KTM 390 Rally รถแอดเวนเจอร์แรลลี่ขนาดเล็กรุ่นใหม่จากค่ายไร่ส้ม KTM กำลังวิ่งทดสอบอยู่ในขณะนี้ ตามกระแสของรถตัวลุยสายโหดที่เริ่มมาแรงขึ้นทุกเวลา แน่นอนว่าค่ายรถที่มีชื่อเสียงจากรถทางฝุ่น ย่อมไม่สามารถปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป เตรียมเข็นรถรุ่นใหม่ที่ลุยได้โหดกว่าเดิมเข้าตีตลาดในคลาสเล็กเพิ่ม KTM 390 Rally นั้นยังไม่ใช่ชื่ออย่างเป็นทางการของมัน แต่ก็เป็นชื่อที่หลายฝ่ายได้คาดการณ์กันเอาไว้ เนื่องจากรถที่มีสไตล์เดียวกันอย่าง KTM 450 Rally ตัวโหดสายลุยก็ใช้ชื่อนี้ ซึ่งตัวรถที่กำลังวิ่งทดสอบอยู่นั้น(ชมภาพได้ที่นี่) จะถูกสร้างบนพื้นฐานของรถตระกูล 390 series ซึ่งเป็นคลาสเริ่มต้นของค่าย วางเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ 1 สูบ ที่มีขนาดความจุตั้งแค่ 125cc ถึง 370cc ตามแต่ข้อกำหนดในประเทศที่วางจำหน่าย และกำลังทรัพย์ของผู้ซื้อ วางอยู่ในโครงเหล็กแบบ Tellis ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้เหมาะสมกับการใช้งานแนวสมบุกสมบันมากขึ้น แตกต่างจากเฟรมชุดปัจจุบันที่ใช้อยู่ ตัวรถคาดว่าจะยังมีพื้นฐานหลายอย่างใกล้เคียงกับฝาแฝดกึ่งทางดำอย่าง 390 Adventure แต่ปรับหน้าตาใหม่หมดให้เหมือนกับรถแข่ง Dakar Rally ที่มีหน้าตั้ง, เบาะเรียบตอนเดียว, บังโคลนหน้าขนาดใหญ่ที่เป็นเดียวกับรถวิบาก, ระบบกันสะเทือนที่ถูกเพิ่มระยะยุบให้มากขึ้น, สวิงอาร์มที่ถูกปรับใหม่ให้เหมาะกับการลุยมากขึ้น, ดิสก์เบรกหน้าที่เหลือแค่ข้างเดียว…
Author: Kristha
เทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติคงเป็นของที่เราเริ่มเห็นกันบ้างแล้วในโลกของรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นตัวช่วยเล็กน้อยอย่างระบบควบคุมความเร็วที่สามารถเร่งและเบรกได้เองอย่าง Cruise Control หรือระบบที่เข้ามาควบคุมตัวรถในระดับที่สามารถแซงและเปลี่ยนเลนได้เอง ซึ่งถือว่าเป็นระบบที่ยังดูห่างไกลจากความเป็นจริงอยู่สักหน่อย แต่เราก็ต่างมั่นใจว่าระบบเหล่านี้คงจะวางจำหน่ายในอนาคตอันใกล้ แล้วระบบเหล่านี้เข้าใกล้ความจริงขนาดไหนสำหรับรถมอเตอร์ไซค์หละ วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาดูสิทธิบัตรของ Honda ที่วางแผนพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ แต่ถึงแม้ว่าสิทธิบัตรที่เรานำมาให้ดูจะเป็นของค่ายปีกนก แต่ขณะเดียวกันค่ายรถรายอื่นก็กำลังซุ่มพัฒนาระบบของตัวเองอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น Kawasaki, Ducati, BMW, KTM ซึ่งแต่ละค่ายก็มีแผนสำหรับแก้ปัญหาและไปสู่เป้าหมายด้วยวิธีการที่ต่างกันออกไป โดยสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกันเทคโนโยลีล้ำสมัยนั้นก็ถูกจดโดยค่ายปีกนกอยู่เรื่อย ๆ แต่สิทธิบัตรล่าสุดนี้คือระบบที่รวมการทำงานของหลายระบบเข้าไว้ด้วยกันมีชื่อว่า “Drive Assistance Device for a Saddle Riding Type Vehicle” ที่มีการนำระบบ LiDAR ที่จะทำหน้าที่สแกนสภาพแวดล้อมด้วยเลเซอร์ เพื่อทำการวัดระยะและรูปทรงของวัตถุโดยรอบ และจำลองสภาพแวดล้อมภายในคอมพิวเตอร์ ทำให้ตัวรถสามารถรับรู้ถึงสิ่งกีดขวางและวัตถุรอบข้างได้ และข้อมูลที่ได้รับมาก็จะถูกนำไปประมวลผล ก่อนที่จะส่งข้อมูลไปที่แผงคอบังคับเลี้ยวของรถเพื่อควบคุมการหักเลี้ยวในกรณีฉุกเฉิน ตอนนี้หลายคนอาจจะเริ่มรู้สึกแล้วว่ามันเหมือนกับพวงมาลัยพาวเวอร์แบบเดียวกับที่มีในรถยนต์ที่มีฟังก์ชั่นขับขี่อัตโนมัติ ที่สามารถรับรู้แรงกระทำของผู้ขี่ เสริมหรือลดแรงกระทำต่อแผงคอ ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องออกแรงมากเพื่อเลี้ยว รวมถึงต้านไม่ให้แรงกระทำจากล้อส่งมาถึงมือมากเกินไป เหมือนกับกันสะบัด แน่นอนว่ามันรวมถึงการเข้าควบคุมการเลี้ยวของรถเองด้วย ระบบอื่นที่มีการทำงานร่วมกันนั้นยังรวมถึงเซนเซอร์ที่ทำหน้าที่ตรวจดูว่าผู้ขับขี่กำลังจับแฮนด์หรือวางเท้าในตำแหน่งพักเท้าหรือไม่ เช่นเดียวกับการตรวจสอบการจับพวงมาลัยรถยนต์ขับอัตโนมัติ หรือกล้องที่จะถ่ายผู้ขี่อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้โปรแกรมช่วยประมวลผลท่าทางของผู้ใช้เพื่อที่จะได้ควบคุมรถตามความต้องการจริง…
Royal Enfield Himalayan 450 รถแอดเวนเจอร์ตัวลุยหิมาลัยรุ่นใหม่จากค่ายบังผู้ดี Royal Enfield ที่ประสบความสำเร็จและสร้างยอดขายให้กับค่ายและทำตลาดมาได้สักพัก กำลังมีข่าวลือถึงการมาของรถรุ่นใหม่ ซึ่งจะมาพร้อมเครื่องยนต์ลูกใหม่หมดจด ระบายความร้อนด้วยน้ำ ทันสมัยมากขึ้น สะอาดขึ้น และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด มันจะแรงขึ้นกว่ารุ่นที่มีขายอยู่ในปัจจุบันเกือบเท่าตัว Royal Enfield Himalayan 450 คาดว่าจะเป็นรถที่จะมาทำตลาดแทน Himalayan รุ่นปัจจุบันที่ใช้เครื่องยนต์สูบเดียว ระบายความร้อนด้วยอากาศ ความจุ 411cc ที่ให้กำลังสูงสุด 24.3 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุดอีก 32 นิวตันเมตร ที่ 4,000-4,500 รอบ/นาที ที่ถึงแม้จะเป็นรถที่ขายดี ทนทาน ซ่อมง่าย เหมาะกับการใช้งานแบบลุย แต่ก็ถือว่าเป็นรถที่มีน้ำหนักมาก และมีจุดอ่อนเรื่องพละกำลังเมื่อเทียบกับความจุเครื่องยนต์ ทำให้ในรุ่นใหม่อย่าง Himalayan 450 ที่คาดว่าจะถูกเปิดตัวปลายปี 2023 นั้นจะมาพร้อมเครื่องยนต์ลูกใหม่หมดจดที่ระบายความร้อนด้วยน้ำ ความจุเครื่องยนต์ก็เพิ่มขึ้นไปจนแตะ…
หลังจากที่บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าชื่อดังอย่าง Tesla ได้ทำการจดทะเบียนไปในประเทศไทย รวมถึงมีแผนจะตั้งโรงงานผลิตรถในประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย ทำให้เราอยากทำรายชื่อบริษัทรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า EV ที่น่าสนใจ และอยากให้เข้ามาจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการบ้าง โดยค่ายรถที่อยู่ในรายชื่อนี้จะเป็นค่ายรถที่ยังไม่ได้มีการนำมาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ หรือไม่ได้ถูกจำหน่ายในวงกว้าง ซึ่งบางค่ายอาจจะทำธุรกิจในประเทศไทยอยู่แล้ว แต่เป็นธุรกิจประเภทอื่นที่ไม่ใช่มอเตอร์ไซค์โดยตรง และมีแววหรือมีแนวโน้มว่าจะสามารถเข้ามาทำตลาดแบบเต็มตัวได้ Ola Electric เป็นบริษัทผู้ผลิตรถจักนยานยนต์ไฟฟ้าเจ้าใหม่ที่เพิ่งก่อตั้งบริษัทในปี 2017 มีศูนย์ใหญ่อยู่ในเมืองบังกาลอร์ อินเดีย ถือเป็นค่ายรถไฟฟ้าอายุน้อยที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และกำลังขยายตลาดไปนอกประเทศอินเดีย รวมถึงยังเริ่มทำการควบรวมกิจการกับค่ายรถขนาดเล็กรายอื่น มีสินค้าหลักเป็นรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าอย่างรุ่น S1 ที่มีราคาจับต้องได้ Gogoro เป็นค่ายรถมาแรงอีกเจ้าของไต้หวัน เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ทำการจับมือกับค่ายรถรายอื่นและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับวงจรการผลิตรถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะดูเหมือนค่ายรถไฟฟ้าธรรมดา แต่ตัวรถมีจุดเด่นเรื่องการมีแบตเตอรี่แบบถอดสลับได้ และบริการจุดเปลี่ยนแบตเตอรี่รอบเกาะไต้หวัน ไม่ต้องห่วงเรื่องระยะทางและเวลาชาร์จไฟ Energica คราวนี้เป็นแบรนด์รถพรีเมี่ยมกันบ้าง ค่ายรถจักรยานยนต์สุดหรูจากรายนี้มีฐานตั้งอยู่ในเมือง Modena (ซึ่งเมืองเดียวกับรถยนต์หรูอย่าง Ferrari) แน่นอนว่าพอเป็นค่ายรถอิตาลี เป้าหมายในการสร้างรถจึงไม่ใช่เรื่องราคาที่จับต้องได้ แต่เป็นการจัดเต็มด้านสมรรถนะ ซึ่งมีข้อพิสูจน์เป็นการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า MotoE ที่มี Energica เป็นผู้สนับสนุนรถแข่งแต่เพียงผู้เดียว LiveWire จะบอกว่าเป็นค่ายรถใหม่ที่ไม่เคยขายในไทยก็พูดได้ไม่เต็มปาก เนื่องจากว่ามันถือเป็นบริษัทลูกของค่ายรถอเมริกันอย่าง…
2022 Honda CB400 Final Editions คู่แฝดรถสปอร์ตคลาสสิกจากค่ายปีกนก Honda ที่จับเอาสไตล์ของรถในยุค 1990 มารักษาไว้ให้คงอยู่ในยุคสมัยใหม่ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหลายสิบปี ตัวรถทั้งสปองรุ่นไม่ว่าจะเป็นแนวเน็คเก็ต Super Four หรือทัวริ่ง Super Bol d’Or นั้นมีการเปลี่ยนแปลงในทางรูปลักษณ์และเทคโนโลยีน้อยมาก จนในมุมนึงจะมองว่าลากขายก็ได้ แต่ไม่ว่าจะมองยังไง รถทั้งสองรุ่นก็ได้รับความนิยมอย่างสูง แต่เมื่อถึงจุดนึง รถที่มีเทคโนโลยีเก่าขนาดนี้ก็จะไม่ได้ไปต่อ 2022 Honda CB400 Final Editions นั้นจะเป็นโมเดลสุดท้ายของในซีรีย์ ประกอบด้วยรถมอเตอร์ไซค์ 2 รุ่น คือ Honda CB400 Super Four และ Honda CB400 Super Bol d’Or ซึ่งเป็นรถที่ทำตลาดอยู่แค่ภายในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ส่วนสาเหตุของการทำตลาดเป็นปีสุดท้ายนั้นก็เนื่องมาจากมาตรฐานไอเสียใหม่ของญี่ปุ่นที่เรียกว่า Reiwa 2 (มีค่าเทียบเท่า Euro…
2022 QJMotor SRK600 รถสไตล์สปอร์ตเปลือยรุ่นใหม่จากผู้ผลิตสัญชาติจีนที่ชื่อไม่คุ้นหูอย่าง QJMotor แต่ถ้าบอกว่าเป็นบริษัทแม่ของค่ายรถลูกครึ่งจีน-อิตาลีที่หลายคนรู้จักดีอย่าง Benelli ก็น่าจะอ๋อกัน ซึ่งตอนนี้ทางค่ายก็กำลังทำการรุกตลาดนอกประเทศจีนเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้จะทำตลาดรถนอกประเทศภายใต้ชื่ออิตาลีเป็นหลักมาโดยตลอด 2022 QJMotor SRK600 ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของญาติในเครือเดียวกันอย่าง Benelli TNT600 ซึ่งยังคงใช้เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ 4 สูบเรียง 16 วาล์ว 600 ซีซี ที่ให้พละกำลังสูงสุด 80.5 HP @ 11,000 rpm และแรงบิดสูงสุด 55.0 Nm @ 8,000 rpm มาพร้อม Assist Slipper Clutch ที่ถูกยัดอยู่ในเฟรมแบบเหล็กถักแบบเดียวกับที่อยู่ใน Benelli เหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน สเปครอบคันถือว่าจัดเต็มพอสมควรตามสไตล์ของค่าย ไม่ว่าจะเป็นระบบกันสะเทือนหน้าแบบ USD ขนาดแกน 43 มิลลิเมตร จาก Marzocchi…
หลายคนอาจจะรู้กันอยู่บ้างแล้วว่านักแข่ง MotoGP นั้นมีค่าตัวและรายได้ที่ค่อยข้างน้อยกว่านักกีฬาประเภทอื่นอยู่พอสมควร ถึงแม้ว่าจะเป็นนักแข่งตัวท็อประดับแชมป์โลกก็ยังมีค่าตัวน้อยอยู่ดีหากเทียบกับชื่อเสียงที่มี ไม่ต้องพูดถึงนักแข่งกลางปลายแถว ที่ถึงแม้จะยังนับว่าเป็นคนเก่งอันดับต้นของโลก แต่หากพูดถึงเรื่องรายได้ ก็เทียบชั้นกับนักกีฬาระดับโลกคนอื่นไม่ติด เรื่องนี้มันก็เกิดจากการที่ Romano Fenati นักแข่ง Moto2 จากทีม Speed Up ถอนตัวออกจากทีมอย่างกระทันหันเนื่องจากไม่ได้รับค่าตัวตามที่กำหนด “มันไม่ใช่แค่เรื่องเงิน รายละเอียดของสัญญามันมีหลายอย่าง” Alex Rins อธิบายหลังจากไปคุยเรื่องนี้กับ Fernati “มันมีบางคนที่เสนอเรื่องค่าแรงขั้นต่ำในการแข่ง ผมไม่รู้หรอกว่าใครได้เงินเท่าไร แต่มันดูเหมือนว่าเงินนั้นจะไม่เยอะนัก” เรื่องนี้ยังเคยถูกพูดถึงโดย Paco Sanchez ที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวของอดีตแชมป์โลก Joan Mir ซึ่งเป็นการคุยกันก่อนที่ทาง Suzuki จะประกาศถอนตัวออกจากการแข่งในปีหน้า “Suzuki เคยมาเสนอสัญญาที่ให้ค่าตัวน้อยกว่าตอนที่ Joan เป็นหน้าใหม่ใน MotoGP ด้วยซ้ำ” Sanchez กล่าว “เรื่องนี้มันเป็นตอนที่เราอยู่ Portimao แล้วใน Jerez เราก็ไปคุยกับทางญี่ปุ่นให้จ่ายอย่างน้อยเท่าเดิม(ถึงแม้จะมีตำแหน่งแชมปโลกก็ตาม) เราพอใจที่ตรงนั้น เราไม่ได้ขอเงินเพิ่มเพราะเข้าใจปัญหาจากเรื่องโควิด…
BMW Roctane ชื่อใหม่ของรถปริศนาจากค่ายฟ้าขาวแห่งบาวาเรีย BMW ถูกยื่นจดทะเบียนเป็นชื่อทางการค้าในประเทศเยอรมนี เพื่อใช้กับผลิตภัณฑ์ประเภทรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งในตอนนี้เราก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่ารถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่ว่าจะเป็นรถแบบไหน แต่เราก็คาดเดาว่ามันอาจจะเป็นรถรุ่นย่อยใหม่ของรถครุยเซอร์ตัวท็อบอย่าง R18 ที่ถูกนำมาทำให้มีความสปอร์ตมากขึ้น สาเหตุที่เราคาดเดาไปว่า Roctane นั้นจะเป็นรถสปอร์ตครุยเซอร์ก็เนื่องมาจากว่าตัวชื่อดังกล่าวนั้นถูกผสมขึ้นจาก 2 คำ นั่นคือ Rock และ Octane ซึ่งคำว่า Rock นั้นก็ดูจะตรงกับภาพลักษณ์ของรถครุยเซอร์รุ่นใหญ่อย่าง R18 ทีมีธีมของรถเป็นแนวเดียวกับเพลง Rock&Roll อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโหมดการขับขี่ที่มีทั้งโหมด Rock และ Roll ส่วนตำว่า Octane นั้นก็แน่นอนว่าเกี่ยวข้องกับค่าการจุดระเบิดในเชื้อเพลิง สื่อถึงแนวทางแบบสปอร์ต(มอเตอร์ไซค์ครุยเซอร์จากอเมริกาอย่าง Victory Octane ก็เป็นรถครุยเซอร์แนวสปอร์ตด้วยเช่นกัน) สิ่งที่รถรุ่นนี้ต่างจากรถ BMW รุ่นอื่นก็คือการที่มันไม่ได้ถูกตั้งชื่อตามธรรมเนียมของค่าย ที่จำใช้รหัสตัวอักษรแทนประเภทเครื่องยนต์ และสไตล์การใช้งาน จับคู่กับตัวเลขที่บ่งบอกถึงความจุเครื่องยนต์ ทำให้เราไม่สามารถระบุได้ว่ามันตัวรถจะมาในพิกัดใด เพราะก่อนหน้านี้ทางค่ายก็ได้จดทะเบียนชื่อ R12 สำหรับครุยเซอร์ตัวเล็กเอาไว้เรียบร้อย นั่นทำให้ Roctane อาจจะเป็นชื่อของรุ่นรถใหม่ไปเลย…
หลายคนคงจะรู้กันอยู่แล้วว่าการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์แบบหวาดเสียว ผาดโผนบนถนนเป็นเรื่องที่ทั้งอันตรายและผิดกฎหมาย มีโทษถูกปรับ แต่ล่าสุดประเทศออสเตรีย ทำการออกกฎหมายจราจรตัวใหม่ ระบุว่าการยกล้อจักรยานยนต์ หรือการขับขี่ผาดโผนบนท้องถนนสาธารณะว่าเป็นอาชญากรรม ต้องถูกยึดรถชั่วคราว และมีค่าปรับสูงสุดถึง 10,000 ยูโร หรือประมาณ 3.6 แสนบาท กฎหมายการจราจรมาตราใหม่ที่เพิ่งถูกบัญญัติใหม่ในประเทศออสเตรียฉบับนี้ เกิดจากความพยายามที่จะควบคุมการแข่งรถ หรือขับขี่มอเตอร์ไซค์ผาดโผนหวาดเสียวบนถนนสาธารณะ ซึ่งรายละเอียดของกฏหมายนั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่การยกล้อ แต่รวมถึงการกระทำอย่างอื่นที่อาจจะก่อให้เกิดความรำคาญหรืออันตรายบนถนน ทั้งกับตัวเองและผู้ร่วมทาง ไม่ว่าจะเป็น ยกล้อหน้า, ยกล้อหลัง, การเบิร์นล้อ, โดนัท, ทำเสียงท่อลั่น, จงใจล็อกล้อหลัง เป็นต้น โดยโทษของการกระทำความผิดนั้นมีตั้งแต่การยึดรถมอเตอร์ไซค์เป็นเวลา 3 วัน ไปจนถึงการจ่ายค่าปรับที่สามารถพุ่งไปได้สูงสุดถึง 360,000 บาทไทยเลยทีเดียว ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความผิดที่กระทำ ซึ่งการปรับจุกขนาดนี้ก็น่าจะทำให้สายแง้นขาวออกเตรียหลายคนระวังตัวมากขึ้น ส่วนในประเทศไทยนั้นมีการระบุความผิดฐานขับรถยกล้อ หรือขับขี่หวาดเสียวบนถนนสาธารณะ มีโทษระบุไว้ใน พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 ว่าผู้ที่ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือ ปรับตั้งแต่ 2,000-10,000…
มอเตอร์ไซค์ พาหนะเพื่อการเดินทางที่เป็นได้ทั้งของที่เน้นใช้งานในชีวิตประจำวัน และของเล่นเพื่อความสนุก มอเตอร์ไซค์มีหลายแบบหลากสไตล์ สำหรับความต้องการใช้งานที่แต่งต่างกันออกไป แน่นอนว่ารวมถึงประเภทที่แตกต่างกันออกไปของตัวผู้ขับขี่เองด้วย ซึ่งหลายคนคงรู้อยู่แล้วว่านักขับคนท้องถนนนั้นมีหลายแบบ ที่เลือกจะใช้รถมอเตอร์ไซค์ด้วยเหตุผลต่างกัน แต่รู้ไหมว่ามันมีคนที่ทำการศึกษา เพื่อจัดประเภทของเหล่าผู้ใช้มอเตอร์ไซค์บนถนนด้วย โดยการศึกษาดังกล่าวจัดขึ้นโดยสถาบัน Vias จากประเทศเบลเยี่ยม ทำการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ที่มีอายุมากกว่า 16 ปี จำนวน 2,963 คน ว่าพวกเขาหันมาใช้มอเตอร์ไซค์ด้วยเหตุผลอะไรบ้าง ซึ่งได้ผลสรุปว่าผู้ใช้มอเตอร์ไซค์สามารถถูกจัดประเภทได้อยู่ประมาณ 8 กลุ่ม แต่อย่าลืมว่านี่เป็นการศึกษาที่เกิดขึ้นในประเทศแถบยุโรป ซึ่งมีความต้องการในชีวิตประจำวันที่แตกต่างไปจากเรา ฉนั้นอย่าแปลกใจถ้าคิดว่าข้อมูลตรงนี้ดูไม่เหมือนกับของคนไทย 1. ผู้ที่ใช้มอเตอร์ไซค์เพื่อรักษาเวลา ใช้เพื่อลดเวลาเดินทางในกรณีที่อากาศเป็นใจ มีสัดส่วน 11.6% 2. ผู้ใช้พาหนะแบบผสม เป็นคนที่มีพาหนะอย่างอื่นหรือทางเลือกอื่นให้ใช้ มีสัดส่วน 11% 3. ผู้ใช้มอเตอร์ไซค์เพราะไม่มีทางเลือก เป็นคนที่จะใช้มอเตอร์ไซค์เสมอไม่ว่าสภาพการเป็นอย่างไร มีสัดส่วน 9.5% 4. ผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ตามความเหมาะสม จะเลือกขี่รถเฉพาะตอนที่เหมาะสมจริง ๆ มีสัดส่วน 18.2% 5. ผู้ใช้ตามอารมณ์ คนกลุ่มนี้ไม่ได้มองเรื่องความเหมาะสนในการใช้…