สวัสดีครับ คุณผู้ชมทุกท่าน ในวันนี้ ทางทีมงาน MotoRival เราจะขอมารีวิวรถ สกู๊ตเตอร์พรีเมียมจากฝั่งอิตาลีกันบ้าง ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษ เฉลิมฉลองตัวแข่งที่ทาง Vespa สามารถคว้าเรียนทองมาได้ถึง 9 เหรียญ ในการแข่ง Six days trial
นั่นก็คือ รีวิว VESPA SEI GIORNI II EDITION 300 HPE คันนี้
คำว่า “Sei Giorni” มีความหมายว่า 6 วัน และนั่นคือที่มาของเลข 6 บนตัวถังรถ
ที่ด้านหน้าซ้าย และด้านหลังขวา
และอย่างที่บอกว่ามันเป็นรุ่น Limited จึงมีเพลท รันเลข No. บอกลำดับรถด้วยบริเวณเก๊ะลิ้นชักหน้า
นอกจากนี้ SEI GIORNI II EDITION ยังเน้นความดุดันด้วยการตกแต่งสีดำด้านที่บังแตร
ฝาครอบท่อไอเสีย และล้อแม็ก ก็เป็นสีดำตัดด้วยโทนสีแดงบริเวณขอบล้อแม็ก รวมถึงเพลทชื่อ Sei Giorni กับ สปริงโช้กหน้า
สำหรับพื้นฐานของรถรุ่นนี้ คือ VESPA GTV300 ซึ่งจะมีลักษณะที่โดดเด่น คือ
โคมไฟหน้าที่ย้ายมาอยู่บริเวณบังโคลนหน้า หรือที่เรียกกันว่า ไฟหน้าตะเกียงล่าง ซึ่งเป็นไฟหลอดปกติ
ส่วนชุดไฟหรี่ และไฟท้าย เป็นแบบ LED
ด้านตำแหน่งที่ควรเป็นไฟกลมทางด้านบน จะถูกปิดด้วย ชิลด์บังลมหน้า แทน
รูปแบบแฮนด์ Vespa รุ่นอื่นๆ ปกติ ที่จะอยู่เป็นชุดเดียวกับตัวแผงคอบน
แต่ SEI GIORNI คันนี้ ที่เป็น พื้นฐาน GTV300 จะให้มาเป็นแฮนเดิลบาร์ ซึ่งจะจับยึดอยู่บนตำแหน่งของชุดมาตรวัด
ตัวชุดมาตรวัด ก็จะเป็นแบบ Analog ผสมดิจิตอล
ทางด้านบนเป็นวัดความเร็วแบบเข็ม และระดับเกจ์น้ำมัน
ส่วนด้านล่างดิจิตอล จะเป็นนาฬิกา บอกวันและเวลา
เมื่อเปิดเก๊ะ จะพบกับช่องเก็บของขนาดกระทัดรัด และช่องจ่ายไฟ USB สามารถชาร์จสมาร์ทโฟนได้ขณะขี่เดินทาง นอกจากนี้ก็ยังมีซองเครื่องมือให้มาด้วย
ตัวเบาะนั่งบุหนัง ดีไซน์สปอร์ต แบบลอน มี 2 ผิวสัมผัส
เมื่อเปิดเบาะขึ้นมาก็จะพบกับ U-box ขนาดพอประมาณ มีแผ่นกันร้อนติดตั้งมาให้ทางด้านใน สามารถวางหมวกกันน็อคครึ่งใบลงไปได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็จะขึ้นกับรูปทรงหมวกด้วย
มิติรถ VESPA SEI GIORNI II EDITION 300 HPE
ยาว x กว้าง = 1,950 x 770 มม.
ฐานล้อ = 1,375 มม.
เบาะสูง 790 มม.
น้ำหนัก 160 กก.
ถังน้ำมัน 8.5 ลิตร
ท่านั่ง
เริ่มกันที่ความสูงเบาะ ระดับ 790 มม. ผมที่สูงอยู่ 175 ซม. สวมรองเท้าผ้าใบ พบว่าหากนั่งแบบเต็มก้นช่วงกลางเบาะ จะมีอาการส้นเท้าลอย เหยียบได้ไม่เต็มเท้าเท่าที่ควร
ซึ่งถ้าต้องการนั่งลงเต็มเท้าจะต้อง เขยิบตัวมาทางด้านหน้าช่วงปลายเบาะที่มีการเว้าเข้าไปแคบ แต่โดยภาพรวมเบาะหุ้มหนังตัวนี้ มีความหนาและนุ่มดี ถือว่านั่งได้ค่อนข้างสบายเลยทีเดียว
จุดต่อมาคือช่วงแฮนด์ ซึ่งเป็นแบบแฮนด์บาร์ แต่ด้วยความที่สไตล์ของรถเวสป้า นั้นเดิมทีตำแหน่งของรถจะค่อนข้างสูงกว่ารถ Scooter ทั่วไปอยู่แล้ว
จึงทำให้ ตัวแฮนด์ ระนาบจะสูงกว่ากระจกมองข้างรถยนต์เก๋งทั่วไป อยู่เล็กน้อย แต่ถ้าเป็นรถยนต์ที่เป็นไซส์ใหญ่ ขึ้นมา ก็จะพบว่าระนาบแฮนด์จะอยู่ใกล้เคียงกับกระจกมองข้าง ซึ่งเวลาบิดลัดเลาะช่วงรถติดก็อาจจะต้องขยับแฮนด์กันสักนิด
ถัดมาลองมานั่งเบาะผู้ซ้อนดูบ้าง แม้เบาะจะ Slope ท้ายตัดลง อาจจะรู้สึกนั่งไม่เต็มก้นดี แต่ความกว้างเบาะ รวมถึงความหนานุ่มตัวเบาะ ก็ยังถือว่านั่งได้สบาย แต่อาจจะต้องคอยจับมือจับกันตก หรือ เกาะเอวผู้ซ้อนให้ดี เสียหน่อย เวลาที่เปิดคันเร่งเพราะ ช่วงก้นเรา อาจจะนั่งได้ไม่เต็มผิวสัมผัสของตัวเบาะนั่งเอง และ เครื่อง 300 HPE นี้ ต้องบอกเลยว่า ตีนต้นจี๊ดจ๊าด เกินกว่า Scooter 300 ฝั่งญี่ปุ่น อย่างแน่นอน ดังนั้น ผู้ซ้อน อาจต้องยึดเกาะให้ดี
ส่วนตำแหน่งวางเท้า ที่เป็นสปริงพับเข้า-ออกได้ พบว่า มันอยู่ใกล้กับตำแหน่งวางขาของผู้ขี่ไปเสียหน่อย
เพราะเวลาผู้ขี่ต้องจอดรถติด และวางเท้าลงที่พื้น จะพบว่า ปลายเท้าของผู้ซ้อน อาจจะมาถูกช่วงน่องด้านหลังของผู้ขี่อยู่บ้าง
ขุมพลังเครื่องยนต์ Piaggio HPE 300 (High Performance Engine) ความจุ 278.3 ซีซี แบบลูกสูบเดี่ยว (Single Cylinder) 4 จังหวะ
ให้กำลังสูงสุด 22.8 แรงม้า@8,500rpm ส่วนแรงบิดได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น 18% สูงสุดที่ 25.5 นิวตันเมตรที่ 5,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ CVT
ภาพรวมการใช้งานจริงนั้น ต้องถือว่า อัตราเร่งค่อนข้างตอบสนองได้ดี บิดติดมือ โดยเฉพาะในจังหวะเปิดคันเร่งช่วงต้น คือเร่งดีปรู๊ดปร๊าดทันใจ ออกตัวไฟแดง ขึ้นนำสบายๆ
ส่วนหนึ่งนั้นเป็นเพราะว่า Vespa ใช้ล้อขอบ 12″ ด้วย รถจึงพุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ความเร็วย่านกลางก็ ยังมาแบบไหล่ลื่น เรื่อยๆ ไปได้แบบสมูทราบเรียบ ซึ่งบอกเลยว่า ผมประทับใจมันมาก
เพราะรถ Vespa หลังๆ หันมาใช้เป็นเครื่องยนต์ 4 วาล์ว ซึ่งจะไม่มีอาการสั่นเหมือนอย่าง 3 วาล์ว เมื่อก่อนแล้ว
เวลาเดินคันเร่งรู้สึกว่าเนียนกว่า Scooter ญี่ปุ่นพอควร
ในส่วนของความเร็วปลายนั้น จากการทดสอบของทีมงานเราอยู่ได้ แถวๆ 135 กม./ชม. ตามมาตรวัด
ซึ่งพบว่า มันถูกตัดที่กล่อง เพราะสังเกตุได้ว่าเมื่อตัวเลขถึง 135 ตามมาตรวัด เข็มความเร็วจะตกลง และไต่ขึ้นไปใหม่ถึง 135 อีกครั้ง และตกลง
สำหรับผมมองว่า ด้วยตัวเลขระดับนี้ การวิ่งออกทริปทางยาวใช้งาน ก็ถือว่ายังไปได้อยู่ แต่อย่าเอาไปเทียบกับสายดันโล ฝั่งญี่ปุ่น เพราะ Vespa เน้นการขี่ที่มีไลฟ์สไตล์ฺ เน้นวิ่งแบบชิลๆมากกว่า
แต่ถ้าหากใครมองว่า อยากไปได้แรงกว่านี้อีก ผมว่าอาจคงต้องลองดูพวกชุดชามแต่ง ซึ่งก็จะมีทั้งสำนักไทย หรือ จะสำนักแบรนด์อิตาลี ที่ทำมาแบบตรงรุ่นด้วย
หรือ จะไปปลดล็อกกล่อง ก็ตามแต่สะดวกครับ เพราะกำลังเครื่องที่มีอยู่สามารถไปต่อได้อีกแน่ๆ
ในส่วนของระบบกันสะเทือน
ทางด้านหน้ามันยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของ Vespa เอาไว้ นั่นก็คือ โช๊คอัพหน้าแบบแขนเดี่ยว
ส่วนด้านหลัง โช๊คอัพคู่ ที่ซ่อนอยู่ด้านในตัวถัง ปรับระดับได้ 4 ระดับ
ฟีลลิ่งการใช้งาน ต้องบอกว่า สไตล์ของรถเวสป้านั้น จะเซ็ทออกมาค่อนข้างเป็นกลาง คือ ไม่แข็ง และก็ไม่นิ่มจนย้วย
โดยภาพรวมหากขี่ใช้งานในเมือง มันยังซับแรงได้ค่อนข้างดีน่าประทับใจ ไม่ว่าจะเจอพวกเนินหลังเต่า หรือ ลูกระนาดเล็กๆ ตามซอย ก็ไม่รู้สึกสะเทือน แข็งอึดอัดแต่อย่างใด
ยังดูเฟิร์ม กระชับดี
แต่หากเพื่อนๆ ไปขี่เข้าเทโค้งด้วยความเร็ว ก็อาจจะไม่เหมาะสักเท่าไรนัก
ระบบเบรก ดิสก์ ทั้งหน้า-หลัง ขนาดจาน 220 มม. เท่ากัน
ด้านหน้าทำงานกับปั๊มคาลิปเปอร์ 2 ลูกสูบ
ด้านหลังคาลิปเปอร์ 1 ลูกสูบ
มาพร้อมระบบ ABS Dual Channel
นอกจากนี้ระบบเบรกให้มาเป็นสายถักจากแบรนด์ดังสเปน J.Juan เลยด้วย
สำหรับภาพรวมการใช้งานต้องบอกว่าสไตล์ของตัวปั๊มบนของเวสป้า การทำงานอาจจะดูแข็งไปนิด
แต่อย่างไรก็ดี มันยังสามารถหน่วงชะลอความเร็วได้อย่างนุ่มนวล และลดความเร็วลงได้ดี ถือว่าเอาอยู่กับสมรรถนะของเครื่อง HPE 300 นี้
นอกจากนั้นการทำงานของ ABS 2 Channel ถือว่าไม่ทำงานเร็วจนเกินไปด้วย และจังหวะทำงานของ ABS จะไม่พบอาการสะท้าน ดีดนิ้วมือมากเกินไป
สรุป รีวิว VESPA SEI GIORNI II EDITION 300 HPE ในครั้งนี้
หากคุณ รักในแบรนด์ Vespa ชื่นชอบความเป็น Limited ไม่เหมือนใคร และมีจิตใจที่รักในคอ Motorsport กำลังอยากมองหา Premium Scooter ที่มีกำลังแรงดีสักคัน แล้วล่ะก็
รถคันนี้ ก็ถือเป็นรถที่น่าสนใจมากคันหนึ่งเลย
สำหรับ ราคา Vespa Sei Giorni II Edition 300 HPE อยู่ที่ 225,900 บาท มากับ สีเทาด้าน (Grey Titanio)
นอกจากนี้
ราคาดังกล่าวเป็นราคา On the Road Price (ซึ่งรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม, ค่าจดทะเบียน, ค่า พ.ร.บ. และค่าประกันรถหาย 1 ปี)
รวมถึง Servizio Package (แพ็คเกจเช็คระยะ ฟรี 3 ปี หรือ 30,000 กม.)
และพิเศษสุดสำหรับผู้ที่ซื้อ 100 ท่านแรก จะได้รับ Vespa Sei Giorni II Edition Premium Set (เซ็ตของแถมประจำรุ่น) ประกอบไปด้วย
• หมวกกันน็อค
• กระเป๋าข้าง
• ผ้า buff
• พวงกุญแจ
• โปสเตอร์
• Sticker Set
เพื่อนๆ ที่สนใจก็สามารถไปติดต่อจับจองกันได้เลยที่ตัวแทนจำหน่าย Vespa ทั่วประเทศครับ
อ่านรีวิว อื่นเพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว Vespa เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ
