Tips Trick : รวม 5 สาเหตุพื้นฐานที่ทำให้การควบคุมตัวรถไม่เป็นไปตามที่เคยเป็น และวิธีแก้ปัญหา

0

ถือเป็นเรื่องธรรมชาติที่เราต้องทำใจให้ได้กันอยู่แล้ว สำหรับเรื่องจริงที่ว่าไม่วันใดก็วันหนึ่งรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจของเราก็ต้องเสื่อมสภาพไปตามกาล ไม่ว่าจะด้วยอายุการใช้งาน หรือเกิดจากการไม่ค่อยดูแลรักษาของตัวเราเอง โดยในวันนี้เราก็จะมาพูดถึง 5 ปัญหาอันดับต้นๆที่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็มักจะทำให้ตัวรถเกิดอาการแปลกๆเกี่ยวกับการควบคุมตัวรถ ไปพร้อมๆกับบอกวิธีแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นให้เพื่อนๆได้รับทราบกัน มาเริ่มกันเลยครับ

BMW-G310GS-Pon-OnRoad_7
– สำหรับปัญหาแรกนั้นถือว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างใกล้ตัวและเกิดขึ้นได้เสมอหากผู้ขับขี่ไม่ใส่ใจในจุดนี้มากพอนั่นก็คือ “ปัญหาล้อหน้าหนืด/หักเลี้ยวยาก” หรือแม้กระทั่งเลี้ยวไปแล้วต้องใช้แรงแขนในการประคองให้รถเลี้ยวอยู่อย่างนั้นเยอะกว่าปกติ โดยสิ่งแรกที่เราอยากให้เพื่อนๆเช็คกันก่อนเลยก็คือ “หน้ายาง” ว่าลักษณะเนื้อยางป้านหรือเรียบติดถนนมากเกินไปหรือไม่ ?

2017-Triumph-Street-Triple-RS-765-Review_56ถ้าหากใช่ให้รู้ตัวไว้ก่อนเลยว่า แรงดันลมในยางหน้าของเพื่อนๆอาจจะมีน้อยเกินไป จนทำให้ยางไม่พองตัว หรือแบนติดถนน และผลต่อมาก็คือมีแรงเสียดทานเกิดขึ้นกับหน้ายางมากเกินไปจนตัวเราต้องใช้แรงผลักแฮนด์บาร์เพื่อหักเลี้ยวมากกว่าปกตินั่นเอง ดังนั้นวิธีแก้ในเรื่องนี้ก็ง่ายๆแค่เพียงเติมลมยางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเท่านั้น

Pon-Ninja-H2แต่ในกรณีที่รถเพื่อนๆคันไหนมีการติดตั้ง “กันสะบัด” ก็ควรเช็คเพิ่มด้วยนะครับ ว่าถูกเซ็ทความหนืดมาเหมาะสมแล้วหรือยังหลังติดตั้ง และถ้าหากว่าเซ็ททั้งความหนืดกันสะบัดก็แล้ว เติมลมยางเข้าไปก็แล้ว ก็ยังไม่ได้ผล สิ่งที่เราอยากให้เช็คกันต่อก็คือ “น็อตแกนคอ” ว่ามีสนิมหรือฝุ่นไปติดอยุ่บริเวณนั้นหรือไม่ รวมไปถึงการเช็คแรงขันของน็อตแกนคอก็เช่นกัน หากช่างขันไว้แน่นมากเกินไป นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เราหักเลี้ยวแฮนด์รถยากเช่นกัน

Review-Vespa-GTS-Super-150-300_15
– ปัญหาต่อมาก็คือ “ปัญหารถกินซ้าย/ขวา” หรือศูนย์ไม่ตรงนั่นเอง โดยถ้าหากว่ารถเพื่อนๆไม่เคยผ่านการล้มหนักจนช่วงหน้าตัวรถเสียหายอย่างรุนแรงมาก่อน และหากปัญหานี้เกิดขึ้นแทบจะทันทีหลังทำการเปลี่ยนยาง หรือเปลี่ยนโซ่/เสตอร์ สิ่งแรกที่ต้องเช็คก่อนเลยก็คือความตรงของแกนเพลาล้อหลังว่าเท่ากันทั้งซ้ายขวาหรือไม่

ถ้าตรงแล้วต่อไป สำหรับเพื่อนๆที่มีตัวรถใช้ล้อซี่ลวดก็เช็คกันต่อว่ามีซี่ล้อตัวไหนหลวมหรือไม่ หากใช่ให้รีบส่งให้ร้านปรับตั้งเป็นการด่วน และถ้าเอาแบบร้ายแรงที่สุดเลยก็คือขอบล้อเบี้ยว, ลูกปืนล้อแตก, หรือดุมล้อหลวม ซึ่งถ้าหากชิ้นส่วนใดชิ้นส่วนนึงที่เรากล่าวมานั้นมีปัญหาขึ้นมา ทางเดียวที่จะแก้ได้คือเปลี่ยนใหม่เท่านั้นครับ เตรียมตังค์ในกระเป๋าไว้ได้เลย

2017-Triumph-Street-Triple-RS-765-Review_24
– ปัญหาที่สามก็คือ “รถสั่นผิดปกติ” อันนี้ต้องแยกก่อนว่าหากการสั่นเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนสตาร์ทเครื่องแล้วจอดอยู่เฉยๆ ทางเราแนะนำว่าให้เพื่อนๆลองนำรถเข้าศูนย์เพื่อให้ทางช่างนำประแจปอนด์มาขันดูว่าน็อตที่ใช้ยึดหูเครื่องยนต์แต่ละจุดนั้นถูกขันไว้ด้วยแรงที่เหมาะสมหรือไม่ เพราะบางทีการขันยึดเครื่องยนต์กับเฟรมตัวรถไว้แน่นมากเกินไป ก็เป็นอีกสาเหตุนึงที่ทำให้แรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์ส่งมาสู่เฟรมได้โดยตรง

และถ้าหากว่าตัวรถสั่นขณะขับขี่ สิ่งที่ควรเช็คอีกครั้งก็คือ ขอบล้อว่ามีการดุ้งหรือไม่ ไปจนถึงการถ่วงล้อว่าสมดุลหรือเปล่า โดยอย่างหลังนั้นอาจจะต้องเสียเวลาให้กับช่างยางสักหน่อย แต่ถ้าสงสัยก็เช็คไว้ก่อนเถอะครับ เพราะการขับตัวรถขณะที่ปัญหามีสาเหตุจากตัวล้อนั้นไม่สนุกเลยสักนิด (อันนี้ผู้เขียนเจอมากับตัวแล้ว ไม่กล้าเทโค้งแม้แต่นิดเลยจนกว่าจะเปลี่ยนล้อใหม่ เพราะถ้าฝืนเลี้ยวไปตัวรถก็พร้อมจะเป๋ได้ทุกเมื่อเนื่องจากล้อไม่กลมพอที่จะเหยีบบนถนนได้อย่างราบรื่น)

honda-crf250-rally-review-05
– ปัญหาที่สี่ก็คือ หากเพื่อนๆรู้สึกว่าตัวรถค่อนข้างอ่อนไหวต่อการเจอหลุม หรือว่าง่ายๆคือพร้อมจะส่งแรงกระแทกจากล้อมาสู่แฮนด์บาร์ได้ทุกครั้งเมื่อเจอหลุม แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เราขอแนะนำว่าให้เช็คตัวระบบกันสะเทือนก่อนเลยว่ามีอาการซีลโช้กแตกจนน้ำมันรั่วซึมหรือไม่ เพราะถ้าหากน้ำมันในตัวโช้กรั่วออกไปหมดแล้ว ตัวโช้กก็จะไม่สามารถหน่วงแรงกระแทกที่เกิดขึ้นได้อีกต่อไป จนส่งผลให้โช้กยุบได้ง่ายกว่าเดิม

 

Pon-CRF250L_2_1และเมื่อโช้กยุบจนสุดนั่นก็หมายความว่าตัวโช้กจะไม่สามารถซับแรงกระแทกอะไรได้อีกแล้ว และส่งแรงกระแทกจากหลุมบนพื้นถนนนั้นๆมายังมือเราโดยตรงในที่สุด (แต่ก็ไม่แน่ว่าปัญหาอาจจะเกิดจากตัวเพื่อนๆทีี่ตั้งโช้กให้แข็งมากเกินไปเองก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็รีบขันปรับโช้กใหม่ซะนะครับ ก่อนที่แขน, หลัง และก้นจะพังกันซะก่อน)

RoyalEnfield_Himalayan_PilokTrip_46
– และปัญหาสุดท้ายที่เรามักปล่อยผ่านกันประจำก็คือ “ล้อหน้าส่าย” ราวกับล้อหน้าไม่ยึดเกาะใดๆทั้งสิ้นกับถนนทั้งๆที่สภาพผิวถนนตรงหน้าที่ขับขี่อยู่ก็ปกติดีไม่ได้มีฝุ่นหรือน้ำมันเครื่องเคลือบอยุ่แต่อย่างใด แน่นอนครับว่าสิ่งที่ต้องเช็คก่อนเลยก็ยังคงเป็นยางหน้าอีกครั้ง ว่ามันสึกมากเกินไปแล้วหรือไม่ ต่อไปก็คือการเช็คน็อตแกนคออีกครั้งว่าหลวมเกินไปหรือเปล่า ถ้าใช่ก็รีบแวะเข้าร้านให้ช่างปรับตั้งได้เลยครับ เสียเวลาเดินทางไม่นานหรือกครับ ถ้าเทียบกับการประสบอุบัติเหตุเพราะล้มพับอย่างไม่ตั้งใจบนท้องถนนจนเจ็บตัว

ขอบคุณข้อมูลจาก Motorcyclistonline.com

อ่านบทความ Tips Trick เพิ่มเติมได้ที่นี่

เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ

Share.

About Author

error: Content is protected !!