รีวิว GIORNO+ ABS ขี่ครั้งแรกในโลกทันทีหลังเปิดตัว by MotoRival

รีวิว GIORNO+ มันคือ การย้อนตำนานของ GIORNO ยุค 90′ กลับมาในสไตล์ Modern Fashion AT ตามยุคสมัยใหม่
ซึ่งในคอนเท้นต์ก่อนหน้า เราได้นำเสนอข่าว ราคา และพรีวิวรายละเอียดดีเทลสเป็กตัวรถไปแล้ว (รับชมก่อนได้ที่นี่)

เพราะเนื่องจาก ในคอนเท้นต์นี้ เราจะไม่ขอพูดดีเทลสเป็กรถกันซ้ำ เพื่อไม่ให้เสียเวลาจะเข้าที่ฟีลลิ่งการขี่จริง แบบสัมผัสแรกในโลก ณ วันเปิดตัวกันเลย โดย Route เส้นทางของผม คือ แหวกรถติดในกรุง อาจไม่ได้รีดสมรรถนะเต็ม 100% แต่ก็พอได้ใจความอยู่บ้าง

เริ่มกันที่ท่านั่ง
เริ่มที่เบาะสูง 780 มม. โดยรวมถือว่าใกล้เคียงกับรถ Scooter ทรงนี้ แต่ว่าสูงกว่า Lead ถึง 20 มม. อย่างไรก็ดีรถ Scooter ที่มีช่องเปิดตรงกลาง Floorboard มันไม่ค่อยมีปัญหากับคนสรีระไม่สูงมากอยู่แล้ว เพราะสามารถหย่อนก้นลงมาหน่อยได้

ขณะที่ นน. 120 กก. ในนรุ่น ABS (CBS 118 กก.) เทียบกับ Lead ที่หนัก 113 กก. จะพบว่า พอเข็นรถแล้ว มันหนักกว่า Lead ชัดเจน แต่ทว่า พอได้ลองขี่จริง
ผมรู้สึกว่ามันขี่ได้ง่าย และให้ภาพรวมการคอนโทรลที่ดีกว่า เพราะแม้ Lead จะเบากว่าเตี้ยกว่า แต่ช่วงแฮนด์และช่วง Clearance เข่า ก็ดูน้อยกว่าด้วย รวมถึงอาการของช่วงล่าง บาลานซ์ต่างๆ
ซึ่ง GIORNO+ ทำได้ลงตัวกว่า มันจึงยังให้ความมั่นใจในการคอนโทรลได้ดี และคล่องตัวมุดรถติดได้ง่าย แต่กระจกอาจจะมีระยะเดียวกับกระจกรถยนต์ แต่โยกนิดหน่อยก็ผ่านได้แล้ว
และอีกข้อดี คือ ถังน้ำมันอยู่ด้านหน้าแบบ Lead จึงทำให้เวลาเติมน้ำมันไม่ต้องลงจากรถ สะดวกดีด้วย

เครื่องยนต์ eSP+ 125
เครื่องยนต์ Lead125 แต่ทาง Honda ได้อธิบายว่ามีการปรับปรุงมาตรฐานไอเสีย และปรับจูนใหม่ ให้มันแรงยิ่งขึ้น

จากการขี่จริงผมพบว่า จังหวะเปิดคันเร่งช่วงแรกเหมือนหนืดๆนิด แต่พอถึงจุดนึง ผมแอบรู้สึกว่าบิดแล้วดูพุ่ง มีแรงดึงดีกว่า
ถ้าถามว่าอัตราเร่งมันต่างกันกับ Lead มากไหม ส่วนตัวผมยังคิดว่าไม่ต่างมากนัก เพราะคันนี้ หนักขึ้น และล้อขอบ 12″
อย่างไรก็ดีผมมองว่า อัตราเร่งกับการใช้งานในเมือง เดิมๆ ก็ให้จังหวะเร่งแซงที่ ok แล้ว ส่วนความเร็วปลาย ผมไม่ได้ลอง เพราะว่าขี่ในเมืองรถติด ได้ชู้ทลงสะพาน ไหลได้บนหน้าปัดประมาณ 111kmph ต้องยกก่อน เอาเป็นว่าถ้ามีโอกาสเราจะไว้มาทดสอบ 0-TopSpeed Test ให้ได้รับชมกันอีกที

ส่วนตัวแล้วผมบอกเลยว่า เครื่องบล็อก 4 วาล์ว นี้ เดิมๆ ก็ให้อัตราเร่งที่ ok แล้ว และปลายเมื่อเทียบกับไซส์ทรงรถ ก็ถือว่าเหมาะสมแล้ว ไม่ใช่ทรงซิ่ง
แต่มันก็สามารถโมดิฟายต่อยอดได้สบายๆ เพราะ Lead ก็มีหลาย Stage ตั้งแต่ทำชุดไล่ข้าง, จนถึงขนาดทำลูก ก็มีสูตรสำเร็จมาแล้ว

ระบบกันสะเทือน
ด้านหน้าโช้กหัวตั้ง ด้านหลังโช้กเดี่ยววางเยื้อง
โดยปกติแล้ว การวางแบบ Unit Swing ในรถโครงเล็ก เพื่อเน้นความเบา ใช้ชิ้นส่วนน้อยๆ แต่มักจะเจอข้อเสีย คือ มันไม่ค่อยเวิร์คในเรื่องของการซับแรง
แต่สำหรับ GIORNO+ ถือว่าทำได้ดีกว่าที่ผมคาดคิด เนื่องจากขี่ City Ride และเจอพวกถนนที่ไม่เรียบ หลุมฝาท่อ โช้กทรงนี้มักเจออาการดีดกระแทกแต่ทว่า
GIORNO+ นั้นซับแรงค่อนข้างดีเลย ผมนั่งหลังตรง ไม่ต้องยกก้นก็ยังรู้สึกชิลๆ ไม่มีปวดหลัง

นอกจากนั้นช่วงหน้าผมได้มีจังหวะกดความเร็วขาลงสะพาน คือ Lead125 จะพบอาการหน้าเบา ส่ายนิดๆ ต้องทำให้ตั้งมั่นประคองแฮนด์
แต่ GIORNO+ ไม่เจออาการนั้น

เอาเป็นว่าขี่ใช้งานในเมืองทั่วๆไป ไม่ใช่สาย Hardcore ผมว่า เดิมก็เพียงพอแล้ว ยกเว้นอยากได้เท่ และเฟิร์มอีก ก็โช้กแต่งโลด

ระบบเบรก
ในรุ่น ABS จะให้ปั๊มเบรกหน้า Nissin 2pots ทางด้านหลังยังเป็นดรัมอยู่
แน่นอนว่า 2pots ก็จะต้องเบรกดีกว่า 1pot สามารถชะลอความเร็วได้พอดีกับสมรรถนะของรถที่มี และสามารถกดไล่น้ำหนักลงได้อย่างเหมาะสม

ส่วนการทำงานของระบบ ABS ตอนกำเบรกหนักๆ ก็ยังพอมีดิ้นๆ สู้นิ้วมือยู่บ้าง
คือ +5,000- ได้ระบบ ABS และปั๊ม 2pot ผมว่า จัดตัว ABS เลยดีกว่า

สรุป รีวิว GIORNO+ ครั้งแรกในโลก สัมผัสแบบขี่สั้นๆ ในเมืองรถติดๆ ก็พอจับใจความได้ว่ามันเป็นรถที่ขี่ดีกว่า LEAD125 พอสมควร
ในขณะที่ งานดีไซน์ ต้องบอกตามตรงว่า แล้วแต่คนชอบ
แต่ฟังก์ชั่น ถือว่าครบเครื่อง ทั้ง Keyless, ABS, USB Port, Ubox จุใหญ่ 30 ลิตร, เก๊ะลิ้นชักหน้าใส่ Smartphone และ กระเป๋าสตางค์ได้
ถือได้ว่าเป็นอีกตัวเลือก สำหรับคนที่อยากหารถ AT ใช้งานสบายๆ ในเมือง และมีความอเนกประสงค์ ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

GIORNO+ STD ราคา 61,900- มี 3 สี เขียว, เหลือง, ฟ้า, ขาว โดยจะมากับเบาะสีดำ
GIORNO+ ABS ราคา 66,900- มี 3 สี แดง, ขาว, เทา โดยจะมากับเบาะน้ำตาล