แม้ว่าในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เราจะเคยนำเสนอข้อมูลของ Honda Rebel 1100 ไปแล้วหลายครั้ง แต่เอาจริงๆแล้ว ในทุกครั้งล้วนเป็นเพียงข้อมูลข่าวลือ จากทางสื่อญี่ปุ่นทั้งสิ้น จนกระทั่งล่าสุด เราได้รับข้อมูลที่สามารถยืนยันได้แล้วว่าโปรเจ็กท์ของมันนั้นมีอยู่จริง โดยอ้างอิงจากชุดภาพสิทธิบัตรที่เพื่อนๆจะได้เห็นกันต่อจากนี้
โดยสำหรับภาพสิทธิบัตรที่เพื่อนๆเห็นอยู่ในตอนนี้ เป็นภาพสิทธิบัตรของ โปรเจ็กท์ครุยเซอร์ไบค์รุ่นใหม่ของ Honda ที่พวกเขาได้ยื่นจดเอาไว้กับหน่วยงาน United States Patent and Trademark Office หรือ สำนักงานสิทธิบัตรและทะเบียนการค้าของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งทันที่เราเห็น ก็แทบไม่ต้องเดากันเลยว่านี่คือรถต้นแบบที่มาพร้อมกับเรือนร่างที่คล้ายกับ Honda Rebel 500/300 รุ่นปัจจุบันแทบทุกจุด โดยเฉพาะกับชุดโครงเหล็กอันเป็นเอกลักษณ์กับถังน้ำมันทรงหยดน้ำ, เบาะนั่งผู้ขี่/ผู้ซ้อน, และบังโคลนหลัง กับไฟท้าย
แต่จุดที่ต่าง จาก Rebel ทั่วๆไปในรถอ้างอิงคันนี้ ก็คือกันที่มันมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง ซึ่งมีหน้าตาเหมือนกันกับขุมกำลังของ Africa Twin 1100 อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบริเวณแครงก์ขวา ที่มีหน้าตาเหมือนชุดกลไกควบคุมของระบบเกียร์ DCT เว้นแค่เพียงลักษณะการวางตำแหน่งของแนวคอท่อไอเสียกับหม้อน้ำเท่านั้นที่ต่างออกไป แต่ทั้งนี้ก็เข้าใจได้ว่าเป็นเพราะทางวิศวกรไม่จำเป็นต้องวางตำแหน่งทั้ง 2 ชิ้นส่วนให้หลบชุดเฟรมตรงกลางเหมือนกับตอนที่เครื่อยนต์บล็อคนี้ประจำการอยู่ใน CRF1100L นั่นเอง
และด้วยความที่มันเป็น Rebel รุ่นใหม่ซึ่งมาพร้อมกับเครื่องยนต์ที่ความจุใหญ่ขึ้น มีเรี่ยวแรงมากขึ้นจากเดิมอีกเท่าตัว ดังนั้นทาง Honda จึงจำเป็นต้องอัพเกรดระบบช่วงล่างของตัวรถให้สูงขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งแม้ทางฝั่งโช้กตะเกียบคู่ด้านหน้าจะยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นแบบตะเกียบคู่หัวกลับ หรือหัวตั้ง แต่ก็เห็นได้ชัดเจนว่าคาลิปเปอร์เบรกได้มีการเปลี่ยนไปใช้แบบเรเดียลเมาท์เรียบร้อยเหลือเพียงการยืนยันว่าจะเป็นแบบดิสก์คู่หรือดิส์เดี่ยว ส่วนโช้กคู่หลังก็เปลี่ยนไปใช้แบบมีซับแทงค์แก๊สแยก ซึ่งอย่างน้อยๆก็จะต้องสามารถปรับพรีโหลดได้ด้วยการขันสตรัทแน่นอน เป็นฟังก์ชันพื้นฐาน
ด้านข้อมูลเกี่ยวกับช่วงเวลาเปิดตัวของ All-New Honda Rebel 1100 ณ ขณะนี้ยังไม่มีใครสามารถให้การยืนยันได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่กันแน่ แต่จากการให้ข่าวในหลายๆครั้งของสื่อต่างประเทศหลายๆเจ้าที่ผ่านมา การเปิดตัวในช่วงไม่เกินสิ้นปีนี้ ก็ถือเป็นกำหนดการเร็วที่สุดแล้วที่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่มันจะเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ ? โปรดรอติดตามกันต่อไปครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก Motorcycle
อ่านข่าวสาร Honda เพิ่มเติมที่ได้ที่นี่
