รีวิว Benelli TRK502X 2021 แอดเวนเจอร์ไบค์ไซค์กลางที่ได้รับความนิยมสูงมากในทวีปยุโรป
ซึ่งล่าสุดกับตัวรถเวอร์ชันที่ถูกนำมาวางจำหน่ายในประเทศไทย ก็ได้รับการปรับโฉมใหม่ในฐานะรถมอเตอร์ไซค์โมเดลปี 2021 เป็นที่เรียบร้อย และจากการทดสอบแบบใช้งานจริงของมันจะเป็นอย่างไรบ้าง จะมีอะไรน่าสนใจอย่างอื่นๆอีกนอกจากแค่เพียงชุดสีใหม่ เรามาว่ากันเลยใน รีวิว 2021 Benelli TRK502X ครั้งนี้กันครับ
ก่อนอื่นหากมองโดยผิวเผิน 2021 TRK502X ก็จะยังคงมาพร้อมกับหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์คล้ายเดิม ด้วยเส้นสายและขนาดตัวสุดบึกบึนทั้งจงอยปากบังโคลนด้านหน้า และแฟริ่งข้างพร้อมลายกราฟฟิกใหม่ดูทันสมัยยิ่งขึ้น แถมยังติดตั้งแครชบาร์มาให้เสร็จสรรพราวกับเป็นแอดเวนเจอร์ทัวร์ริ่งไบค์ระดับ 1,000cc ขึ้นไป
ชุดไฟหน้าโคมคู่ขนาดใหญ่ หลอดหลักแบบฮาโลเจน แยกฝั่งไฟสูง/ไฟต่ำ และแถบไฟ LED ใต้ไฟหน้าอีกที รวมถึงไฟเลี้ยวก็ยังเป็นแบบหลอด LED สว่างชัดเจน แม้แต่ไฟท้ายเองก็ยังเป็นแบบหลอด LED ขนาดใหญ่เช่นกัน
ชุดวินชิลด์หน้าขนาดใหญ่ มีการเสริมชิลด์กันลมด้านข้างมาให้เพื่อป้องกันลมปะทะด้านข้างตัวผู้ขี่ที่ดียิ่งขึ้น และจากจุดเดียวกันนี้เมื่อมองทะลุเข้าไปด้านหลังก็จะเห็นบาร์สำหรับติดตั้งฐานยึด GPS หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ขาดไม่ได้สำหรับแอดเวนเจอร์-ทัวร์ริ่งไบค์
ขยับมาอีกนิดจะพบกับการ์ดแฮนด์โครงอลูมิเนียมแบบใหม่ ดูหรูหราและแข็งแรง จากเดิมในโฉมก่อนที่จะเป็นชิ้นงานพลาสติกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
กระจกมองข้างเปลี่ยนทรงใหม่ให้ดูปราดเปรียวยิ่งขึ้น และกรอบกระจกข้างก็มีการพิมพ์ลายเคฟล่า ช่วยเพิ่มลุคโฉบเฉี่ยวให้กับตัวรถ
ปลอกแฮนด์เปลี่ยนลายใหม่ให้เห็นเป็นตัวอักษร TRK ซึ่งไม่ใช่แค่สวยแต่ยังช่วยให้ผู้ขี่สามารถจับได้กระชับติดมือยิ่งขึ้น
ก้านเบรก/ก้านคลัทช์สามารถปรับความห่างได้ 4 ระดับด้วยการหมุนเหรียญปรับ
ประกับแฮนด์ซ้าย-ขวาแบบใหม่ มาพร้อมกับปุ่มที่ดูดีขึ้นมาก แถมยังมีการเพิ่มเส้นไฟตามรอบปุ่มกดแบบเรืองแสงเข้ามาอีก ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความสวยงาม ยังช่วยให้ผู้ขี่สามารถหาตำแหน่งปุ่มต่างๆเช่น ออฟรัน, สตาร์ทเครื่องยนต์, ไฟฉุกเฉิน ทางประกับขวา และแตร กับไฟสูง/ต่ำ ไฟเลี้ยว ในยามกลางคืนได้ง่ายขึ้นอีกมากด้วย เว้นเพียงปุ่มกระพริบไฟทางด้านหน้า ที่ไม่จำเป็นต้องมองเห็นอยู่แล้ว
ชุดแฮนด์บาร์ทรงเดิม แต่เปลี่ยนสีจากสีเงิน ให้เป็นสีดำด้านช่วยให้รถดูแพงขึ้นเช่นกัน และที่สำคัญยังมีการสกรีนสเกลเผื่อสำหรับผู้ขี่ที่ต้องการปรับตำแหน่งแฮนด์บาร์ด้วย
ชุดหน้าจอมาตรวัด ยังคงเป็นแบบอนาล็อก เข็มกวาดรอบ ทำงานร่วมกับหน้าจอดิจิตอลแสดงผลค่าพื้นฐานต่างๆเช่นเดิม ทั้งในส่วนของความเร็ว, ตำแหน่งเกียร์, เวลา, ความร้อน, ระดับน้ำมัน, ระยะทางรวม, และระยะทางทริป แต่จะมีจุดแตกต่างอีกเล็กน้อยคือพื้นหลังของวัดรอบจะเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีขาว ที่ทำให้เราสามารถเห็นรอบเครื่องยนต์ได้ชัดเจนขึ้น และยังดูสวยงามโดดเด่นขึ้นด้วย
ถังน้ำมันที่ให้มามีความจุสะใจอยู่ที่ 20 ลิตร แต่มีชุดครอบถังพลาสติกเพิ่มขึ้นมาอีกชั้นเพื่อความสวยงาม
มีพอร์ทชาร์จไฟแบบ USB 5V 2ah ด้านซ้ายของถังน้ำมัน
ชุดเฟรมยังคงเป็นแบบโครงเหล็กถัก แต่ทำสีใหม่จากสีดำเงา เป็นสีดำพาวเดอร์โค้ทช่วยทำให้รถดูแพงขึ้นอีกเช่นกัน และจากจุดนี้เพื่อนๆก็จะพบกับสติ๊กเกอร์ระบุว่าเราสามารถใช้บริการโทรเรียกรถเซอร์วิสต์ได้ 24 ชั่วโมง ฟรีในปีแรก ซึ่งไม่ค่อยมีให้เห็นเท่าไหร่นักในรถมอเตอร์ไซค์พิกัดราวๆนี้ หรือราคานี้มาก่อน
หม้อน้ำมีการ์ดพลาสติกครอบทับ สวยงามและใช้งานได้จริง
แครชบาร์ติดตั้งมาให้เป็นออพชันพื้นฐานติดรถตั้งแต่ออกโรงงาน
แครงก์เครื่องยนต์ด้านขวามีการใส่ฝาครอบพลาสติกเป็นการ์ดแครงก์มาให้
ใต้ท้องรถมีการติดตั้งการ์ดแครงก์อลูมิเนียมขนาดใหญ่และหนาพอตัว
พักเท้าผู้ขี่พับได้ และสามารถถอดยางรองออกแล้วเปิดให้เหลือแต่ชั้นหนามเพื่อการยึดเกาะกับรองเท้าพื้นแข็งที่ดีขึ้นได้ ซึ่งจำเป็นมากสำหรับการใช้งานในยามที่ต้องขี่แบบบุกตะลุยในทางกรวดหรือดิน
ฐานพักเท้าผู้ซ้อนฝั่งขวาเองก็ยังมีการตีแผ่นแผ่ออกมาเพื่อป้องกันเท้าโดนท่อไอเสีย
เบาะนั่งผู้ขี่กับผู้ซ้อนแบบ 2 ตอน ขนาดใหญ่ทรงคล้ายเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคือในตัวรถ TRK502X รุ่นล่าสุดปี 2021 นี้จะมาพร้อมกับเบาะออพชัน Low Seat ตั้งแต่ออกโรงงาน ช่วยปรับระดับความสูงเบาะจาก 840 มิลลิเมตร เป็น 820 มิลลิเมตร เหมาะกับผู้ขี่ไซส์เอเชียอย่างคนไทยมากขึ้น และชุดแร็คหลังเองก็เปลี่ยนจากโครงเหล็กที่อาจดูธรรมดาเกินไป ให้เป็นแบบอลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปที่ดูสวยงามกว่าแทน
ท่อไอเสียแบบยกสูงดีไซน์สวยงาม
ชุดล้อก็เป็นแบบซี่ลวดที่ยังต้องใช้ยางใน ขอบล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว ขอบหลัง 17 นิ้ว ซึ่งเป็นไซส์กำลังดีสำหรับการใช้งานแบบลูกผสมทางดำทางฝุ่น และรัดด้วยยางกึ่งหนามอย่างดีจากแบรนด์ Metzeler ไซส์ 110/80-R19 กับ 150/7-R17 ตามลำดับหน้าหลัง
ท่านั่ง แม้เบาะจะเป็นแบบ Low Seat ที่ลดความสูงเหลือ 820 มิลลิเมตร แต่ด้วยตัวเบาะช่วงหว่างขาที่กว้างพอสมควรทำให้สำหรับผู้ขี่ที่สูงไม่เกิน 170 เซนติเมตรก็ยังต้องเขย่งเท้าอยู่ดีหากจะใช้ปลายเท้าแตะพื้นทั้งสองข้าง เพราะต้องถ่างขาพอสมควรตอนขึ้นคร่อม แต่ถ้าหากใช้วิธีเอียงก้นช่วยก็จะสามารถใช้ขาเหยียบเต็มฝ่าเท้าแบบตึงๆน่องง่ายขึ้นกว่า TRK502X รุ่นปี 2020 ลงไปอย่างเห็นได้ชัด ส่วนขนาดเบาะก็ถือว่ากว้างเต็มก้นแม้ผู้ทดสอบจะตัวหนามากๆ และโฟมที่บุมาด้านในก็หนานุ่มกำลังดี ชนิดที่ว่าลองขี่ใกลๆหลัก 100 กิโลเมตรบวกๆไม่พบอาการเมื่อยก้นเลยแม้แต่น้อย
ขณะที่ตำแหน่งการวางเท้าก็พบว่าถูกออกแบบมาให้วางขาได้สบายๆสไตล์แอดเวนเจอร์ไบค์เช่นกัน ติดแค่เพียงนิดเดียวคือพอเบาะเตี้ยลง ทำให้สำหรับผู้ทดสอบที่สูงไม่ถึง 170 เซนติเมตร กลับรู้สึกว่าความสูงของแฮนด์บาร์เดิมๆที่ให้มา ค่อนข้างจะสูงไปนิดเมื่อใช้ท่านั่งขี่ เพราะจะเห็นได้ชัดเจนว่าแนวแขนนั้นจะอยู่เหนือระดับศอกขึ้นไปอีกจนแทบจะถึงระดับไหล่อยู่แล้ว
แต่ในทางกลับกันถ้าหากใช้ท่าขี่แบบยืน มันก็จะทำให้เราสามารถยืนขี่ได้อย่างคล่องตัวมากกว่าแทน เพราะแทบไม่ต้องโน้มตัวให้เมื่อยหลังแต่อย่างใด หรือถ้าใครไม่พอใจ ก็สามารถปรับในภายหลังให้แฮนด์เข้ามาหาตัวเพื่อกดมุมให้ต่ำลงอีกนิดได้ตามที่เราได้เคยบอกไว้ก่อนหน้านี้
นอกนั้นในเรื่องความกว้างของแฮนด์บาร์ไม่ติดใจอะไร จัดว่ากว้างกำลังดี นั่งขี่ไกลๆก็สบาย ใช้ออกแอคชันตอนลุยทางดินก็ได้ เป็นปกติของรถมอเตอร์ไซค์แนวนี้อยู่แล้ว หรือถ้าจะมุดเพื่อนๆก็แทบไม่ต้องพะวงเรื่องความกว้างของมัน เนื่องจากแฮนด์บาร์สูงกว่ากระจกมองข้างรถกระบะตัวเตี้ยขึ้นไปอีก และจากการใช้งานในเมืองจริงๆ สิ่งที่เราต้องกังวลตอนมุดคือความกว้างของแครชบาร์ด้านล่างมากกว่า
ท่านั่งผู้ซ้อนจัดว่าสะดวกสบายหายห่วง เบาะนั่งขนาดใหญ่และหนาเต็มบั้นท้าย และแร็คอลูมิเนียมที่ให้มาก็สามารถใช้จับยึดได้อย่างมั่นใจ
เครื่องยนต์ที่ให้มาเป็นบล็อค 2 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ DOHC ความจุ 499.6cc กำลังสูงสุด 35 กิโลวัตต์ หรือ 48 แรงม้า PS ที่ 8,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดอีก 46 นิวตันเมตร ที่ 6,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 6 สปีด มีการรับประกัน 3 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง และด้วยการจัดองศาจุดระเบิดแบบ 360 องศาอันเป็นเอกลักษณ์ของ Benelli ที่ไม่เหมือนเครื่องยนต์ 2 สูบเรียงของค่ายอื่นๆ ทำให้คาแรคเตอร์การไต่รอบของมันมีความนุ่มนวลเป็นอย่างมาก ไม่กระโชกโฮกฮากแม้แต่น้อย ย่านกำลังค่อนข้างคงที่ตั้งแต่รอบต้นจนถึงรอบปลายราวๆ 9,500 รอบ/นาที
แน่นอน ด้วยคาแรคเตอร์เครื่องยนต์แบบนี้ มันก็อาจจะไม่ถูกใจเพื่อนๆสายบู๊ไปบ้าง แต่เห็นแบบนี้ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีแรง เพราะถ้าหากต้องขึ้นเนินชันๆจริงๆเพียงแค่เปิดคันเร่งนิดเดียว ตัวรถก็พร้อมจะไต่ขึ้นอุปสรรคได้สบายๆแล้ว ดังนั้นถ้าต้องมีผู้ซ้อน หรือสัมภาระหนักๆขึ้นมา ยังไงก็หายห่วง เรียกว่านุ่มนวลแต่หนักแน่นจริงๆ นักขี่สายชิลด์บอกเลยว่าถูกใจ
ด้านความเร็วสูงสุดจะอยู่ที่ราวๆ 160 ปลายๆ กิโลเมตร/ชั่วโมง ตามเรือนไมล์ ซึ่งก็ถือว่าเกินพอแล้วสำหรับการขี่ท่องเที่ยวแบบกินลมชมวิว และอัตราสิ้นเปลืองของ TRK502X ที่ Benelli เคลมไว้ ก็อยู่ที่ 25.6 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งจากการใช้งานจริงก็แบบขี่ชิลๆก็พบว่าค่าที่ได้ไม่หนีไม่จากที่ Benelli เคลมไว้เท่าไหร่นัก ดังนั้นจึงถือว่าน่าพอใจอย่างมากกับแอดเวนเจอร์ไบค์ที่หนักทะลุ 200 กิโลกรัม และใช้เครื่องยนต์เต็มพิกัด 500cc เช่นนี้
ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าก็จะเป็นแบบโช้กอัพตะเกียบคู่หัวกลับ ที่แม้จะไม่สามารถปรับเซ็ทอะไรได้ แต่ก็ให้ขนาดแกนใหญ่สะใจถึง 50 มิลลิเมตร ด้านหลังเป็นโช้กแก๊สเดี่ยวมีซับแทงค์แยก สามารถปรับเซ็ทได้ทุกค่าทั้งพรีโหลด คอมเพรสชัน หรือรีบาวน์ ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มแขนคู่แบบท่อเหล็กกลม ซึ่งการเซ็ทติ้งเดิมๆสำหรับผู้ขี่คนเดียวที่หนักถึง 90 กิโลกรัมอย่างผู้ทดสอบนั้น พบว่าถ้าหากขี่บนทางตรง ตัวโช้กสามารถซับแรงจากการขี่ผ่านถนนช่วงมีแผ่นปะผิว ฝาท่อบนทางเรียบ ได้ค่อนข้างดี
แม้แต่ตอนที่ลองรูดร่องดินบนทางลูกรังตามสไตล์การขี่แบบแอดเวนเจอร์ไบค์ก็ยังหายห่วง ทั้งในเรื่องของการยืด และการยุบตัวของโช้กที่หนืดกำลังดี ไปจนถึงช่วงยุบที่ค่อนข้างกว้าง โดดเนินเบาๆได้แบบไม่มียัน และความสูงใต้ท้องรถ 220 มิลลิเมตร ที่จัดว่าหายห่วงสามารถปีนป่ายอุปสรรคต่างๆได้สบายๆ
แต่ทั้งนี้ ด้วยการเซ็ทติ้งช่วงล่างให้นุ่มซับแรงดี ยุบช้า ยืดช้า ประกอบกับน้ำหนักตัวรถที่มากถึง 213 กิโลกรัม ไม่รวมของเหลว และอาจแตะหลัก 240 กิโลกรัม เมื่อร่วมของเหลวอื่นๆกับน้ำมันเต็มถัง ทำให้ถ้าหากต้องพลิกเลี้ยวรถเร็วๆขึ้นมา มันก็จะขาดความคล่องตัวไปมากพอสมควร เนื่องจากจุดศูนย์ถ่วงของรถค่อนข้างสูง และถ้าหากอยากจะสาดโค้งแรงๆขึ้นมา เราก็จะพบกับอาการท้ายย้วย หรือโยกขึ้นลงช้าๆบ้าง ซึ่งอันที่จริงมันก็เป้นเรื่องปกติของรถมอเตอร์ไซค์แนวแอดเวนเจอร์ไบค์เดิมๆที่เซ็ทช่วงล่างมาแบบเผื่อลุยอยู่แล้ว โดยเพื่อนๆก็สามารถปรับเซ็ทแก้อาการเหล่านี้ได้บ้างถ้าต้องการ เพราะอย่างที่เราบอกไปว่าโช้กหลังของมันนั้นสามารถปรับเซ็ทได้ทุกค่านั่นเอง
ระบบเบรกที่ให้มา ด้านหน้าเป็นแบบดิสก์คู่ ขนาด 320 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับโฟลทติ้งเมาท์คาลิปเปอร์ 2 ลูกสูบ / ด้านหลังดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 260 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับโฟลทติติ้งเมาท์คาลิปเปอร์ 1 ลูกสูบ และมีระบบ ABS มาให้ครบๆ
โดยความรู้สึกเกี่ยวกับระบบเรกของ TRK502X เรียนตามตรงว่าน้ำหนักที่ต้องใช้กดก้านเบรกหน้านั้นค่อนข้างจะตึงมือไปนิด แต่ในภาพรวมก็ยังสามารถไล่แรงในการเบรกได้ และก็มีประสิทธิภาพที่ยังจัดว่าที่สามารถไว้ใจได้อยู่ เช่นเดียวกับเบรกหลังที่อาจจะไม่จับอย่างรุนแรง แต่ก็ถือว่าเหมาะแล้วกับรถแอดเวนเจอร์ไบค์ที่ไม่ได้ต้องการให้เบรกมีความไวขนาดนั้น ระบบ ABS เองก็ทำงานไม่ได้ไวเกินไปจนน่ารำคาญ อาจจะมีแรงดีดกลับมาที่ก้านเบรกบ้างแต่ก็อยู่ในระดับที่รับได้
สรุป รีวิว Benelli TRK502X รุ่นปี 2021 ถือเป็นแอดเวนเจอร์ทัวร์ริ่งไบค์ ที่โดดเด่นอย่างมากในเรื่องของหน้าตาที่ดูบึกบึนกว่าใครในคลาสไล่เลี่ยกัน นอกจากนี้คาแรคเตอร์การใช้งานทั้งระบบกันสะเทือน และเครื่องยนต์เองก็จัดว่าเหมาะอย่างยิ่งกับผู้ใช้สายชิลด์ขี่กินลมชมวิว และแม้ราคาของรถอาจจะสูงกว่าคู่แข่งพิกัดเดียวกันไปบ้าง แต่ออพชันเสริมต่างๆที่ปรับใหม่โดยเฉพาะเบาะเตี้ย ต่างให้มาตามใจลูกค้าชาวไทยทั้งสิ้น แถมยังมีการรับประกันเครื่องยนต์ 3 ปีไม่จำกัดระยะทาง กับบริการเรียกเซอร์วิสต์ด่วน 24 ชั่วโมงในปีแรกอีกจึงหายห่วงใด้เลยสำหรับลูกค้าที่สนใจ
โดย Benelli TRK502X รุ่นปี 2021 จะมีทั้งหมด 4 เฉดสีให้ลูกค้าได้เลือกซื้อด้วยกัน ได้แก่ สีเทา, สีขาว, สีน้ำเงิน และสีพิเศษเฉดสุดท้าย นั่นคือสีเหลือง พร้อมสนนราคาอยู่ที่ 254,500 บาท หรือถ้าหากเพื่อนๆอยากได้ชุดปี๊บ 3 ใบครบๆ ราคารถก็จะขยับขึ้นเป็น 278,500 บาท สามารถยื่นไฟแนนซ์ได้เลยไม่ต้องซื้อแยก ซึ่งถ้าหากเพื่อนๆคนไหนสนใจ ก็สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://web.facebook.com/BenelliTH/ ได้เลยครับ
ขอบคุณ Benelli Thailand
รณกฤต ลิมปิชาติ Test Rider + Writer + Photo
อ่านข่าวสาร Benelli เพิ่มเติมที่ได้ที่นี่
อ่านรีวิวอื่นๆเพิ่มเติมที่ได้ที่นี่
