ในการแข่งขัน MotoGP ฤดูกาลหน้า ทางผู้จัดได้ทำการออกกติกาสัมปทานทีมแบบใหม่ ที่จะช่วยจัดสรรตัวให้กับค่ายรถที่ทำผลงานได้ไม่ดี ให้สามารถพัฒนารถมาต่อสู้กับคู่แข่งได้มากขึ้น(อ่านรายละเอียดสัมปทานทีมใหม่ได้ที่นี่) เพื่อประโยชน์ด้านความตื่นเต้นในการแข่งขัน แต่แน่นอนว่ากติกาสัมปทานใหม่นี้ก็มีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งคนนั้นคือนักแข่งคนใต้หัวร้อนอย่าง Jack Miller
เราต้องขออธิบายก่อนว่ากติกาสัมปทานแบบเดิม จะยึดตามผลงานของผู้ผลิตว่าสามารถขึ้นโพเดียมและชนะการแข่งขันได้หรือไม่ แปลว่าต่อให้ค่ายผู้ผลิตนั้นสามารถแข่งจบที่ 4 ได้ทุกสนามและมีคะแนนสะสมอยู่หัวแถว ค่ายรถรายนั้นก็จะยังคงได้ตัวช่วยต่อไปจนกว่าสามารถจะขึ้นโพเดียมได้บ่อยประมาณนึง(เราขอไม่ลงรายละเอียดลึกมากในจุดนี้)
ในขณะที่กติกาแบบใหม่จะยึดจากคะแนนรวมที่ทำได้ตลอดฤดูกาล แปลว่าต่อให้ค่ายผู้ผลิตนั้นสามารถคว้าแชมป์สนามได้บ้าง แต่ถ้าคะแนนรวมยังไม่ดี(แบบเดียวกับ Honda) พวกเขาก็จะได้รับตัวช่วยให้พัฒนารถได้ง่ายขึ้น
ซึ่งตรงนี้เองในมุมของ Jack Miller ที่เป็นนักบิดจาก KTM ที่ทำคะแนนรวมเป็นถึงรองแชมป์ผู้ผลิต แต่กลับไม่สามารถชนะการแข่งขันวันอาทิตย์ได้เลยตลอดทั้งฤดูกาลที่ผ่าน จึงรู้สึกว่า Honda ได้รับการช่วยเหลือมากเกินไป จากผลงานการคว้าแชมป์สนามของ Alex Rins ได้ที่อเมริกา
“พวกเขา(Honda)เป็นแชมป์สนามในปีที่ผ่านมา แต่พวกเขากลับได้ตัวช่วยจากสัมปทานใหม่ ซึ่งเรากลับไม่ได้” Jack Miller กล่าว “มันง่ายกว่าสำหรับพวกเขาที่จะทำคะแนนรวมได้น้อย เพราะนักแข่งครึ่งนึงของพวกเขาบาดเจ็บจนไม่สามารถแข่งได้ตลอดฤดูกาล”
แต่ทางด้านของ Yamaha ที่ทำคะแนนรวมได้ไม่ดี แถมยังไม่สามารถคว้าแชมป์ได้สักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการแข่งในวันเสาร์หรืออาทิตย์ ก็สามารถยืดอกเพื่อรับความช่วยเหลือได้อย่างเต็มที่ “Yamaha ต้องการการทดสอบที่มากขึ้น” Fabio Quartararo กล่าว “ถ้าเราได้ตัวช่วยสัมปทานใหม่ เราจะได้วันทดสอบในมาเลเซียถึง 6 วัน ตอนนั้นผมคงเหนื่อยตายจากการทำงานหนัก แต่นั่นคือสิ่งที่เราต้องการ เราจึงต้องพยายาม”
ที่มา crash
อ่านข่าวสาร MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่
