วิเคราะห์สิทธิบัตร Honda CT125 - The Hunter CUB ก่อนเปิดตัวจริงเดือนหน้า

ถึงแม้ว่า Honda CT125 เวอร์ชันขายจริง จะถูกนำมาจัดแสดงเป็นครั้งแรกเรียบร้อยที่งานประชุมผู้แทนจำหน่าย Honda ในประเทศญี่ปุ่น และทางสื่อท้องถิ่นอย่าง Young-Machine ก็ได้นำภาพ Official มาปล่อยให้เราได้เห็นเป็นที่เรียบร้อย ทว่ามันกลับมีภาพแค่เฉพาะมุมด้านขวาเท่านั้น แต่ล่าสุดเราก็ได้ภาพสิทธิบัตรที่เผยให้เห็นหน้าตารอบคันแบบ 360 องศา ดังที่เพื่อนๆจะได้เห็นอยู่ข้างล่างนี้

โดยสำหรับภาพแรกที่เราจะนำเสนอก่อนเลย ก็คือภาพข้างซ้ายของตัวรถ ที่ขาดหายไปจากชุดภาพอื่นๆก่อนหน้านี้ ซึ่งจะเผยให้เห็นอีกหนึ่งรายละเอียดที่น่าสนใจของเจ้า CT125 นั่นก็คือตำแหน่งหม้อกรองอากาศที่ถูกติดตั้งไว้ด้านข้างถังน้ำมัน ไม่ได้ติดตั้งไว้ตรงโครงบริเวณหลังแแกนคอรถเหมือนอย่างรถมอเตอร์ไซค์แม่บ้านทั่วๆไป

นอกจากนี้ถ้าสังเกตุให้ดี เพื่อนๆก็จะเห็นว่าทางวิศวกรได้ออกแบบให้ปากท่อต่อยืดยาวขึ้นมาด้านบน จรดตะแกรงท้าย สัมพันธ์กับระดับความสูงของท่อไอเสียด้านขวาของตัวรถที่เดินแนวสูงขึ้นมาขนาบข้างใต้ตะแกรงหลังพอดี ซึ่งจุดประสงค์ในการออกแบบแนวท่ออากาศเช่นนี้ ก็เป็นเพราะว่า พวกเขาอยากให้มันสามารถลุยน้ำลึกได้กว่ารถมอเตอร์ไซค์แม่บ้านทั่วๆไปนั่นเอง (ถ้าดูจากระดับปากท่อไอดีแล้ว ขี่ลุยน้ำในระดับที่ผิวน้ำสูงเกือบถึงเบาะนั่งได้เลย)

นอกนั้นในเรื่องของชิ้นส่วนอื่นๆของ CT125 ในสิทธิบัตร ก็ไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงจากตัวรถที่ถูกจัดแสดงในญี่ปุ่นแม้แต่น้อย ทั้งชุดโคมไฟหน้า และเรือนไมล์ที่ดีไซน์เหมือนของ Monkey 125 ส่วนชุดไฟเลี้ยวกับไฟเบรกจะดีไซน์ให้โคมลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยม แต่จนตอนนี้ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามันเป็นหลอด LED ทั้งหมดหรือไม่

ด้านระบบกันสะเทือนด้านหน้าก็ยังคงเป็นแบบตะเกียบคู่ธรรมดา ที่ได้รับการติดตั้งชุดปลอกยางกันฝุ่นแกนโช้กมาให้ ขณะที่ตัวระบบเบรกเองก็เป็นแบบดิสก์เดี่ยวทั้งด้านหน้า/ด้านหลัง และที่สำคัญคือทาง Honda เลือกติดตั้งระบบ ABS มาให้ด้วย เพียงแต่อาจจะทำงานแค่เฉพาะกับล้อหน้าเท่านั้น ส่วนล้อหลังก็เป็นดิสก์เบรกธรรมดาๆ เหมือน ADV150

ขณะที่กำหนดการเปิดตัว Honda CT125 จากตอนแรกที่เราได้เคยนำเสนอไปว่ามันจะต้องถุกเผยโฉมภายในสิ้นเดือนนี้ที่งาน Motor Show 2020 ทว่าด้วยความที่งานดังกล่าวถูกเลื่อนออกไปจัดปลายเดือนหน้า ดังนั้นกำหนดการเปิดตัวของมัน จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าจะต้องเลื่อนไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากเพื่อนๆคนไหนกำลังรอคอยการมาของมันอยู่ ก็อดใจรอกันหน่อยนะครับ เพราะด้วยสถานการณ์เช่นนี้เราเอาแน่เอานอนกับเชื้อไวรัส COVID-19 ไม่ได้เลยนั่นเองครับ