รีวิว 2023 Honda CBR250RR SP กับภาคต่อ ของฟูลรีวิว ด้วยการมาขี่หวดในแทร็ก ณ แก่งกระจานเซอร์กิต

หลังจากที่ MotoRival เราได้ทำฟูลรีวิวขึ้นไปตั้งแต่ช่วงประมาณสัปดาห์ก่อนไปแล้ว ซึ่งครั้งนั้นจะเป็นการทดสอบบนท้องถนน และใช้งานจริงทั่วไป โดยในครั้งนี้ แน่นอนรหัส RR Racing Replica มันต้องมาหวดในแทร็กสิ! ใน รีวิว 2023 Honda CBR250RR SP part2 หวดในแทร็ก ภาคสนามครั้งนี้ บอกเลยตรงโจทย์ เพราะเราได้มีโอกาสมาทดสอบมันแบบหวดเต็มคันเร่ง ในงาน Honda Mini Track Day ที่สนามแก่งกระจานเซอร์กิต

รีวิว 2023 CBR250RR SP แต่ก่อนอื่น ต้องย้ำก่อนว่าคอนเท้นต์นี้ผมจะไม่มาพูดดีเทลสเป็กรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมนะครับ เพราะทำไว้แล้วในฟูลรีวิว สามารถรับชมได้ที่นี่

โดยผมจะขอสรุปสั้นเพียงแค่ จุดต่างในปี 2023 vs 2022 ได้แก่
ลายตัวรถ, เพิ่มไฟ Hazard, เพิ่มโช้กหน้าฟังก์ชั่นเป็น SFF-BP, Remap เครื่องยนต์ใหม่ ม้าเพิ่ม 1 ตัว และ ปรับอัตราทดเกียร์ 1-4 ให้ชิดขึ้น
เอาล่ะสรุปความต่างจบแล้ว ก็มาเข้าเรื่องที่การหวดในสนามกันเลย

เริ่มที่ท่านั่ง
เบาะระดับ 790 มม. ต้องบอกเลยมันไม่ได้สูงเลย สำหรับการเป็น Sport Replica เพราะตัวเลขนี้เท่าๆกับ Sport Entry ทั่วไป
ผมสูง 175 ซม. สวมเรซซิ่งบูท เหลือระยะหย่อนเข่าสบายๆ

ด้านแฮนด์จับโช้กใต้แผงคอ เตี้ยแต่ก็ไม่ถึงกับเตี้ยมากนัก แต่ผมชอบระยะประมาณนี้เลย เพราะไม่เมื่อยเกินไป เมื่อต้องขี่ On Road
และการหักแฮนด์สุด แบบ Fullock ต้องบอกเลยว่าไม่ข้อมือไม่ติดถังเหมือนอย่างตัว 500 หรือ 650 ทำให้หักเลี้ยววงแคบบนถนนทำได้สบาย

ส่วนระยะตัวผม 175cm ยัง ok ศอกชนเข่า เวลาก้มหมอบทางตรง ยังไม่ถึงกับอึดอัดเกินไป แต่ถ้าใครสูง 180cm+ อาจรู้สึกเก้ๆ กังๆ ไปสักนิด
คือ สำหรับสรีระผมเอง คือ ต้องบอกว่า Riding Position มันดีเยี่ยมมากๆ เข้ากับตัวผมได้ดีจริงๆ

เครื่องยนต์ ที่มีการปรับปรุงใหม่
ต้องเรียนตามตรงว่า สเป็กที่ผมเช็คจากเว็บ Honda อินโดนีเซีย และข้อมูลเดิมของปี 2022 ที่มีอยู๋เหมือนแรงม้ามันจะเท่าเดิม เอาเป็นว่าในส่วนตรงนี้ ผมเคยขี่ CBR250RR SP 2022 เมื่อปลายปีที่แล้วใน Bike of the Year ต้องเรียนตามตรงว่าไม่ได้รู้สึกถึงความต่างอย่างมีนัยยะ ภาพรวมบิดสนุกมากๆ แล้ว พิกัด 250cc ได้ 41hp ผมว่าแรงมากพอตัวแล้วล่ะ เพียงพอกับการขี่ในแทร็กที่แก่งกระจาน ที่เน้นความคล่องตัวในการพลิกรถ
เพราะสุดทางตรงผมก็ได้แถวๆ 165 kmph กับแทร็กเล็กๆ เช่นนี้ ผมว่า ok แล้วคอนโทรลไม่ยากเกินไป แรงมาก ถ้าไม่แม่น เบรกทะลุล้นสูง

ส่วนการเซ็ทอัตราทดสเกียร์ใหม่ ส่วนตัวผมว่ามันก็ดีในเวลาขึ้นเกียร์อัตราเร่งมาเร็ว แต่ในแทร็กนี้ที่เป็นโค้งซ้าย หักศอก ที่ควรจะต้องลดลงเกียร์ 2 ผมรู้สึกว่า มันตื้อเกินไป พอจะเข้าเกียร์ 3 ก็รู้สึกแรง Engine Brake ไม่พออีก เพราะรถมี Slip Assist Clutch ทำให้กำลังไม่ทิ้งลงล้อหลังมากนัก ผมเลยรู้สึกว่า แทร็กนี้ ถ้าอัตราทดเดิม ส่วนตัวมองว่าน่าจะดีกว่า

ขณะที่ QS 2Ways ที่ให้มานั้นก็ยังสะดวกสบาย เหมือนเคย แต่ผมพบจังหวะขึ้นเกียร์ช่วงเกียร์ 4->5 มีเจออาการเข้าเกียร์ว่าว อยู่ประมาณ 2-3 ครั้ง ซึ่งจุดนี้ผมต้องบอกก่อน อาจเป็นที่ผมงัดเกียร์ไม่ถูกเองก็เป็นไปได้ แต่ความรู้สึกผมหากเทียบกับ QS ในตัว 600RR หรือ 1000RR-R ฟีลจะเนียนกว่านี้

ระบบกันสะเทือน โช้กหน้า USD SHOWA SFF-BP
โดยรวมผมก็มองว่ามันทำงานได้ดีเช่นเดิม แต่ก็ต้องเรียนตามตรงอีกเช่นเดียวกันว่า ผมไม่เคยขี่แทร็กนี้มาก่อน และแทร็กแก่งกระจานนี้ Bump แทบทุกโค้ง จึงทำให้อาการรถมันออกมามากกว่าปกติ
แต่ก็ไม่ยากจนเกินจะคอนโทรล
เลยจะบอกว่า โช้กตัวใหม่นี้ แย่กว่า เดิมหรือดีกว่าเดิมลำบาก เพราะผมเพิ่งเคยขี่ในสนามนี้ครั้งแรกก็ เจ้า 2023 CBR250RR SP

แต่อย่างที่บอกผมเคยทดสอบ TopSpeed Test ไปแล้ว

คือ ผมบินทั้งคันที่ความเร็วราว 175kmph และลงมาชกเล็กน้อย ก่อนคอนโทรลรถต่อไปได้ไม่ยากเย็น ซึ่งครั้งแรกผมเข้าใจว่าน่าจะลอยช่วงประมาณ 150 เพียงเท่านั้น โดยรวมแล้วผมมองว่า โช้กอัพทำงานได้เหมาะสมกับ ไซส์รถเช่นนี้แล้ว เพราะบอกเลยถ้าขี่ 500R หรือ 650R ผมว่า น่าจะพลิกรถเข้าได้ไม่ดีเท่านี้แน่ๆ

โดยรวมมันพลิกรถได้ง่ายมากๆ โค้ง S สนามนี้ เยอะมาก ผมต้องโยกตัวบ่อย มันดึงรถเข้าได้ตามสั่ง เป็นรถในคลาส 250cc ที่ผมยกให้เลยว่ามันพลิกง่ายที่สุด
แต่เสียจุดนึงเลย คือ ยางติดรถ มันเป็นยางเกรดเดียวกับ Sport พวก 150-300cc ซึ่งผมมองว่า RR ควรให้ยากสปอร์ตที่มี Grip ดีกว่านี้ เหมือนอย่างตัวล็อตญี่ปุ่น จะดีกว่านี้มากๆ
เพราะผมรู้สึกเลยว่าเทโค้งแล้วยังดึงรถลงได้ไม่มากนัก เพราะรู้สึก Grip ยางมันไม่ดีเท่าที่ควร ตัว 2022 ที่ผมเทสใน Bike of the year คันนั้นลงหมด ส่วนนึงเพราะเปลี่ยนยางเป็น Diablo Rosso มาด้วย

สรุป รีวิว 2023 Honda CBR250RR SP มันยังถือเป็นรถที่ ยอดเยี่ยมสำหรับการขี่ในแทร็ก ประเทศไทย ที่ไม่ใช่แทร็กใหญ่ เช่น แก่งกระจาน สนามนี้ ทำให้เราสามารถขี่ใส่คันเร่งได้เต็ม เค้นประสิทธิภาพของมันออกมาได้อย่างเต็มที่
ดังนั้น ใครสายแทร็กเดย์ อยากได้รถที่ขี่ได้เหมาะสม ขี่ง่าย คอนโทรลได้อย่างมั่นใจ ไม่แรง ไม่หนักเกินไป ต้อง CBR250RR SP 2023 คันนี้ล่ะครับ

ถ้าใครบอกว่าราคาแพง แต่รถไม่แรง คงต้องบอกให้เข้าใจก่อนว่ารถคันนี้เป็นรถสายสนาม มันแพงกว่ารถ อย่าง 500R แม้แรงน้อยกว่าแต่ ออปชั่นต่างๆ หลายจุดก็สเป็กสูงกว่าเช่นกัน
ดังนั้น รถคันนี้อาจไม่ตอบโจทย์คุณแล้วล่ะ แต่สำหรับผม ไม่ต้องแรงมาก แต่ขอรถที่คอนโทรลได้มั่นใจ เพราะแรงแต่คุมรถได้ยาก ก็ใช่ว่าจะทำให้เราขี่ได้สนุกเหมือนอย่าง CBR250RR SP 2023 คันนี้