หลังจากที่มีการ ราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศ พ.ร.บ.จราจรทางบก ฉบับใหม่ ซึ่งมีใจความว่า ในมาตรา 31/1 ว่า “ในขณะขับรถในทางเดินรถ ผู้ขับขี่ต้องมีใบอนุญาตขับขี่อยู่กับตัวและต้องแสดงต่อเจ้าพนักงานจราจรเมื่อขอตรวจ ในกรณีที่ผู้ขับขี่แสดงใบอนุญาตขับขี่ด้วยวิธีการทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือสำเนาภาพถ่ายใบอนุญาตขับขี่ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด ให้ถือว่าผู้ขับขี่มีใบอนุญาตขับขี่อยู่กับตัวแล้ว”
ล่าสุดทางตำรวจออกมายืนยันว่า “สำเนาใบขับขี่ หรือ ภาพใบขับขี่ในโทรศัพท์มือถือ ไม่สามารถใช้แสดงต่อเจ้าพนักงานจราจรได้!”
ซึ่งหากตำรวจจราจรเรียกตรวจ วิธีที่สามารถแสดงใบขับขี่ได้ มี 3 ทาง คือ
1. ใบขับขี่ตัวจริง
2. แสดงด้วยวิธีอิเล็กทรอนิก หรือใบขับขี่ดิจิตอล โดยใช้แอปพลิเคชันของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งก่อนหน้านี้กฎหมายยังไม่อนุญาต แต่เมื่อกฎหมายใหม่ประกาศใช้แล้ว
3. สำเนาภาพถ่ายใบอนุญาตขับขี่ ตามที่กรมการขนส่งทางบก กำหนด เท่านั้น
นอกจากนี้ กฎหมายฉบับใหม่ เผยไม่จำเป็นต้องยึดใบขับขี่ ใช้วิธีตัดแต้ม พร้อมบันทึกความผิดลงในฐานระบบ ให้เมื่อผู้ขับขี่มาชำระค่าปรับ
ซึ่ง เมื่อมาชำนะ จำทราบว่าคะแนนถูกตัดไปกี่แต้ม หากโดนตัดครบ 12 คะแนน จะมีการส่งจดหมายไปยังที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ 90 วัน
หลังจากนั้นต้องไป อบรมสอบใหม่ พร้อมเสียค่าใช้จ่าย และเมื่อสอบผ่าน จะได้แต้ม 12 แต้ม กลับคืน
นอกจากนี้ภายใน 3 ปี หากผู้ขับขี่ถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เกินกว่า 2 ครั้ง ในครั้งที่ 3 จะถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นเวลา 1 ปี
หากใน 1 ปี นี้ กระทำผิดอีกเป็นครั้งที่ 4 จะถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ในทันที
ในส่วนของฐานความผิด ถูกแบ่งเป็น 3 ระดับ
1. ผิดเล็กน้อย เช่น ไม่สวมหมวกกันน็อก, ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย, ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ และขับรถเร็ว ตัด 1 แต้ม
2. ผิดปานกลาง เช่น ผ่าไฟแดง, ขับรถย้อนศร ตัดคะแนน 2 แต้ม
3. ผิดรุนแรง เช่น เมาแล้วขับ, เสพยาเสพติด และชนแล้วหนี ถูกตัด 3 แต้ม
ที่มา ไทยรัฐ
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ