ชมตัวจริง ZX-25R ไทยโดนตอนม้า ราคาเหยียบ 2.7 แสน [BIMS2020]

0

เปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการในบ้านเราสักทีที่งาน Motor Show 2020 สำหรับ Kawasaki ZX-25R สปอร์ตไบค์พิกัด 250cc คันแรกหลังยุค 90 ที่กลับมาพร้อมกับเครื่อง 4 สูบเรียง รอบจัด ซึ่งหน้าตาคันจริงของมันจะเป็นอย่างไรบ้าง เรามาดูกันไปทีละจุดเลยดีกว่าครับ

Kawasaki_ZX-25R-bims2020_02
โดยส่วนแรกที่เราจะเริ่มพาเพื่อนๆชมกันก่อนเลยก็คือรูปลักษณ์ภายนอก ที่หากให้สาธยายคร่าวๆเจ้า ZX-25R คันนี้ ก็มีดีไซน์ตามที่หลายๆคนคาดการณ์เอาไว้ นั่นก็คือมันยังคงใช้ชุดไฟหน้าโคมคู่ยอดนิยมของ Ninja 400 และมีการดีไซน์แฟริ่งตรงกลางให้มีปากท่อแรมแอร์เหมือน ZX-6R, ส่วนแผงแฟริ่งด้านข้างกับถังน้ำมันถือว่าไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมากนักเมื่อเทียบกับพี่ๆน้องๆตระกูล Ninja, ขณะที่ชุดท้ายนั้นถือว่าค่อนข้างชัดเจนว่ายกเบ้าดีไซน์มาจากพี่ใหญ่สุดอย่าง ZX-10R, และฝั่งท่อไอเสียเป็นแบบออกล่าง ตัดสั้นตามสมัยนิยม

Kawasaki_ZX-25R-bims2020_08
นอกนั้นในส่วนชุดเฟรมเป็นแบบโครงเหล็กถัก ทำขึ้นจากวัสดุเหล็กทนแรงเฉือนสูง ที่มีความแข็งแรง เหนียว และทนทาน เพียงพอแล้วสำหรับรถมอเตอร์ไซค์พิกัดนี้, แฮนด์บาร์จับใต้แผงคอ เบาะนั่งสูง 785 มิลลิเมตร ให้ท่านั่งหมอบกำลังดี แต่ในขณะเดียวกันตัวเบาะก็มีความเป็นมิตรกับผู้ขี่ไซส์เอเชีย, ถังน้ำมันความจุ 15 ลิตร, และน้ำหนักตัว 182 กิโลกรัมสำหรับรุ่นมี ABS

Kawasaki_ZX-25R-bims2020_21
ด้านเครื่องยนต์ก็อย่างที่ทราบกันว่ามันเป็นแบบ 4 สูบเรียง 16 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ความจุสุทธิ 249cc และมีเรดไลน์ตามเรือนไมล์ 20,000 รอบ/นาที แต่ตัดจริงๆคือ 17,000 รอบ/นาที ก็จะสามารถทำกำลังได้สูงสุด 45 PS ที่ 14,500 รอบ/นาที ส่วนแรงบิดสูงสุดจะอยู่ที่ 21.9 นิวตันเมตร ที่ 13,500 รอบ/นาที (อิงตามสเปคญี่ปุ่น เนื่องจากเรื่องของมาตรฐานไอเสียอันเข้มงวดของไทย)

Kawasaki_ZX-25R-bims2020_12
ระบบกันสะเทือนด้านหน้าของมัน จะเป็นแบบตะเกียบคู่หัวกลับ SFF-BP หรือ Separate Function Fork – Big Piston ที่หมายถึงว่ามันจะเป็นแบบทำงานแยกส่วนกัน ฝั่งหนึ่งทำงานคุมอัตราการยุบตัว ฝั่งหนึ่งคุมอัตราการคืนตัว แถมยังเป็นแบบลูกสูบโต และมีขนาดแกน 37 มิลลิเมตร แต่ยังไม่สามารถปรับเซ็ทค่าใดๆได้ทั้งสิ้น

Kawasaki_ZX-25R-bims2020_20
ระบบกันสะเทือนด้านหลังเป็นแบบ Horizontal Backlink หรือโช้กวางเกือบขนานพื้นและมีกระเดื่องทดแรง คล้ายพี่ใหญ่ ZX-10R ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มเหล็กหล่อทรงปีกคว่ำ สามารถปรับระดับความแข็งอ่อนได้

Kawasaki_ZX-25R-bims2020_09
ระบบเบรกด้านหน้า แม้จะไม่ได้เป็นแบบดิสก์คู่แต่อย่างน้อยขนาดจานที่ให้มาก็ใหญ่พอสมควร คือ 310 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับปั๊มเบรกแบบเรเดียลเมาท์ โมโนบล็อคคาลิปเปอร์ ที่ยกเบ้าหน้าตามาจาก Z1000 / Versys 1000 / Ninja 1000 และระบบเบรกด้านหลังก็เป็นแบบดิสก์เดี่ยวขนาด 210 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับโฟลทติ้งเมาท์คาลิปเปอร์ 1 ลูกสูบ ซึ่งแน่นอนว่ามันจะต้องมีระบบ ABS ติดตั้งมาให้ด้วย ส่วนชุดล้อเป็นแบบอัลลอยด์ขอบ 17 นิ้ว รัดด้วยยางไซส์ 110/70R17 และ 150/60R17

Kawasaki_ZX-25R-bims2020_23
นอกนั้นในส่วนของระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่น่าสนใจอย่าง คันเร่งไฟฟ้า, แทร็คชันคอนโทรล 4 ระดับ (ทำงาน 3 Level + ปิดแทร็คชัน), และ Power Modes Full/Low ต่างก็จัดเต็มมาให้ทั้งหมดชนิดที่ว่าเกทับคู่แข่งได้แบบมิดจอ ซึ่งทั้งหมดนี้จะแสดงผลการทำงานต่างๆบนชุดเรือนไมล์ก็ยังคงยกเบ้ามาจาก Ninja 400 หรือ ZX-6R เช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นทั้งความเร็ว, ตำแหน่งเกียร์, โหมดเครื่องยนต์, ระดับน้ำมัน, และอื่นๆแต่มีการเปลี่ยนสเกลวัดรอบภายในใหม่โชว์ตัวเลขสูงถึง 20,000 รอบ/นาที แถมยังมีระบบควิกชิปเตอร์ขึ้น/ลงติดตั้งมาให้ตั้งแต่ออกโรงงานอีกด้วย

Kawasaki_ZX-25R-bims2020_01
สำหรับค่าตัว All-New Kawasaki ZX-25R ราคา จะสนนตัวเลขที่ 269,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 และจะมี 2 เฉดสีให้เลือกด้วยกันสำหรับประเทศไทยในตอนนี้ ได้แก่ สี แดง/ขาว สำหรับตัวรถ SE Edition และ สีเขียว/ดำ สำหรับรุ่น KRT Edition ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจ สามารถเดินทางไปจับจองตัวรถที่ศูนย์บริการ Kawasaki ทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปได้เลยครับ

ZX25R-Motoaholic-Price

อ่านข่าวสาร Kawasaki เพิ่มเติมที่ได้ที่นี่
อ่านข่าวสาร Motor Show 2020 เพิ่มเติมที่ได้ที่นี่

เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ

Share.

About Author

error: Content is protected !!