CBR1000RR-R ราคา เริ่มต้นแตะล้าน มี 2 รุ่น ตัวล่างชน Panigale V4

CBR1000RR-R ราคา เริ่ม 9.99 แสน โดยมาทั้งรุ่น STD และ SP เรียกได้ว่าจัดเต็มจัดหนัก เมื่อ A.P.Honda และ Honda BigBike เปิดตัวรถตระกูล CBR ก่อนเข้า TIME2020 มากถึง 3 รุ่น ด้วยกัน

CBR1000RR-R ราคา 9.99 แสน ที่ถูกประกาศออกมาในวันนี้นั้น แสน และ CBR1000RR-R SP ราคา 1.119 ล้าน

โดยสำหรับจุดเด่นที่เป็นไฮไลท์สำคัญที่สุดของมันก็คือเครื่องยนต์เป็นบล็อค 4 สูบเรียงลูกใหม่หมดจด ที่มีความแตกต่างคือมันถูกปรับเปลี่ยนในเรื่องของขนาดลูกสูบเป็น 81 มิลลิเมตร และช่วงชักใหม่ 48.5 มิลลิเมตร เทียบเท่าตัวแข่ง MotoGP ส่งผลให้เครื่องยนต์สามารถปั่นรอบได้อย่างจัดจ้านยิ่งขึ้น

และส่วนหนึ่งก็มาจากการเปลี่ยนชุดก้านสูบไทเทเนียมใหม่ที่เบากว่าเดิม, จัดการลดแรงเสียดทานชิ้นส่วนต่างๆให้มากที่สุดเท่าที่ได้ (ค่าแรงเสียดทานลดลงไม่ต่ำกว่า 50% เมื่อเทียบกับเครื่องบล็อคเดิม), จัดตำแหน่งชิ้นส่วนต่างๆในฝาสูบใหม่, รวมถึงการออกแบบปากท่อแรมแอร์ใหม่ให้มาเปิดเป็นรูขนาดใหญ่ตรงกลางไฟหน้าเสียทีเพื่อดูดอากาศเข้าหม้อกรองให้ได้มากที่สุด, และที่สำคัญคือท่อไอเสียเป็นแบบไทเทเนียมยกเส้นที่ออกแบบโดย Akrapovic ตั้งแต่ออกโรงงาน ทว่าน่าเสียดายที่มันยังไม่มีการติดตั้งระบบวาล์วแปรผันหรือ V-TEC มาให้แต่อย่างใด

ซึ่ง CBR1000RR-R STD จะสังเกตุได้หลักๆ จากแกนโช้กหน้าสีดำ จาก Showa ปรับด้วยมือ
และปั๊มเบรกหน้าจาก Nissin

มีสีให้เลือกสีเดียวในรุ่น STD คือ ดำ

ขณะที่รุ่นสเปคสูงอย่าง CBR1000RR-R SP ก็จะมาพร้อมกับโช้กหัวกลับขนาดแกน 43 มิลลิเมตร และโช้กหลังเดี่ยวแบบมีซับแทงค์แก๊สแยกจาก Ohlins ซึ่งแน่นอนว่ามันจะต้องมาพร้อมกับระบบปรับไฟฟ้าเหมือนอย่างที่เคยเป็นในโฉมก่อนหน้า

ส่วนระบบเบรกก็จะอัพเกรดเป็น Brembo Stylema โดยทั้งหมดนี้ทำงานร่วมกับจานเบรกคู่ขนาด 330 มิลลิเมตร และด้านหลังจะเหมือนกันทั้งสองรุ่น คือเป็นปั๊มเบรก 2 พอร์ทจาก Brembo ทำงานร่วมกับจานเบรกขนาด 220 มิลลิเมตร

นอกจากนี้ All-New Honda CBR1000RR-R ยังมีจุดเด่นอื่นๆที่น่าสนใจอีกมาก ทั้ง หน้าตาที่เปลี่ยนไปหมดจด, ชุดวิงเล็ทแบบตัวแข่ง RC213V, ชุดเฟรมใหม่หมดจด (ใหม่จริงๆ ไม่ใช่ของที่ดัดแปลงต่อยอดมาจากโฉมเก่า), และระบบอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆอย่างเช่นระบบเซนเซอร์ IMU 6 แกน ที่สามารถจับอาการรถได้อย่างแม่นยำมากขึ้น หรือแม้กระทั่งระบบ Launch Control ที่มีให้เฉพาะในรุ่น SP