Euro5+ โหดขนาดไหน ทำไมมันถึงฆ่า YZF-R1 และรถรุ่นอื่นให้ตายได้?

0

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราคงได้เห็นข่าวการยกเลิกการจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์หลายรุ่นในตลาดโลก เนื่องจากมาตรฐานไอเสียที่เข้มงวดขึ้น จนมาถึงข่าวการจากไปของรถสปอร์ตเครื่องยนต์ CP4 อย่าง Yamaha YZF-R1 ที่ถูกประกาศว่าจะไม่ได้ไปต่อหลังมาตรฐานไอเสียใหม่ล่าสุด Euro5+ ถูกบังคับใช้เต็มรูปแบบในสิ้นปีนี้ วันนี้เราเลยจะพามาดูกันว่า Euro5+ คืออะไร ต่างกับ Euro5 แบบปรกติตรงไหน และจะส่งผลกระทบอย่างไรกับผู้ใช้รถทั่วไป

Yamaha YZF-R1มาตรฐานไอเสีย Euro คือมาตราฐานไอเสียสำหรับยานพาหนะที่ถูกกำหนดขึ้นโดยสหภาพยุโรป มาตรฐานตัวแรกคือ Euro1 ที่ถูกบังคับใช้ในปี 1999 ก่อนที่จะเข้มงวดขึ้นในทุกด้านตลอดเวลาที่ผ่านมา จนถึงมาตรฐานล่าสุดแบบ Euro5 ที่กำลังจะเปลี่ยนเป็น Euro5+ ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่จะมีการเพิ่มเครื่องหมาย + เข้าไปด้านหลังชื่อมาตรฐานดังกล่าว

ถ้าถามว่ามาตรฐานใหม่แบบ Euro5+ เข้มงวดด้านปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากกว่า Euro5 แบบปกติไหม? คำตอบคือ ไม่ แต่สิ่งที่แตกต่างไปคือความเข้มงวดในการวัดค่ามลพิษ และการเพิ่มเทคโนโลยีที่จะทำให้มั่นใจว่ารถที่ใช้งานไปแล้วนานหลายปี จะยังสามารถควบคุมการปล่อยมลพิษของตัวเองได้ดีเหมือนรถใหม่เสมอ

Yamaha YZF-R6

สิ่งแรกที่มีการปรับปรุงคือความเข้มงวดในการทดสอบการปล่อยไอเสีย และความสามารถในการดูดซับไอเสียระยะยาวของ Catalytic Converters หรือ ท่อแคท จากเดิมที่ค่ายรถต้องทดสอบค่าไอเสียโดยใช้รถใหม่เพียงอย่างเดียว คราวนี้ต้องเพิ่มการทดสอบรถที่มีอายุการใช้งานเกิน 35,000 กิโลเมตร เข้าไปด้วยเพื่อให้มั่นใจว่า Catalytic Converters จะยังทำงานได้ดีตลอดอายุการใช้งานของรถ ซึ่งเรื่องนี้ก็สร้างภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้ผลิตที่มีรถหลายรุ่นเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้คือข้อบังคับในการติดตั้งระบบตรวจวัดค่าไอเสียบนรถที่ต้องซับซ้อนมากขึ้น เช่นการบังคับติดตั้งเซนเซอร์ออกซิเจนในตำแหน่งก่อนและหลังท่อ Catalytic Converters เพื่อให้ ECU ตรวจสอบได้ตลอดเวลาว่าระบบกรองไอเสียยังทำงานได้ดีเป็นปรกติหรือไม่ และถ้าพบว่า Catalytic Converters มีประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลงเกิน 20% ระบบก็จะทำการแจ้งไฟเตือนความผิดปกติ และตัดกำลังเครื่องยนต์ลง เพื่อกดดันให้ผู้ใช้เอารถไปเข้าศูนย์เพื่อแก้ไข

Honda CBR600RR

ซึ่งทุกเรื่องที่เราว่ามา จะเห็นได้ว่ามันขัดแย้งกับรถมอเตอร์ไซค์แบบสปอร์ตเป็นอย่างยิ่ง เพราะเดิมทีรถเหล่านี้ก็ปล่อยไอเสียมากอยู่แล้ว การจะปรับปรุงให้ผ่านมาตรฐานปรกติก็ใช้ต้นทุนสูงมากแต่ไหนแต่ไร การเพิ่มข้อบังคับในการทดสอบที่เข้มงวดขึ้นก็ต้องใช้เงินทุนมากขึ้น กับรถที่มียอดขายไม่เยอะ จึงไม่น่าแปลกใจหากค่ายรถหลายรายจะถอนตัวออกจากตลาดคลาสนี้ แต่ถึงอย่างนั้นค่ายรถก็ยังสามารถขายรถสำหรับสนามแข่งโดยเฉพาะได้อยู่ แต่ข้อดีคือเราจะได้ใช้รถที่มีไอเสียที่สะอาดตลอดอายุการใช้งาน ไม่มีกลิ่นเหม็นของไอเสียแม้เครื่องจะเก่า

อ่าน Tips Trick เพิ่มเติมที่นี่

Share.

About Author

error: Content is protected !!