รีวิว Suzuki Burgman 400 ไม่ได้มีดีแค่ตัวเลขซีซี กับ Made in Japan เท่านั้น ฟีลลิ่งคอนโทรล น้องๆ Sportbike

0

ในช่วงปีหลังๆมานี้ ตลาด Big Scooter คลาส 300 ถือว่าโตขึ้นมาก จนเมื่อปีที่ผ่านมา Thai Suzuki ได้นำเจ้า Burgman 400 นำเข้ามาทั้งคันจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อมอบทางเลือกเพิ่มเติมให้กับผู้บริโภค โดยการอัพ cc และความจุหนีขึ้นไป
นอกจากตัวเลข cc ที่มากกว่า Scooter ค่ายญี่ปุ่น กับการประกอบ Made in Japan ทั้งคันแล้ว จะมีอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง เรามาดู รีวิว Suzuki Burgman 400 กันเลยครับ

Review-Suzuki-Burgman-400_01
เริ่มที่
ชุดโคมไฟคู่หน้า Multi Reflector Full LED มาพร้อมไฟหรี่ LED ล้อมรอบ
ไฟเลี้ยวอยู่ทางด้านข้างชุดแฟริ่งหน้า

Review-Suzuki-Burgman-400_13
ไฟท้าย LED ทรงกลม แยกฝั่งละ 4 ดวง มีชุดไฟเลี้ยวอยู่ทางด้านใต้

Review-Suzuki-Burgman-400_03
วินชิลด์ขนาดใหญ่ และแข็งแรง ไม่สามารถปรับระดับได้ ระดับดูดีไม่บดบังสายตา ช่วยลดลมปะทะลำตัวได้ดี แต่ถ้าผู้ขี่ที่ตัวสูงยาว อาจจะพบว่าลมจะยังปะทะเข้าช่วงศรีษะอยู่บ้าง

Review-Suzuki-Burgman-400_07
พลาสติกครอบมาตรวัดเป็นลายเคฟล่า

Review-Suzuki-Burgman-400_08
เช่นดียวกับ การ์ดกันร้อนท่อไอเสีย เพิ่มลุคสปอร์ต

Review-Suzuki-Burgman-400-Drawer
ลิ้นชักหน้ามีตัวล็อก หมดปัญหาเก๊ะเด้งออกมาระหว่างขี่
ฝั่งขวาจุ 3.5 ลิตร มาพร้อมช่องจ่ายไฟ 12V
ฝั่งซ้ายจุ 2.8 ลิตร ขนาดเล็กกว่าเนื่องจาก เสียพื้นที่จากตัวแบตเตอรี่

Review-Suzuki-Burgman-400_06
มาตรวัด เป็นแบบเข็มทั้งความเร็ว และ วัดรอบเครื่อง
ตรงกลางเป็นจอดิจิตอลแสดงผล Trip A, B, Odo รวม ทำใจได้เลย สามารถดูอัตราสิ้นเปลืองได้ และบอกอุณหภูมิ
โดยตัวหน้าจอ จะมีไฟ Eco ติดขึ้นเมื่อเวลาเราขับขี่แบบประหยัด

Review-Suzuki-Burgman-400_09
Burgman 400 มีการติดตั้ง เบรกมือ เอาไว้ช่วยเวลาเราต้องจอดรถบนทางชัน ไม่ต้องมากำเบรกให้เมื่อยนิ้ว

Review-Suzuki-Burgman-400_10
ระบบกุญแจล็อก 2 ชั้น พร้อมกุญแจนิรภัย Immobilizer

Review-Suzuki-Burgman-400_15
เบาะนั่ง Dual Seat เดินด้านน้ำเงิน มี Back Support ซึ่งสามารถปรับเลื่อนมาด้านหน้าได้ 2 ระดับ ที่ระยะ 15 มม.และ 30 มม. โดยการเปิดเบาะ และใช้ชุด 6 เหลี่ยมขัน

Review-Suzuki-Burgman-400_20
U-box ความจุ 42 ลิตร
ถ้าไม่ใช่หมวกพวก Full Face ก็ยังสามารถใส่เข้าไปได้ 2 ใบ
แต่ถ้าเป็น Full Face จะได้ที่ 1 ใบ และมีพื้นที่ให้วางของได้จุกจิกอีกประมาณหนึ่ง

Review-Suzuki-Burgman-400_19
นอกจากนี้ Suzuki ยังใส่ใจรายละเอียด โดยมีการออกแบบพลาสติกครอบชุดเครื่องมือเอาไว้ให้สวยงามอีกด้วย

Review-Suzuki-Burgman-400_Cable-Lock
ทางด้านขวาของตัวรถ บริเวณหลัง Floor Board มีการออกแบบช่องไว้คล้องสายล็อกรถ

Review-Suzuki-Burgman-400-F-R
มิติ
กว้างxยาวxสูง= 765×2,235×1350 มม.
ความสูงเบาะ 755 มม.
น้ำหนัก 215 กก. (Wet Weight)

Review-Suzuki-Burgman-400_17
ถังน้ำมันจุ 13.5 ลิตร ฝาถังต้องใช้กุญแจไข

Review-Suzuki-Burgman-400_FrontRight
ท่านั่ง
เริ่มที่ น้ำหนักตัว 215 กก. นี่ เวลาเข็นแล้ว รู้สึกเลยว่าหนักกว่าเพื่อนๆ ในคลาสอยู่พอสมควร ตั้งขาคู่หลังก็จะต้องออกแรงกันมากเสียหน่อย
แต่เวลาขี่ออกไปแล้ว ถือว่าไม่แตกต่างเลย เพราะการคอนโทรลรถทำได้ดี

Review-Suzuki-Burgman-400_12
ด้วยเบาะนั่งที่ค่อนข้างเตี้ยกว่าเพื่อนๆในคลาส ยังไม่พอเท่านั้น ตัวเบาะนั่งที่ค่อนข้างบีบแคบ รวมไปถึงช่วง Floor Board ที่มีการดีไซน์ให้เว้าหลบเข้าไป ทำให้ขาเราไม่ต้องแบะกางออกเยอะ

Review-Suzuki-Burgman-400_Ride-Position_2
นั่นจึงชวยให้สรีระคนเอเชียอย่างเราๆ เรียกได้ว่า “ขาถึงพึ่งได้” เพราะสามารถเหยียบได้เต็มเท้า
ซึ่งจะแตกต่างจากเพื่อนๆ ในคลาสคันอื่นๆ ที่เบาะสูงโด่งจนต้องไปโหลดโช้กหน้าลงกัน

Review-Suzuki-Burgman-400_18
ตัวเบาะ ยังโดดเด่นด้วยการมี Back Support ซึ่งถือว่ากระชับดีมาก และตามที่บอกไปว่า Suzuki ใส่ใจสรีระคนเอเชียอย่างเราๆ มันปรับระดับเลื่อนเข้ามาได้อีก 2 ระดับ
ทำให้เวลาขี่เดินทางไกลๆ นั่งเหยียดเท้าได้สบายๆ และยังมี Back Support มาคอยบล็อกตำแหน่งของสะโพกเรา ช่วยลดอาการปวดหลังลงได้

Review-Suzuki-Burgman-400_Ride-Position_3
ขณะที่ตำแหน่งวางเท้า Burgman 400 ดูจะเอื้อต่อการนั่งเหยียดเท้าได้ดี เพราะเวลาเรานั่งร่นไปด้านหลังติด Back Support ตำแหน่งวางเท้าจะรู้สึกว่าเหยียดได้องศาพอดี นั่งเหยียดขาได้ไม่เมื่อย

Review-Suzuki-Burgman-400_16
ตำแหน่งแฮนด์บาร์ถือว่า ปกติใกล้เคียงกับ Scooter คันอื่นๆ แต่ด้วยความที่ตำแหน่งเบาะนั่งที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้เวลานั่งแล้ว จะรู้สึกจม ทำให้มีความรู้สึกว่าต้องยกไหล่เสียหน่อย

สำหรับการขี่รถติดในเมือง ตำแหน่งแฮนด์จะสูงกว่ารถเก๋งทั่วไปอยู่เล็กน้อยทำให้เวลาขี่มุดช่องจราจรยังพอผ่านไปได้ ส่วนกระจกมองข้างจะอยู่ระดับเดียวกับพวก กระบะ และรถตู้ซึ่งก็ต้องโยกหลบกันสักเล็กน้อย

Review-Suzuki-Burgman-400_14
ส่วนความยาวลำตัวที่ เรียกได้ว่า ทะลุ 2.2 ม. นี่ยาวเอาเรื่อง มันยาวกว่าเพื่อนๆในคล่าสอย่างเห็นได้ชัด แต่ช่วงบั้นท้ายที่แฟริ่งดีไซน์ ให้เรียวแหลม ทำให้การลัดเลาะไม่ต้องพะวงตูดจะไปติด หรือ เฉี่ยวชนรถคันอื่นแต่อย่างใด

Review-Suzuki-Burgman-400_21
มาที่ตำแหน่งผู้ซ้อน แม้เบาะผู้ขี่จะเตี้ย แต่เบาะของผู้ซ้อนกลับสูง ทำให้ผู้ซ้อนอาจจะต้องก้าวเท้าขึ้นคร่อมกว้างหน่อย หรือ อาจจะใช้วิธีขึ้นจากตรงถังน้ำมันไปก็ง่ายขึ้น

Review-Suzuki-Burgman-400_11
ตัวพักเท้าดูค่อนข้างหนา ทำให้เหยียบได้เต็มฝ่าเท้า และมีแง่งหยิบกางออกได้ง่าย

Review-Suzuki-Burgman-400_Ride-Position_1
ตัวเบาะผู้ซ้อน จะไม่กว้างเหมือนกัน คู่แข่งรายอื่น แต่สำหรับผม และผู้ที่มีสรีระไม่ใหญ่มากนัก น่าจะชอบเบาะตัวนี้ เพราะมันมีทรวดทรงที่โค้งบล็อกตำแหน่งท่านั่งทำให้ก้นไม่ไหล นั่งแล้วกระชับ

Review-Suzuki-Burgman-400_4
ขุมพลังเครื่องยนต์ ความจุ 399.9cc เรียกได้ว่าให้มาเกือบเต็มตัวเลข 400 มอบกำลังที่ 31 แรงม้า@6,300rpm และแรงบิดสูงสุด 36 นิวตันเมตร@4,800rpm ส่งกำลังด้วยสายพาน CVT

Review-Suzuki-Burgman-400_2
แน่นอนว่าตัวเลขทั้งแรงม้า และแรงบิดระดับนี้ มันสูงกว่าเพื่อนๆ ในคลาส โดยรวมจึงมอบอัตราเร่งที่ดีขี่สนุก บิดติดมือช่วงออกตัว ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะได้อานิสงค์จากการใช้วงล้อ 13″ ทางด้านหลังด้วย ซึ่งก็จะต้องแลกมากับปลายอาจจะไม่ได้สูงนัก
สำหรับหลายคนที่คาดหวังความแรงและชอบเอาไปเปรียบเทียบ ผมต้องชี้แจงก่อนว่า เนื่องด้วยน้ำหนักตัวของ Burgman มันหนักกว่าคันอื่นอยู่พอสมควรทำให้ อัตราส่วนแรงม้า/น้ำหนัก อาจจะไม่ได้ดีที่สุด

Review-Suzuki-Burgman-400_1
ขณะที่การขี่เดินทางทัวริ่ง ก็ยังทำได้ดี จากการทดสอบโดยทีมงานเราทำความเร็วปลายได้แถวๆ 140 กม./ชม. นิดๆ ซึ่งรอบเครื่องนั้นแตะ Redline ไปแล้ว
ถ้าเทียบว่าใช้ขี่เดินทางไกล แบบสกู๊ตเตอร์ทัวริ่ง สำหรับผมถือว่าพอเพียงแล้ว เพราะถ้าขี่ยืนพื้นสักความเร็ว 120 ช่วย Take ตัวเร่งแซงไปยันความเร็ว 140 กม./ชม. ในอัตราเร่งช่วงนี้ก็ยังถือว่ามีกำลังให้ใช้
หากเพื่อนๆ อยากได้ปลายไหลกว่านี้ อาจจะต้องเปลี่ยนน้ำหนักของเม็ดตุ้มแรงเหวี่ยงให้มีเม็ดหนักขึ้น เพื่อลดรอบเครื่องลงมา และจะช่วยให้ปลายไหลได้ดียิ่งขึ้น (เม็ดเดิม 20g)

ด้านอัตราสิ้นเปลือง ขี่ใช้งานทั้งในเมือง และวิ่งเส้นวิภาวดียาวๆ ได้ตัวเลขราวๆ 27 กม./ลิตร

Review-Suzuki-Burgman-400_23
มีข้อสังเกตุเล็กน้อย เกี่ยวกับเครื่องบล็อกนี้ นั่นก็คือ ตัวเครื่องอาจจะมีอาการสั่นมากหน่อย เวลาที่เราเปิดคันเร่งหนักๆ

Review-Suzuki-Burgman-400_05
ระบบกันสะเทือน
ด้านหน้า Telescopic (ตะเกียบคู่)

Review-Suzuki-Burgman-400_Rear-Shock
ด้านหลัง ถือเป็นเอกลักษณ์ ที่โดดเด่นกว่าใคร กับการใช้ โช้กเดี่ยว มีกระเดื่องทดแรง วางนอนตำแหน่งอยู่ใต้ท้องรถ ซึ่งปรับ Preload ได้ 7 ระดับ

Review-Suzuki-Burgman-400_5
จากการใช้งานแบบเซ็ทติ้งเดิมๆ จากโรงงาน ถือว่าทำได้ประทับใจมากๆ
หลายคนที่ใช้สกู๊ตเตอร์ คลาส 300 เป็นอะไรที่ เรียกได้ว่าพบปัญหา กับเกือบทุกคนกับระบบช่วงล่าง ที่ต้องไปเซ็ท หรือ โหลดโช้กหน้า รวมไปถึงเปลี่ยนโช้กหลัง

Review-Suzuki-Burgman-400-Right-Back
แต่ Burgman 400 คันนี้ สำหรับผมถือว่าทำได้ดีมากๆ ค่าโช้กหลังที่ระดับ 3 จากโรงงาน ขี่คนเดียว หรือ ซ้อน 2 ที่ผู้โดยสารไม่หนักมาก
มันเฟิร์มในระดับที่เหมาะกับการเป็น Scooter ไม่ได้แน่นหรือแข็งแบบพวก Sportbike แต่ ซับแรงสะเทือนได้ดี โดยเฉพาะเวลาเราขี่ผ่านฝาท่อ
หรือ ลูกระนาด รวมไปถึงพื้นผิวสุดแย่ ใน กทม. ถ้าเป็นโช้กหลังคู่ ผมคงต้องบอกว่า ดีดย้วย แข็งกระด้าง แต่ Burgman นี่ ให้ฟีลลิ่งอารมณ์เหมือนขี่ Bigbike
รวมไปถึงน้ำหนักรถที่มาก ร่วมกับระยะฐานล้อที่กว้างกว่าเพื่อน ทำให้การเข้าโค้งทำได้ดีมั่นคง

Review-Suzuki-Burgman-400_24
ส่วนล้ออัลลอย ด้านหลัง ให้ขนาดเล็กกว่าเพื่อน 13″ ทำให้การขี่พลิกรถนั้นทำได้ง่าย โดยไซส์ยางจะเป็น 150/70-13

ด้านหน้าก็เป็นไซส์มาตรฐาน คือ 120/70-15

Review-Suzuki-Burgman-400_04
ระบบเบรก ABS
ด้านหน้า ทวินดิสก์ ขนาด 260 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์เบรก 2 ลูกสูบ

Review-Suzuki-Burgman-400_22
ด้านหลัง ขนาด 210 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์เบรก 1 ลูกสูบ โดยจะมีสายสลิงที่โยงมาจากตำแหน่งเบรกมือ

จากการใช้งานแน่นอนว่า การที่ให้ด้านหน้าทวินดิสก์ ทำให้ สมรรถนะในการเบรก ชะลอความเร็วทำได้ดีทีเดียว อาจจะไม่ได้เบรกจิกเหมือนพวกรถ Sport แต่การไล่น้ำหนักก็ยังถือว่าทำได้ดี

ขณะที่ระบบ ABS จากการใช้งาน จะพบว่า ทางด้านหลังจะตอบสนองมาไวกว่าทางด้านหน้าอยู่เล็กน้อย

Review-Suzuki-Burgman-400-Cover2
สรุป รีวิว Suzuki Burgman 400 ในครั้งนี้ ถือได้ว่า มันเป็นรถ Big Scooter ที่มีความน่าสนใจไม่น้อย ไม่ใช่เพียงเพราะ มี cc ที่มากกว่า
แต่ด้วยการที่นำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งคัน ทำให้คุณภาพงานโดยรวมก็ดูดี
และด้วยความใส่ใจของ Suzuki ที่เข้าใจสรีระคนเอเชีย มันทำให้ ผู้ขี่ไซส์เอเชียอย่างเราๆ ขี่ได้อย่างมั่นใจ และยังนั่งได้สบาย

ส่วนสมรรถนะในเรื่องของภาพรวมการคอนโทรล ถือว่าทำได้ดีมาก ทั้งระบบเบรก และช่วงล่าง ที่เรียกได้ว่า ไม่ต้องไปอัพเกรดกันเพิ่มเหมือนอย่างค่ายอื่น
โดยเฉพาะฟีลลิ่ง ช่วงล่างที่เรียกได้ว่าน้องๆ BigBike ตระกูล Sport กันเลย

Review-Suzuki-Burgman-400-Cover3
Suzuki Burgman 400 ราคา 2.14 แสนบาท มี 3 สี ดำด้าน, น้ำเงินด้าน และสีขาว

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถไปรับชมตัวจริงได้ที่ Suzuki BigBike ทั่วประเทศ

Review-Suzuki-Burgman-400-Pam
Special Guest ศักรินท์ ไชยกูล, Pantip: ตบจูบ…ตบจูบ

อ่านข่าว Suzuki เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่าน รีวิว อื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ

Share.

About Author

Background EXP in Automotive journalists more than 10 Years Writer & Test Driver @Pantip Garage 2018-Present @9carthai 2015- 2017 @Torque & VIPStyle Magazine 2015 @Autospinn 2012-2015 @GTmania.tv 2009-2010

error: Content is protected !!