หากใครที่เป็นแฟนๆ สายคลาสสิคสูบ V อย่าง Moto Guzzi คงยังจำกันได้ ที่งาน EICMA2017 เกือบๆ 2 ปีที่แล้ว ทางค่ายนกอินทรีย์ ได้ทำการเปิดตัวรถ Concept รถ ADV Bike ออกมา โดยใช้ชื่อ V85 Concept
ก่อนที่ในปีถัดมา จะเปิดตัว Moto Guzzi V85TT ออกมาในงาน INTERMOT2018 กับโฉมตัวขายจริง
สำหรับประเทศไทย ในงาน มอเตอร์โชว์ 2019 [BIMS2019] ที่ผ่านมาทาง Vespiario ตัวแทนจำหน่าย Moto Guzzi ในประเทศไทย ก็ได้ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมวางจำหน่ายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทาง Vespiario ประเทศไทย ได้เชิญทางทีมงาน MotoRival เราไปเปิดประสบการณ์การขับขี่คลาสสิก เอ็นดูโร่ กับ Moto Guzzi V85TT ใหม่ The Spirit Of Exploration ในรูปแบบ Regional Press Ride และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามารับชมกันเลยครับ
สำหรับ Moto Guzzi V85TT คันนี้ ทาง ค่ายนิยามว่ามันคือ รถคลาสสิค อเนกประสงค์ (Classic Enduro) ทำตลาดในรถขนาดกลาง (750-1,000cc)
ทำไมถึงนิยามว่ามันเป็น Classic Enduro ล่ะ? ก่อนอื่นก็ต้องมามองรถในตลาดกันก่อน
กลุ่มรถ Crossover จะใช้ล้ออัลลอย ขนาด 17″ ทั้งหน้า-หลัง ซึ่งจะเหมาะกับการใช้ในเมือง แต่ไม่เหมาะกับ Off-Road
กลุ่มรถ All Purpose Enduro ใช้ล้ออัลลอย ขนาด 19″/17″ หน้า/หลัง ข้อดี คือ อเนกประสงค์ แต่ยังขาดคาแรกเตอร์
กลุ่มรถ Scrambler จะใช้ล้อซี่ลวด ขนาด 19″/17″ หน้า/หลัง ข้อดี คือ มีคาแรกเตอร์เจาะจง แต่ไม่เหมาะกับเดินทางไกล
กลุ่มรถ Adventure จะใช้ล้อซี่ลวด ขนาด 21″/18″ หน้า/หลัง ข้อดี คือ เหมาะกับทาง Off-Road แต่ขาดความสบายในเมือง
ดังนั้น Moto Guzzi จึง วาง V85TT ในกลุ่มรถ Classic Enduro ที่ รวมเอาข้อดี นั่นก็คือ มีรูปแบบที่เหมาะกับการใช้งานในเมือง เดินทางท่องเที่ยว ลุยทาง Off-Road รวมถึงมีคาแรกเตอร์ที่หลากหลาย นั่นเอง
นอกจากนี้ Moto Guzzi ยังได้บอกถึง จุดเด่น อื่นๆอีก ได้แก่
– การเป็นรถ Enduro คันเดียวที่ใช้การส่งกำลังแบบเพลาขับ
– ความจุถังน้ำมันมากกว่าใครเพื่อน ในคลาสเดียวกันที่ 23 ลิตร
– มีโลโก้แบรนด์ อยู่ในโคมเป็นไฟ DRL
– สไคล์รถแบบ Classic Enduro
เอาล่ะขอมาเข้าเรื่องที่รูปลักษณ์กันเลยดีกว่าครับ
สำหรับสไตล์ของตัวรถนั้น เป็นแบบรถแข่งทางฝุ่น Dakar Rally ยุค 90′
ชุดไฟหน้า เป็นแบบ Full LED ทรงกลมคู่ มีโลโก้นกอินทรีย์เป็นไฟ DRL อยู่ตรงกลาง
ไฟท้าย ทรงกลมคู่ตัดเฉียง ได้แรงบรรดาลใจมาจาก ท่อของเครื่องบินไอพ่น
ไฟเลี้ยวแบบ LED ทรงรีเรียวเล็ก ทั้งหน้า-หลัง
เฟรมสีแดง (ในรถตัวถังสีทูโทน) และ วินชิลด์หน้าสี Smoke ทรงไม่สูงมาก
ซับเฟรมท้าย จะเชื่อมต่อออกมาเป็น แร็คท้าย และมือจับหลังในตัว
ใช้งานสะดวก พร้อมรัดสัมภาระสำหรับเดินทาง
ท่อไอเสียยกสูง ออกทางขวา แบบพร้อมลุย
ซุ่มเสียงออกทุ้มๆ ไม่ดังแผดหู
มีการ์ดแฮนด์ติดตั้งมาให้ พร้อมลุยกันกระแทก
เช่นเดียวกับการ์ดกันกระแทกเครื่องด้านล่าง
เบาะนั่งตอนเดียว แบ่ง 2 Step ผู้ขี่ขนาดยาว และมี Lumbar Support
เบาะคนซ้อนขนาดค่อนข้างเล็กแต่ไม่แคบมาก
ล้อเป็นแบบซี่ลวด ด้านหน้าขอบ 19″ สวมยางไซส์ 110/80 และหลังขอบ 17″ สวมยางไซส์ 150/70
ส่วนยางที่ให้จะแตกต่างกัน ในสีโมโนโทน จะให้ยางทางเรียบ Metzeler Tourance Next
สำหรับสีทูโทน ให้ยาง Dual Purpose Michelin Anakee Adventure
ชุดมาตรวัดดิจิตอล หน้าจอสี TFT ขนาด 4.3 นิ้ว ที่เรียกได้ว่าถอดแบบมาจาก Superbike ในร่มโพธิ์เดียวกันอย่าง Aprilia
ซึ่งแสดงผลข้อมูลครบครัน รวมถึงเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ Smartphone ผ่านแอปพลิเคชัน MOTO GUZZI MIA สามารถฟังเพลง โทรออกและรับสายโทรศัพท์ ใช้ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ เป็นต้น
ภายในปรับเซ็ทโหมดขับขี่ได้ 3 แบบ
Road คันเร่งตอบสนองแบบทันที, MGCT (TCS) ทำงานปานกลาง, ABS เปิด ทั้งหน้า-หลัง
Rain คันเร่งจะตอบสนองน่มนวล, MGCT จะทำงานมากขึ้น เพื่อความปลอดภัย
Off-Road คันเร่งจะตอบตามความเหมาะสม และเพิ่มแรง Engine Brake, MGCT ทำงานในระดับต่ำ และ จะปิด ABS ที่ล้อหลัง
ทางฝั่งขวาของหน้าจอ มีช่องจ่ายไฟ USB
ชุดสวิทช์ฝั่งซ้าย จะมีปุ่ม Cruise Control เพิ่มเข้ามา
สวิทช์ขวา มีปุ่ม ไฟฉุกเฉิน, Engine Start, Run-Off และ Mode
มิติรถ
ความสูงเบาะ 830 มม.
นน.สุทธิ 229 กก. (นน. Dry 208 กก.)
ความจุถังน้ำมัน 21 ลิตร (ถังสำรอง 5 ลิตร)
เคลมอัตราสิ้นเปลือง 20.4 กม./ลิตร ถังหนึ่งวิ่งได้ มากกว่า 400 กม.
ด้านท่านั่งและการควบคุม
V85TT กับน้ำหนักตัว 229 กก. แม้จะดูหนัก แต่ น้ำหนักทางด้านหน้ารถค่อนข้างเบา จึงทำให้การพลิกรถค่อนข้างคล่องตัวกว่าที่คิดดีทีเดียว
ตัวเบาะสูง 830 มม. ถือว่ากำลังดี ไม่สูงไม่เตี้ย โดย Moto Guzzi ได้บอกว่าออกแบบมารับรองกับผู้ขี่ส่วนสูงตั้งแต่ 160 – 190 ซม. ให้นั่งได้อย่าง Ergonomic
ตำแหน่งแฮนด์บาร์ ค่อนข้างยาว ทรงกลางๆ ไม่ถึงกับยกสูงมาก ขี่ยาวๆ ไม่เมื่อยช่วงไหล่ และการคอนโทรลรถทำได้ค่อนข้างสบาย
สำหรับทรวดทรงถังน้ำมัน พบว่านั่งหนีบเข่าได้ค่อนข้างพอดี หัวเข่าไม่ติดมุมเหลี่ยมสันของตัวถัง
เครื่องยนต์ V Twin วางขวาง 90 องศา ระบายความร้อนด้วยอากาศ ความจุ 853cc
มีกำลัง 80 hp@7,750rpm และ แรงบิด 80Nm@5,000rpm ส่งกำลังด้วยเพลา ผ่านคันเร่งไฟฟ้า RbW
ทาง Moto Guzzi บอกว่ามีข้อดีในเรื่องการดูแลรักษาที่สะดวกและง่าย ไม่ยุ่งยากจุกจิก เหมือนโซ่ สเตอร์
นอกจากนี้มีการปรับปรุงชิ้นส่วนในระบบส่งกำลัง อาทิ วัสดุคลัทช์แบบเสริมแรงพร้อมแผ่นคลัทช์ใหม่ เพลาคลัทช์แบบมีแดมเปอร์ จึงทำให้การส่งกำลังนุ่มนวล
ซึ่งในการใช้งานจริง เราพบว่า คลัทช์ค่อนข้างนิ่มเบามือ การหาตำแหน่งเกียร์ว่าง ทำได้ง่าย เข้าเกียร์ค่อนข้างราบลื่น ไม่แข็งไม่ติดขัด เข้ายากแต่อย่างใด
แต่การที่ Moto Guzzi ใช้เพลาขับ ไม่ได้ใช้โซ่ นั่นทำให้ แม้ส่งกำลังจะสมูทดีทีเดียว และอย่างที่บอกไปเป็นเอกลักษณ์ของ Moto Guzzi อีกทั้งไม่ต้อง Maintainance วุ่นวายด้วย
นอกจากนี้ เอกลักษณ์ของเครื่อง V แบบวางขวาง เยื้องออกมาข้างลำตัวรถ ทำให้เวลาเลี้ยวโค้ง รถพับลงง่ายมาก ขี่แรกๆ ยังไม่ชินอาจเหวอๆ นิดหน่อย เวลาเทโค้งจึงควร ทิ่มไปให้ลึก แบบเปิดวงเลี้ยว และพับรถลงไปทีเดียว ซึ่งดูจะช่วยให้เลี้ยวรถได้สมูทยิ่งขึ้น และนอกจากนี้ จังหวะเดินคันเร่งออกโค้ง ก็ควรรอพ้นตั้งแต่ Apex ออกไป เพราะสไตล์เครื่อง V ขวาง 90 องศา นี้ เมื่อเปิดคันเร่งแรง จะพบว่ารถกลับมาตั้งค่อนข้างง่าย ดังนั้นหากยังอยู่ในช่วงเลี้ยวโค้งและต้องเดินคันเร่ง ควรจะค่อยๆ เดินให้เนียนกันเสียหน่อย
ขณะที่ เครื่องยนต์ สูบ V วางขวางนั้น อาจจะพบว่ามีอาการสั่นตั้งแต่ ติดเครื่องยนต์หน่อยตามสไตล์ของมัน แต่โดยรวมการขับขี่ก็ไม่ได้ สั่นจนทำให้มือชา หรือ อึดอัดแต่อย่างใด
ภาพรวมเครื่องบล็อกนี้ อาจจะไม่ได้แรงอะไรมากมาย ระดับ 80 hp แต่แรงบิดที่มีให้ใช้ตั้งแต่รอบต่ำ และมาแบบ Flat Torque ช่วง 4,000-7,000rpm ทำให้ ตัวรถดูมีพละกำลังมาให้ใช้ต่อเนื่องในทุกๆย่าน ซึ่งเราพบว่าเพียงพอสำหรับขี่เดินทางไกล เร่งแซงรถ หรือ จะไต่ขึ้นทางชันบนภูเขา ก็ถือว่าทำได้อย่างเหมาะสม
สำหรับความเร็วปลาย V85TT คันนี้ทำได้มากกว่า 180 กม./ชม. แต่ด้วยความที่เราได้ทดสอบคันที่เป็นยาง Dual Purpose จึงพบว่า ความเร็วในการเดินทางที่ไม่ตึงเครียดเกินไป จะเป็นช่วงไม่เกิน 130 กม./ชม. เนื่องจาก ล้อซี่ลวดขนาด 19″ ร่วมกับยางแบบกึ่งหนาม จึงอาจทำให้การคอนโทรลรถที่ความเร็วสูง ดูหน้าเบาไปหน่อย รวมไปถึงวินชิลด์ ที่ไม่สูงมาก ลมจึงปะทะลำตัวเข้ามาพอสมควร
สำหรับอัตราสิ้นเปลืองจริง ที่ทริปนี้ กว่า 200 กม. ขี่กันแบบ ยัดตลอดทาง ทั้ง Hi Speed และ ขึ้น-ลง เขา เราได้ตัวเลข 21.3 กม./ลิตร ถือว่าค่อนข้างประทับใจเลย เพราะ ได้ตัวเลขมากกว่าที่เคลม ทั้งที่ขี่กันแบบเกินคนปกติทั่วไป ดังนั้นถ้าขี่กันแบบ ชิลๆ เดินทางไปเรื่อยๆ น่าจะมีตัวเลข ระดับ 24 กม./ลิตร ให้เห็นกันได้ไม่ยาก
ระบบกันสะเทือน
โช้กหน้า USD จาก KYB ขนาดแกน 41 มม. โดยสามารถขันปรับ พรีโหลด ได้ที่แกนโช้กฝั่งขวาด้านบน
โช้กหลังเดี่ยว มีซับแทงค์ วางเยื้องบนเฟรมทางฝั่งขวา สามารถปรับพรีโหลด และ รีบาวด์ได้ ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มคู่
ด้วยสไตล์ที่ออกมาแนว Enduro การเซ็ท แบบเดิมๆ จึงดูออกไปทางนิ่มนวล พร้อมรองรับแรงกระแทกมื่อต้องลุย Enduro ได้ดี ซึ่งถ้าเน้นขี่ทางเรียบก็สามารถมาปรับพรีโหลด เพิ่ม รวมถึงจังหวะ Rebound คืนตัวให้เหมาะสม ก็จะช่วยให้การขี่ทำความเร็วดูดีขึ้นอีก
ระบบเบรก
ด้านหน้า Twin Disc ขนาดจาน 320 มม. ปั๊มเบรก Radial Mount 4 ลูกสูบ จาก Brembo
ด้านหลัง จานเดี่ยว ขนาด 260 มม. ปั๊มเบรก 2 ลูกสูบ
โดยรวมแล้วการทำงานของระบบเบรก ถือว่าทำงานได้ดีเหมาะสม มีพละกำลังในการชะลอความเร็วหยุดรถได้ แบบไม่พบปัญหา ตัวปั๊มเบรกหลัง ดูเรียบๆ แต่การใช้งานจริงถือว่าผ่าน ABS ทำงานได้ค่อนข้างละเอียดดีทีเดียว
สรุป รีวิว Moto Guzzi V85TT กับรถ คลาสสิค เอ็นดูโร สไตล์ ดาการ์แรลลี่ ซึ่งที่จริง มันคือรถที่จะมาตอบโจทย์ ผู้ที่กำลังมองหารถ ADV Bike พร้อมลุย แก่ผู้ที่ต้องการสไตล์ เอกลักษณ์ที่แตกต่าง ทั้งรูปทรงรถยุค 90″ แต่แฝงด้วยความทันสมัย ขี่แล้วหล่อ ไม่เหมือนใคร รวมถึงเอกลักษณ์ ของขุมพลัง V Twin วาง 90 และ เพลาขับ ยิ่งสร้างความ Unique ได้เป็นอย่างดี จะลุยก็ได้ เดินทางไกลก็ดี ขี่ในเมืองก็หล่อเอาเรื่อง V85TT ถือเป็นรถที่ครบเครื่องตอบโจทย์การใช้งานได้ครอบคลุม
และราคา ระดับ 7 แสนกว่าๆ ได้รถ Made in Italy ทั้งคัน ผมว่าราคานี้ไม่แพงนะ
ถ้าเน้นทางดำ ก็เลือกตัวสีโมโนโทน ยางทางเรียบ ถ้าจะลุยด้วยก็สีทูโทนไป หรือถ้าใครชอบสีไหน และอยากจะไปเปลี่ยนยางกันเองอันนี้ก็แล้วแต่สะดวกเลยครับผม
ทั้งนี้ ผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่สไตล์คลาสสิกเอ็นดูโร่ไม่ควรพลาด กับ “โมโต กุซซี่ วี 85 ทีที (MOTO GUZZI V85 TT)” มีวางจำหน่ายทั้งสีพิเศษกับ Moto Guzzi V85 TT Evocative Graphics ได้แก่
สี Giallo Sahara และ สี Rosso Kalahari ราคา 779,000 บาท
และสี Grigio Atacama ราคา 759,900 บาท
สอบถามหรือทดลองขี่ได้ที่ Motoplex Bangkok โครงการ เอ สแควร์ สุขุมวิท 26
ขอขอบคุณ Vespiario ประเทศไทย สำหรับ ประสบการณ์การขับขี่คลาสสิก เอ็นดูโร่ กับ Moto Guzzi V85TT ในครั้งนี้ครับ
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver
สุภิญญา ชำนาญกุล Photo + VDO
อ่าน รีวิว อื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าวสาร Moto Guzzi เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ