกูล 750…
เป็นอีกครั้งนึงที่ค่ายรถมอเตอร์ไซค์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นอย่าง Honda จะทำการจดสิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญาชิ้นใหม่ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่ค่ายรถทั้งหลายจะพยายาม “แสดงความเป็นเจ้าของ” ไอเดียที่ตัวเองคิดได้ แต่ค่ายปีกนกถือเป็นบริษัทหนึ่งที่ผลักดันผลงานและแนวคิดต่าง ๆ ออกมาบ่อยมากกว่าบริษัทรถเจ้าอื่น โดยจะแสดงให้เราเห็นแนวคิดที่ว่าผ่านสิทธิบัตรดังกล่าว ถึงแม้ว่าเราจะจั่วหัวว่าสิทธิบัตรที่เรากำลังพูดถึงนี้เป็นเครื่องยนต์ V4 ลูกใหม่ที่ชวนให้เราคิดฝันถึงรถสปอร์ตในตำนานอย่าง Honda VFR750R หรือรถแข่ง MotoGP สำหรับท้องถนนอย่าง RC213V-S ที่อาจจะมีโอกาสถูกนำกลับมาขายอีกครั้งในรุ่นโปรดักชั่นราคาเป็นมิตร แต่ในรายละเอียดที่แท้จริงของเอกสารที่ว่านั้น กลับเจาะจงไปที่เทคโนโลยีอื่น 2 ชิ้น นั่นก็คือ “ปากแตรแบบแปรผัน” และ “ระบบหยุดการทำงานของลูกสูบ” “ปากแตรแบบแปรผัน” โดยระบบนี้จะทำการติดมอเตอร์ไว้ที่ปากแตร เพื่อช่วยปรับความยาวของปากแตรไอดีและจัดระเบียบอากาศที่จะเข้าไปในห้องเผาไหม้ ให้มีความเหมาะสมกับรอบเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์สามารถสร้างแรงม้าได้มากขึ้นเล็กน้อยในทุกย่านกำลัง ซึ่งก็ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่อะไร และมีใช้กันในรถยนต์กับมอเตอร์ไซค์ราคาแพงบางรุ่นอยู่แล้ว “ระบบหยุดการทำงานของลูกสูบ” ที่เป็นระบบที่มีการใช้งานทั้งในรถยนต์และมอเตอร์ไซค์บางรุ่นแล้วเช่นกัน โดยมักจะใช้เพื่อหยุดการทำงานของลูกสูบสักชุดนึง(ในเครื่องยนต์สูบ V ก็มักจะเป็นสูบหลังที่อยู่ใกล้ขา) ในช่วงที่เดินเบาหรือจอดติดไฟแดง เพื่อลดการกินน้ำมัน หรือลดความร้อนที่ขาผู้ขี่ แต่ดูเหมือนว่าระบบของ Honda ที่เราเห็นอยู่นั้นจะเป็นการหยุดการทำงานของสูบตลอดช่วงรอบต่ำตราบที่ไม่มีการเค้นกำลังเยอะ โดยเครื่องยนต์จะทำงานแค่ 2 สูบ คู่หน้าเป็นส่วนใหญ่คล้ายกับเครื่องยนต์…
Ducati ค่ายรถมอเตอร์ไซค์ไซค์ยักษ์ใหญ่สีแดงจากโบโลญญ่า จับมือกับแพลตฟอร์ม Blockchain อย่าง NFT Pro โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ค่ายแดงสามารถปรับตัวเข้าสู่อนาคตของอินเตอร์เน็ตที่เรียกว่า Web 3.0 และอาจจะหวังขาย NFT เพิ่มหารายได้เสริมเล็กน้อย? ก่อนอื่นเราขออธิบายยุคสมัยของอินเตอร์เน็ตแบบง่าย ๆ ก่อนว่า Web 1.0 คือยุคที่ตัวเว็บไซต์จะทำหน้าที่สื่อสารข้อมูลทางเดียว เหมือนการอ่านเนื้อหาในเน็ตทั่วไป ส่วน Web 2.0 จะเป็นยุคของโซเชียลมีเดียที่มีการสื่อสารได้สองทาง ผู้ใช้สามารถตอบสนองได้ แต่ต้องพึ่งพาผู้ให้บริการเจ้าใหญ่อย่าง Facebook หรือ Twitter ในขณะที่ Web 3.0 นั้นจะเป็นการใช้งานอินเตอร์เน็ตแบบไร้คนกลาง ช่วยปกปิดข้อมูลส่วนตัวได้ด้วยระบบ Blockchain ซึ่งก็เป็นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของเหล่า Bitcoin และ Non Fungible Token หรือ NFT ซึ่ง NFT Pro ก็จะมาช่วยแนะนำ Ducati ให้สามารถนำระบบ Blockchain…
ทุกคนเคยสงสัยกันไหมว่าทำไม “ขาตั้งด้านข้าง” ของรถมอเตอร์ไซค์ถึงต้องอยู่ที่ด้านซ้ายของตัวรถด้วย? แว้บแรกที่ได้ยินคำถามนี้หลายคนอาจจะคิดว่า “ก็เราขึ้นมอเตอร์ไซค์จากด้านซ้าย ที่ติดกับขอบถนนไง” แต่ถ้าเป็นแบบนั้น ทำไมถึงยังมีการขึ้นรถมอเตอร์ไซค์จากฝั่งซ้ายอยู่ ทั้งที่ถนนอีกครึ่งโลกก็ขับเลนขวากัน? และการเปลี่ยนตำแหน่งขาตั้งก็ไม่น่าใช่เรื่องยากอะไร วันนี้เรามีคำตอบมาให้ทุกคนกัน และเรามีหลายคำตอบด้วย อย่างแรกเราขอพูดถึงเหตุผลด้านการใช้งานและด้านเทคนิคก่อน หลายคนอาจจะไม่สังเกตว่ารถมอเตอร์ไซค์แบบมีเกียร์และคลัตช์ จะแยกระบบตัดต่อกำลังและระบบเบรกไว้ด้านซ้ายและขวาอย่างชัดเจน โดยฝั่งซ้ายของทั้งมือและเท้าจะเป็นระบบคลัตช์และเกียร์ ส่วนด้านขวาของมือและเท้าจะเป็นระบบเบรกหน้า-หลัง เพื่อความง่ายและไม่สับสนในการใช้งาน ซึ่งเหตุผลที่ระบบเบรกต้องอยู่ด้านขวา นั่นก็เพราะคันเร่งนั้นอยู่ด้านขวา เนื่องจากคนส่วนใหญ่บนโลกนั้นถนัดขวา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะใช้คันเร่งด้วยมือขวา และเมื่อเราต้องการเบรกเราก็ต้องปล่อยคันเร่งอยู่แล้ว ทำให้คันเร่งและเบรกสามารถอยู่บนมือข้างเดียวกันได้ ต่างจากคลัตช์ที่เรามีจังหวะการใช้ในหลายสถานะการณ์มากกว่า ทำให้เป็นเรื่องลำบากถ้าต้องกำคลัตช์ตอนที่เร่งเครื่องอยู่ และในเมื่อด้านขวาถูกใช้ไปกับเบรกแล้ว ก็จะเหลือที่ด้านซ้ายไว้ควบคุมระบบตัดต่อกำลังแทน (ซึ่งอันที่จริงแล้ว ถ้าเราเอาระบบเบรกไว้ที่มือทั้งหมด และระบบส่งกำลังไว้ที่เท้าทั้งหมด ก็น่าจะใช้ได้เหมือนกัน) และเมื่อระบบควบคุมรถมันเป็นแบบนั้น ทำให้เมื่อเราต้องการเปลี่ยนเกียร์เพื่อจะออกตัว เราต้องเอียงรถไปทางขวา ทิ้งน้ำหนักบนเท้าขวา และพักขาซ้ายไว้บนคันเกียร์ การเอาขาตั้งไว้ด้านซ้ายเพื่อที่จะเก็บขาตั้งและตามด้วยการตบเกียร์ จึงเป็นรูปแบบการใช้งานที่สะดวกและมีขั้นตอนน้อยกว่าการเอียงตัวไปซ้ายทีขวาที เพื่อเอาขาตั้งขึ้นและเปลี่ยนเกียร์ ส่วนอีกเหตุผลนึงคือเหตุผลด้านประวัติศาสตร์ ในสมัยที่คนเราใช้ “ม้า” เป็นพาหนะ แต่มันก็ยังเกี่ยวกับเรื่องที่คนส่วนใหญ่ถนัดมือขวาอยู่ดี เพราะถ้าเราถนัดมือขวา เราจะต้องพกดาบไว้ที่เอวด้านซ้าย และถ้าเราจะขึ้นขี่ม้าโดยที่มีดาบที่ยาวและหนักอยู่ที่ขาซ้าย การขึ้นขี่ม้าจากทางด้านซ้ายของตัวม้า แล้วตวัดขาขวาข้ามหลังม้าไปเหมือนที่เราขึ้นขี่มอเตอร์ไซค์…
MUJI x Honda MS01 จักรยานไฟฟ้าสไตล์มินิมอลรุ่นใหม่ ที่เกิดจากความร่วมมือกันระหว่างค่ายมอเตอร์ไซค์ยักษณ์ใหญ่ตราปีกนก Honda และแบรนด์ไลฟ์สไตล์ เครื่องแต่งกาย และอุปกรณ์ภายในบ้านสไตล์มินิมอลชื่อดังจากญี่ปุ่นอย่าง MUJI สร้างจักรยานไฟฟ้า EV ดีไซด์เรียบหรู เหมาะกับชีวิตคนเมือง MUJI x Honda MS01 เป็นจักรยานไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีแป้นเหยียบ ตัวรถสามารถใช้ทั้งกำลังขาและกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า 400 W หรือประมาณ 1 ใน 3 แรงม้า เท่านั้นเอง ซึ่งถ้าจะถามว่ามันเยอะไหม? มันก็ใช้พลังงานแค่ครึ่งเดียวของเครื่องดูดฝุ่นในบ้านทั่วไป เพราะเป้าหมายหลักนั้นไม่ใช่การใช้มอเตอร์ส่งกำลังตลอดเวลา แต่เป็นการแบ่งเบาภาระผู้ขี่อยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นมันก็สามารถทำความเร็วได้สูงสุดประมาณ 25 กิโลเมตร/ชั่วโมง จ่ายพลังงานด้วยแบตเตอรี่ขาน 48 V พาเราและรถเดินทางไปได้ไกลสุด 65 กิโลเมตร ต่อการชาร์ไฟเต็มหนึ่งครั้ง ซึ่งก็มากเพียงพอสำหรับการใช้งานในเมืองในแต่ละวัน ตัวรถ(จักรยาน)คันนี้มาพร้อมดีไซด์ที่เป็นเอกลักษณ์ ต่างจากมอเตอร์ไซค์รุ่นอื่นของ Honda แต่ขณะเดียวกันมันก็เริ่มเหมือนรถไฟฟ้ารุ่นอื่น และเครื่องใช้ไฟฟ้าสมัยใหม่เข้าไปทุกที ระบบเบรกแบบดิสก์เดี่ยว…
Francesco Bagnaia นักแข่งรถมอเตอร์ไซค์ทางเรียบ MotoGP ชาวอิตาลี ประสบอุบัติเหตทางรถยนต์ในเกาะ Ibiza ประเทศสเปน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาหลังจากที่ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนในช่วงพักครึ่งฤดูกาล หลังจากที่ประสบความสำเร็จกับการคว้าแชมป์ในรายการ Dutch TT รถของ Pecco นั้นเกิดเสียหลักตกไหล่ทาง ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นไม่มีคู่กรณีคนอื่นมาเกี่ยวข้องด้วย แต่ปัญหาก็คือ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจของ Ibiza มาถึงก็ได้ทำการตรวจค่าแอลกอฮอล์กับนักแข่ง Ducati รายนี้ผลปรากฏว่า Bagnaia มีค่าแอลกอฮอล์ในเลือดสูงกว่าที่กฎหมายสเปนกำหนดถึง 3 เท่า ที่ 0.87 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ Accidente en Ibiza del piloto Francesco ‘Pecco’ Bagnaia, que da 0,87 en la prueba de alcoholemia.https://t.co/lSpIqDVDTP — Periódico de Ibiza…
2023 Triumph Speed Twin 900 และ Scrambler 900 รถใหม่สไตลโมเดิร์นคลาสสิก 2 รุ่นจากค่ายแดนผู้ดีอย่าง Triumph ได้ถูกเผยโฉมเป็นที่เรียบร้อยสำหรับการวางจำหน่ายในปีช่วงปีหน้า ซึ่งหลังจากที่มีข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้ว่ารถทั้ง 2 รุ่นจะทำการปรับเปลี่ยนชื่อใหม่เพื่อสร้างความชัดจนในชื่อรุ่น และลดความสับสนสำหรับลูกค้าในปีหน้า แต่ล่าสุด รถฝาแฝดคู่ดังกล่าวก็ได้ถูกเปิดตัวออกมาเร็วกว่าที่คิด 2023 Triumph Speed Twin 900 และ Scrambler 900 จะยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง 900cc ลูกเดิม โดยที่พละกำลังสูงสุดไม่ได้หายไป และยังคงเคลมตัวเลขไว้ 64.1 แรงม้า ที่ 7,500 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุดอีก 80 นิวตันเมตร ที่ 3,800 รอบ/นาที เท่าเดิมเหมือนกับตัวรถปีก่อนหน้า หน้าตาของตัวรถที่ยังคงใช้ไฟหน้าโคมกลม คลาสสิก เรียบหรูนั้นยังคงเดิม ชุดหน้าจอมาตรวัดความเร็วแบบเข็มกวาดสุดคลาสสิค…
Thailand Grand Prix 2022 หนึ่งในสนามแข่งของรายการมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลก MotoGP ที่ได้กลับมาแข่งที่ประเทศไทยอีกครั้ง ที่กำลังจะเปิดขายบัตรเข้าชมในวันที่ 8 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ ได้ทำการเปิดเผยหน้าตาของบัตรแข็งทั้ง 4 แบบ สำหรับตั๋วที่นั่งแบบต่าง ๆ ในสนาม Buriram International Circuit ซึ่งหน้าตาของบัตรที่ถูกเผยโฉมออกมา ก็จะมาในธีมลายไทยร่วมสมัย ที่มีการใช้หน้าของ “หนุมาน” ลิงขาวตัวแทนแห่งสายลมจากตำนาน “รามเกียรติ์” การออกแบบบัตร ภายใต้แนวคิด THAILAND TO THE WORLD ใช้หนุมานที่เป็นตัวแทน ความซุกซน ขี้เล่น เคลื่อนไหวรวดเร็ว ว่องไว เสมือนกับบุคลิกของนักแข่งที่มีความสนุกสนาน ความคล่องแคล่ว และใช้ความเร็วในการแข่งขันเช่นกัน โดยบัตรแต่ละประเภทจะมีราคาดังนี้ Grand Stand 4,000 บาท Quartararo Stand 3,000 บาท Chantra…
Honda ADV160 รถสกู๊ตเตอร์สายลุยสไตล์ SUV โฉมล่าสุดจากค่ายปีกนก Honda ได้ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศอินโดนีเซียไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ตอนนี้เราก็ยังไม่รู้ว่ารถลุยตัวเล็กคันดังกล่าวจะถูกนำมาเปิดตัวในประเทศไทยตอนไหน? และด้วยราคาเท่าไร? ซึ่งในบทความก่อนหน้านี้ เราได้ทำการวิเคราะห์เวลาเปิดตัวของ ADV160 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้เราจึงจะมาลองวิเคราะห์ราคาของรถรุ่นนี้กับบ้าง ว่ามันจะถูกนำมาขายในประเทศไทยด้วยราคาเท่าไร ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดที่เราจะสามารถวิเคราะห์ราคาของรถที่ยังไม่ถูกเปิดตัวในไทยได้ก็คือการ “อ้างอิงจากราคารถในต่างประเทศ” โดยทำการเทียบราคาของรถรุ่นก่อนหน้านั้น หรือรถรุ่นอื่นสักรุ่นที่มาจากค่ายเดียวกัน และอยู่ในคลาสเดียวกัน ที่มีวางขายทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ(ถ้ามากกว่า 1 รุ่นก็จะยิ่งแม่นยำมากขึ้น) และเทียบอัตราส่วนความแตกต่างของราคา ก่อนจะนำอัตราส่วนนั้นไปบวกหรือลบราคาของในต่างประเทศของรถรุ่นที่เราต้องการ ซึ่งถ้าพูดแบบนี้ทุกคนอาจจะเห็นภาพได้ยาก เราจึงของนำราคาของรถที่ในคลาสเดียวกันของ Honda มาเทียบให้ดูเลยดีกว่า ซึ่งรถของ Honda ทั้ง 3 รุ่นที่มีขายในประเทศอินโดนีเซียจะมีดังนี้(ราคาเป็นของรุ่น ABS) – Honda ADV150 ABS 38.83 ล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 93,150 บาท – Honda PCX160 ABS 35.51 ล้านรูเปียห์…