รีวิว 2023 Vespa GTS SUPER SPORT 150 I-GET ABS ตัวปรับโฉมใหม่ อัดแน่นเทคโนโลยี ด้วยการอัพเกรดสเป็ก ทันสมัยยิ่งขึ้น

สวัสดีเพื่อนๆ MotoRival ทุกท่าน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ผมได้มีโอกาส ไปรีวิวรถ 2023 Vespa GTS SUPER SPORT 150 I-GET ABS ใหม่ แบบคร่าวๆ กันไปแล้วที่โรงงาน Piggio เวียดนาม ต้องบอกว่าในครั้งนั้น ด้วยเวลาที่จำกัด และได้ทดสอบสั้นๆ ในแทร็กทดสอบที่โรงงาน แถมยังฝนตกอีก จึงทำให้เราไม่ได้ใจความรายละเอียดกับตัวรถมากนัก บวกกับการที่มันเป็นสเป็กต่างประเทศอีก

จนมาในช่วงก่อนเข้างาน Motor Show 2023 ทาง Vespiario ประเทศไทย ได้เปิดตัว All New GTS ใหม่ ออกมาเรียบร้อย ทั้งตัว 150 และ 300 ซึ่งในเบื้องต้นผมได้พรีวิวไปแล้วในตอนเปิดตัวเช่นเดียวกัน

แต่วันนี้ ได้มีโอกาสมาทำฟูลรีวิวเต็มๆ อีกครั้งกับ 2023 Vespa GTS SUPER SPORT 150 I-GET ABS ซึ่งนี่คือชื่อเต็มของ รหัส 150 ในไทย จะเป็นอย่างไรกันบ้างเดี๋ยวเราจะมาเจาะดีเทลให้รับชมกันครับ

สำหรับ Vespa GTS ถือได้ว่าเป็นรถเวสป้าเฟรมใหญ่ที่สุด ของเวสป้าแล้ว ในรอบนี้นั้น ต้องบอกว่าเทคโนโลยีอะไรที่ตัวเก่าขาดหายไป ครั้งนี้ จัดใส่มาให้หมดแล้ว

โดยผมต้องขออธิบายก่อนครับว่า สำหรับ 2023 Vespa GTS SUPER SPORT 150 I-GET ABS เวอร์ชั่นไทยเรา จะมากับตัว Supersport เท่านั้น ขณะที่รหัส 300 HPE จะมี 2 เวอร์ชั่น คือ GTS300 และ GTS300 Supertech ซึ่งผมก็ได้อธิบายไปแล้วคร่าวใน พรีวิว รับชมได้ที่นี่

ขอกลับมาที่ตัว 2023 Vespa GTS SUPER SPORT 150 I-GET ABS คันนี้กันต่อครับ สำหรับรุ่นย่อย SUPER SPORT แค่ชื่อก็บ่งบอกว่าเน้นลุคสปอร์ต
ดังนั้นจะตกแต่งด้วยกรอบ Trim สีดำตามจุดต่างๆของรถ เช่น กรอบไฟหน้า-ท้าย, กรอบมาตรวัด, คิ้วบังโคลนหน้า, พักเท้าคนซ้อน, มือจับกันตก, กระจกมองข้าง, Trim กรอบบอดี้รถ, การ์ดกันร้อนท่อ,

รวมถึงการตัดลายกราฟฟิคแถบสีส้มที่บอดี้รถ และล้อ เพิ่มลูกเล่นให้ดูโดดเด่นขึ้นในทุกมิติ

เบาะนั่งทรงสปอร์ตเดินด้านส้ม

ช่องบังแตร ตกแต่งเป็นสีส้ม
เส้นเน็คไทด์ ตกแต่งลายแบบเคฟล่า

และนอกจากนั้น 2023 Vespa GTS SUPER SPORT 150 I-GET ABS ใหม่ จะมีการปรับปรุงไฟมาใช้เป็น Full LED (อัพเกรดชุดไฟเลี้ยวมาเป็นแบบ LED)
ชุดไฟหน้ารีดีไซน์
ไฟท้ายปรับรูปทรงใหม่ ดูทันสมัยขึ้น
กระจกมองข้างปรับรูปแบบจากทรงกลม มาเป็นใบไม้
คิ้วบังโคลนหน้าดีไซน์ใหม่
มือจับกันตกออกแบบใหม่

ดีไซน์บริเวณด้านหลังชิ้นบังลมหน้าใหม่

โลโก้ที่ด้านท้ายรถใหม่

ล้ออัลลอยขอบ 12″ เป็นลายใหม่แบบ 5 ก้านคู่

ชุดมาตรวัดใหม่ กึ่งอนาล็อกกึ่งดิจิตอล LCD 3″ ขนาดจอ LCD ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับการแสดงผลระบบเชื่อมต่อแอป Vespa MIA
โดยสามารถใช้ควบคุมการรับสายโทรศัพท์ ได้ หรือ เล่นเพลง

ชุดสวิทช์ไฟซ้าย นอกจากมีปุ่ม ไฟสูง/ต่ำ, ไฟเลี้ยว, แตร แล้วยังมี Joy Stick เพิ่มเข้ามา
ส่วนปุ่มด้านขวา ประกอบไปด้วย ปุ่มเปิดเบาะ, Start/Stop, ASR (Traction Control เทคโนโลยีนี้มีมาให้แล้ว), Engine Start

ชุดกุญแจก็อัพเกรดมาเป็น Keyless แล้ว มากับ 2 ฟังก์ชั่น
ปุ่มบน ใช้ค้นหารถ (ในรัศมี 50 ม.) เมื่อกดปุ่มไฟเลี้ยวจะติดขึ้นทุกดวง
ปุ่มล่างกดค้างไว้ เป็นฟังก์ชั่นเปิดเบาะ

นอกนั้นก็ยังมีช่อง USB ให้อยู่ในเก๊ะหน้า ซึ่งเก๊ะหน้า มีโลโก้ S150 ตัว S คือ Sport นั่นเองซึ่งเมื่อนำมารวมกับ โลโก้ท้ายรถ ก็จะได้ชื่อรุ่นว่า 2023 Vespa GTS SUPER SPORT 150 I-GET ABS นั่นเอง
นอกจากนั้น GTS ยังมีตะขอสำหรับแขวนของ มาให้เช่นเดิม

รวมถึงช่อง Ubox ขนาดใหญ่พอประมาณ สามารถวางหมวกกันน็อค แบบเปิดหน้าลงไปได้

มิติรถ 2023 Vespa GTS SUPER SPORT 150 I-GET ABS
ความสูงเบาะ 800 มม.
นน. สุทธิ 150 กก.
ความจุถังน้ำมัน 6.5 ลิตร (+- 0.5 ลิตร)

ท่านั่ง
เริ่มที่ ความสูงเบาะ 800 มม. กับเบาะดีไซน์ใหม่ สำหรับผม ถือว่าลงได้ดูเต็มเท้าพอสมควร (ผมสูง 175 ซม.สวมผ้าใบ)

ตำแหน่งระยะแฮนด์ ตามสไตล์ Scooter Italian มีความกว้างและสูงพอประมาณ ขณะที่กระจกมองข้างทรงใหม่ รู้สึกว่าก้านกระจกดูเรียวและสั้นลง ทำให้การมุดช่องจราจรนั้น ไม่ลำบาก แม้ช่วงแฮนด์จะสูงในระดับรถยนต์เก๋งทั่วไป

ตำแหน่งคนซ้อน ผมรู้สึกว่า ตำแหน่งพักเท้าของเขาที่เป็นแบบบานพับนี้ จะทำให้ปลายเท้าคนซ้อนเตะช่วงน่องผู้ขี่อยู่
นอกจากนั้นตัวเบาะนั้น หนานุ่มนั่งสบายและยังถือว่านั่งได้เต็มก้น การออกแบบใหม่นี้ ทำให้รู้สึกว่ามันดูไม่ลื่นไถล
ส่วนมือจับกันตก ก็ถือว่าจับได้กระชับเต็ม Grip มือ

เครื่องยนต์ i-GET 150 4 วาล์ว เป็นแบบระบายความร้อนด้วยน้ำ 1 สูบ พิกัด 155.1cc ให้พละกำลังสูงสุด 11.5 kW (14.9 hp) @8,250rpm และแรงบิดสูงสุด 15Nm@6500rpm ส่งกำลังด้วยระบบอัตโนมัติแบบ CVT
ต้องบอกว่า เครื่อง i-GET 4 วาล์ว นี้ ถือว่าเป็นเครื่อง Scooter ที่ดีงามเรื่องของความสมูท เป็นเบอร์ต้นๆ เลยเปิดคันเร่งได้ไหลลื่นแบบเนียนๆ

โดยรวมถือว่า แรงจัดจ้านบิดสนุกติดมือ เมื่อเทียบกับการที่เป็นรถพิกัด 150cc และ น้ำหนักตัวมาก ระดับ 150 กก. เพียงแต่ต้องเข้าใจก่อนว่าคาแรกเตอร์ของ Vespa นั้น จะไม่ใช้สไตล์แบบต้นตื๊ด แบบเปิดคันเร่งแล้วดึงกระชาก เอาเป็นว่าภาพรวม การใช้งานเร่งแซงในเมืองยังทำได้ ok ส่วนความเร็วปลายนั้นก็ถือว่า ไหลในระดับที่ยังสามารถใช้เดินทางได้ แบบไม่ได้บ้าพลัง

ซึ่งทางผมได้ทดสอบ 0-TopSpeed ไปแล้ว มาตรวัดได้ที่ 120 kmph  ส่วน GPS ได้เท่าไรรับชมได้ในคลิปเลย

อัตราสิ้นเปลืองนั้น นั้นค่าจะได้อยู่ในช่วง 32-33 kml

ระบบกันสะเทือน โช้กหน้า ไฮโดรลิกแขนเดี่ยว ซึ่งต้องบอกเลยว่า เขาได้มีการอัพเกรดโช้กหน้าใหม่ ให้สมรรถนะดีขึ้น
ส่วนโช้กหลังคู่ ปรับพรีโหลดได้ 4 ระดับ

ต้องยอมรับเลยว่าในตัว GTS ใหม่ นี้ โช้กหน้าผมว่าภาพรวมถือว่าทำหน้าที่ได้ดีเลย ดูหนักแน่น และซับแรงดีกว่า Vespa หลายรุ่นที่ได้เคยสัมผัส

ส่วนด้านหลัง แม้ Stroke ช่วงยุบไม่เยอะ แต่บอกเลยว่า ไม่กระด้าง คนซ้อนยืนยันมาเองเลยว่าดี ซึ่งภาพรวมช่วงล่างถือว่าจบในตัว
ไม่ว่าจะขี่ถนนที่ไม่ราบเรียบในเมือง หรือ ขี่เดินทางไกลด้วยความเร็วยังทำได้ดี ด้วยบอดี้เหล็กและขนาดเฟรมใหญ่ น้ำหนักตัวเยอะ

แต่ในขณะเดียวกันการที่ น้ำหนักของมันเยอะ ซึ่งจะทิ้งท้ายไปสักหน่อย ทำให้หน้ามันดูพลิกเข้าไวหน่อย แต่ท้ายอาจจะมาช้าสักนิด ฟีลแบบหนืดหนักช่วงท้ายอยู่หน่อย

ระบบเบรก จานดิสก์ ทั้งหน้า-หลัง ขนาด 220 มม. ด้านหน้าเป็นปั๊ม Nissin 2 pots ด้านหลัง 1 pot มาพร้อมระบบเบรก ABS และสายเบรกให้มาเป็นแบบสายถักด้วยเลย
การทำงานนั้น สามารถบีบไล่น้ำหนักเบรกลงได้ ไม่ได้รู้สึกก้านเบรกแข็งทื่ออะไร แต่ ถ้ามาด้วยความเร็วอันนี้ต้องกดเบรกลงลึกกันเสียหน่อย เพราะมันไม่ได้จับจิกในจังหวะแรก

นอกจากนั้น ระบบความปลอดภัยอย่าง ASR (หรือระบบป้องกันล้อลื่นไถล ก็มีเพิ่มเติมมาให้) เวลาขี่บนทางเปียกลื่นก็ทำให้เราอุ่นใจ ได้มากยิ่งขึ้น
ซึ่งแม้ว่าในวันที่เราได้ทดสอบฝนจะไม่ตก แต่ในจังหวะที่ผมขี่ผ่านพวกคอสะพาน รู้สึกได้เลย ว่า ระบบ ASR เข้ามาตัดการส่งกำลังล้อหลัง ไม่ให้ล้อหมุนฟรี แบบรู้สึกได้ทันท่วงที

สรุป รีวิว 2023 Vespa GTS SUPER SPORT 150 I-GET ABS ใหม่ ถือว่า เป็นการอัพเกรดสเป็ก อัดเทคโนโลยีมาให้ครบถ้วน และตกแต่งในลุคสปอร์ต ให้ความโดดเด่นและดูดุดัน
หากคุณอยากขี่ Scooter Italian แท้ๆ แบบมีไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่น และต้องเป็นรุ่นท็อป สุดในรหัส 150 ก็ต้องรุ่นนี้ล่ะ

2023 Vespa GTS SUPER SPORT 150 I-GET ABS ราคา 1.659 แสนบาท ในสีขาว White Innocenza และ สีดำ Black Opaco กับเขียว Green Olive ราคา 1.669 แสนบาท มาพร้อมชุด Welcome Kit
แถมฟรี: Voucher 3,000 บาท Vespa Licensing และ Maintenance ฟรี 1 ปี
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ตัวแทนจำหน่าย Vespa ทั่วประเทศ

อ่าน รีวิว เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว Vespa เพิ่มเติมได้ที่นี่