ขาดจิตสำนึกในเรื่องความปลอดภัยมากเกินไป แนะ ควรมีการจำกัดความเร็วรถจักรยานยนต์ให้ไม่เกิน 50 กม./ชั่วโมง ในอีก 10 ปีข้างหน้า เพื่อความปลอดภัยในของผู้ขี่

0

ในวันที่ 5 กรกฏาคมที่ผ่านมาทาง กรมชนส่งทางบกได้จัดตั้งเวทีเสวนาในหัวข้อ “จักรยานยนต์ปลอดภัย Smart Ride – Safe Lives” ระหว่างผู้ใหญ่ทั้งจากฝ่ายรัฐบาล เอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนและการขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยกรมการขนส่งทางบก

js100-Smart-Ride-Safe-Lives-associate-01
โดยทางด้าน พ.ต.อ.เอกราช ลิ้มสังกาศ รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง กล่าวว่า บนถนนทางหลวงที่มีระยะทางตรงเป็นส่วนมากนั้น ได้แจกแจงสาเหตุหลักๆที่ทำให้เกิดเกิดอุบัติเหตุ 3 ข้อด้วยกัน 1. ขับรถเร็วและประมาท, 2. ขับรถเบียด, ขับรถแทรก โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ที่มักอาศัยช่องเล็กๆเบียดรถใหญ่ แต่กลับขับไม่พ้นจนเกิดอุบัติเหตุ, และ 3. คือการหลับใน ที่พบว่ารถทุกประเภทมักหลับในเมื่อขับรถในเส้นทางตรงที่มีระยะยาวเสมอ ซึ่ง พ.ต.อ. เอกราช ได้เสนอแนะว่า การสร้างความปลอดภัยในการขับขี่ที่ดีที่สุดคือ ต้องเริ่มจากตัวเองด้วยการสร้างความรู้และการมีจิตสำนึกที่ดีในการขับขี่

Honda-Safety-Riding_03_resize
และในขณะเดียวกันทางด้าน คุณ อารักษ์ พรประภา ผู้อำนวยการศูนย์ขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ได้ระบุว่าทางฝั่งผู้ผลิตอย่างตนเองก็เล็งเห็นปัญหานี้เช่นกัน จึงได้เริ่มจัดสร้างศุนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยขึ้นมาทั่วทุกภาคในประเทศไทย เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในการขับขี่รถจักรยานยนต์ ตระหนักและปฏิบัติตามกฎจราจร นำสู่การปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมในการใช้รถใช้ถนนให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

2018-krrc-race2-atmosphere-01
ด้าน นาย ชัยธนา ไชยมงคล ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน(สสปท.) เองได้เสนอแนะเอาไว้ว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า ตนอยากให้มีการจำกัดความเร็วรถจักรยานยนต์ให้ไม่เกิน 50 กม./ชั่วโมง เหมือนกับข้อบังคับที่ใช้อยู่ในประเทศจีน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าลักษณะผู้ใช้รถใช้ถนนในบ้านเรายังดูปลอดภัยไม่มากพอเมื่อเทียบกับต่างชาติ แล้วปรับปรุงขนส่งมวลชนให้ดีขึ้นเพื่อที่จำนวนประชากรที่ใช้รถส่วนตัวจะได้ลดน้อยลง

PON-KTM-Duke390_1
ซึ่งประเด็นหรือแนวคิดสุดท้ายนั้นถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะถ้าหากมีการปรับระบบขนส่งมวลชนให้ดีขึ้น ก็น่าจะแก้ปัญหารถติด และลดอุบัติเหตุลงได้ เนื่องจากการสัญจรไม่ได้พลุกพล่าน แต่กับนโยบายจำกัดความเร็วให้เหลือเพียง 50 กม/ชม นั้น ถ้าหากใช้กับพื้นที่ในเมืองที่มีอัตราเสี่ยงจะเฉี่ยวชนกันสูงก็คงจะเป็นไอเดียที่ดีเช่นกัน เพื่อนๆคิดว่าอย่างไรกันบ้างล่ะครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก จส.100

เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ

Share.

About Author

error: Content is protected !!