รีวิว Yamaha E01 ราคา ต้องมี 2 แสน! ขี่ดีซ้อนสองสบาย

0

รีวิว Yamaha E01 ราคา ยังไม่มีมา ทดสอบกันโดยสื่อมวลชนไทย ที่ได้รับโอกาสเป็นกลุ่มแรกๆของโลก กับรถต้นแบบ Prototype ไม่ขายนะจ๊ะ เพราะให้เทสเพื่อเก็บข้อมูลเฉยๆ

รีวิว Yamaha E01 ราคา ถามกันจังบอกก่อนยังไม่ขายนะ แต่ถ้าขายต้องมี 2 แสน+ กับ EV Scooter ที่เผยโฉมในไทยตั้งแต่ Motor Show 2022 สามเดือนก่อน ครั้งนี้ให้เราได้ลองสมรรถนะกันแบบจัดเต็ม ขี่สนุก ขี่มันส์ กันอย่างเต็มที่ บนเส้นทางเขาใหญ่ เพื่อทดสอบกันว่ารถมีกำลังในการไต่ขึ้นเขาดีแค่ไหน เข้าโค้งเป็นอย่างไร

Yamaha-E01 (36)
และเนื่องจาก ทางผมได้พา พรีวิวพวกสเป็กรายละเอียดไปแล้วใน คอนเท้นต์ก่อนหน้า ผมจะไม่ขอมาพูดดีเทลซ้ำ ถ้าใครยังไม่ได้รับชม สามารถรับชมได้ที่นี่ ถ้าพร้อมแล้ว มาเข้าที่ฟีลลิ่งการขี่กันเลย

Yamaha-E01-Ride-Position1
เริ่มที่ท่านั่ง เนื่องจาก E01 Yamaha ได้บอกว่า พัฒนาอิงพื้้นฐานมาจาก Nmax ดังนั้น ในเรื่อง Sizing ตัวบอดี้รถ และรายละเอียดท่านั่งผมว่า แทบจะไม่หนีกันเลย
เบาะสูง 755 มม. และ ช่วงปลายเบาะแคบ ทำให้ผมสูง 175 ซม. สวมผ้าใบ เหยียบลงเต็มเท้าหย่อนเข่าเหลือๆ ช่วงแฮนด์ ก็กำลังพอดีมือ ส่วนกระจกมองข้างจุดที่เห็นว่าดีงาม แตกต่างจาก Nmax แน่ๆ คือ ก้านกระจก งามดีเท่ารถ BigBike พี่ใหญ่ของทางค่ายอย่างเช่น MT-09
พักเท้าวางได้ทั้ง ตั้งฉาก เพื่อเน้นการคอนโทรล และเหยียดไปด้านหน้าได้นิดหน่อย เพื่อผ่อนคลายเหยียดเท้า

Yamaha-E01-Ride-Position2
ตำแหน่งคนซ้อน ผมว่าเอื้อกับผู้ซ้อนมากกว่า Nmax เพราะ ท้ายจะดูขนานพื้นมากกว่า ไม่เชิดเหมือน Nmax ทำให้นั่งได้สบายกว่า แต่มือจับกันตกมันซ้อนไปด้านใน ซึ่งผมว่าถ้าคนตัวเล็ก จะจับได้ไม่เต็มกริปมือนัก ส่วนพักเท้าผู้ซ้อนมันดูจะลื่นไปหน่อย และกางพักเท้าคนซ้อนออก ถ้าใช้เท้าเกี่ยวยากมาก ใช้มือกางออกง่ายกว่า

จุดที่รู้สึกเลย คือ นน.รถ หนักประมาณ 150 คือ หนักกว่า Nmax มาอีก ประมาณ 15 กก. ได้ ซึ่งเวลาเข็นก็รู้สึกว่าหนักพอควร และเวลาขึ้นขาคู่ก็เช่นกัน เพราะ นน.มันกองตรงกลาง ไม่เหมือน AT หลายรุ่นที่ นน. จะไปลงด้านท้าย จึงขึ้นขาคู่ง่ายกว่า

Yamaha-E01-Gear-R
เทคโนโลยีเพิ่มเติม
เกียร์ R ที่อยู่ตรงตำแหน่งไฟ Pass ให้กดค้าง และกดสวิทช์ Mode ทางด้านขวา รถถึงถอยหลัง แต่ไหลด้วยความเร็ว 1 kmph ซึ่งก็ไม่เร็วไป เน้นค่อยๆ เตาะแตะๆ
แต่ถ้าไหลถอยหลังบนทางชัน อาจจะเริ่มไม่ค่อยมีแรง

ระบบ TCS ผมเจอ จังหวะเปิดคันเร่งออกตัว 0-TopSpeed ในรอบแรก เพราะพื้นถนนมีทรายนิดหน่อย ก็พบว่าตัดการทำงานได้ประมาณหนึ่ง ไม่ถึงกับเหวอ ดูละเอียดใช้ได้
และผมได้ลองตอนปั่นบนกรวด พบว่าการตัดการทำงานเร็วมากๆ ดังนั้นผมว่ามั่นใจได้เลยถ้าเวลาเจอพื้นผิวลื่นๆ

Yamaha-E01 (42)
ขุมพลัง มอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลัง 8.1 kWh แรงประมาณ 10.8 hp (กำลังพอๆกับเครื่อง 125cc) และแรงบิด 30.2 Nm ที่ไม่ต้องรอรอบ ทอร์คมาหนักขนาดนี้ เกินหน้ารถพิกัด 125cc ไปไกล
ส่งกำลังผ่านสายพานขับ ซึ่งบอกเลยสมูท ไม่กระชาก กระแทกคันเร่งออกตัวจาก 0 เวลาไฟเขียว ไม่หน้าหงาย เหวอ แน่นอน เพราะมันขึ้นแบบสมูท ลื่นๆ เรื่อยๆ (ต่างจาก รถ Scooter EV หลายรุ่นที่ มอเตอร์ต่อลงเพลาขับล้อหลังโดยตรง จะกระชากในจังหวะเปิดคันเร่ง)

โหมดทั้ง 3 จากที่ผมลองใช้ ECO ล็อก 60 kmph แถม คันเร่งหน่วง และดูหนักหนืด ตอนแรงบิดลงเหลือ 21.4 Nm และกำลังเหลือแค่ 5.4 kW เพื่อเน้นประหยัด ซึ่งบอกเลยว่าไม่ใช่ทางของเรา
ขยับมา STD ก็ได้กำลังมาเต็ม 8.1 kWh แรงบิดขยับมา 24.5Nm การเตอบสนองของจังหวะเปิดคันเร่ง ดูไม่หนีกับ PWR เท่าไร แต่ PWR ทอร์คมาเต็ม 30.2 Nm ดังนั้นผมขี่ด้วยโหมด PWR ไปยาวๆ

Yamaha-E01 (1)และคันนี้ ได้ใส่ระบบ Regenerative Brake จำลอง Engine Brake ซึ่งจุดนี้ผมว่ามันหน่วงมากกว่ารถ AT ทั่วไปหน่อย แต่ยังเทียบไม่ได้กับ Engine Brake รถ ที่มีเกียร์จริงๆ

วันนี้ลืมบอกไปผมมีสาวซ้อน (คุณภรรยาผมเองที่มานั่งซ้อนด้วย) นน. 2 คน รวมกัน ประมาณ 105 กก. ได้ลองจังหวะขึ้นเขาใหญ่ ที่เป็นลักษณะโค้งม้วนพับผ้า ผมลองผ่อนคันเร่งช่วงตีนโค้ง และกระแทกคันเร่งขึ้นไป ต้องบอกว่า ทอร์คเหลือๆ มาตัวรถขึ้นทางชันได้อย่างสบายๆ เรื่องกำลัง บอกเลยหายห่วงครับ

ตอนซ้อน 2 ผมทำ TopSpeed ได้ 105 kmh แบบไม่หมอบ (จังหวะดูดลม และมีไหลลงเนินนิดๆ)
พอมาเทส 0-TopSpeed คนเดียว ก็ทำตัวเลขได้ 105 kmph เท่ากัน แบบหมอบ ส่วน GPS จริงได้เท่าไร ดูได้ที่คลิป

อัตราสิ้นเปลือง ผมขี่ออกจากคีรีมายา ด้วยแบตเหลือ 55% วิ่งขึ้นเขาใหญ่ไปกับขบวน ระยะทางประมาณ 30 กม. ขาขึ้นไปเบรกเหลือ 40% (ขาขึ้นขี่ช้า เพราะขี่ไปเป็นขบวน และถ่ายภาพ)
ส่วนขาลง ซัดเต็มเหนี่ยวกลับทางเดิม จนถึงคีรีมายา เหลือแบต 25% ซึ่งแม้ว่ผมจะซัดแบบหวดจัดเต็ม แต่ด้วยความที่ขาลง เราไม่ได้ใช้คันเร่งเยอะเหมือนขึ้นเขา ทำให้มันมาเปลืองแบต เยอะๆ ตอนทางราบที่ผมซัดแบบ Full Throttle จนถึงคีรีมายา และต้องบอกก่อนนะครับ EV Bike ไม่มีมอเตอร์ Regen เหมือน EV Car ที่เวลาลงเขา ได้ประจุแบตเพิ่ม! เพราะถ้ามี รถจะต้องหนักขึ้นอีก และคันใหญ่ขึ้น รวมถึงราคาแน่นอน แพงขึ้นด้วย ซึ่งกับ EV Bike ยังไม่เหมาะที่จะใส่มา

Yamaha-E01 (37)
ระบบกันสะเทือน อันนี้ดีงามจริงๆ
พื้นฐาน Nmax แต่ ช่วงล่างดีกว่าทั้งหน้า-หลัง ด้านหน้าหัวตั้ง แต่จากที่เคยคอมเม้นต์ไปปว่า Nmax ช่วง Stroke มันสั้น ทำให้โช้กยันได้ เวลาเจอลูกระนาด หรือ หลุม ต้องระวัง กระแทกแรงๆ โช้กอาจยันแตกได้ แต่ E01 คันนี้ ผมซ้อน 2 เปิดคันเร่งใส่ตอนเจอลูกระนาด ไม่มีปัญหาเลย แถมหนึบซับแรงดี

Yamaha-E01 (19)ด้านหลังโช้กคู่ ยึดตรงสวิงอาร์มขนาดใหญ่ ฟีลดีงามเหมือนโช้กเดี่ยวเลย ถ้าขี่คนเดียวผมว่าออกแข็งนิดๆ ขี่ 2 คน กำลังดี อย่างที่บอก ซับแรงก็ดี เจอลูกระนาดเปิดคันเร่งใส่คนซ้อนบอกไม่รู้สึกกระแทก แต่พอเจอทางรอยต่อที่คมๆ พบว่าแข็งไปหน่อย

แต่จุดที่ประทับใจมากจริงๆ คือ การคอนโทรลรถ นน. ลงตรงกลางบอดี้ จากตัวแบตเตอรี่ และมอเตอร์ไฟฟ้า บอกตามตรงสัมผัสแรก ผมหวิวแปลกๆ ไม่ชิน นน. แบบนี้ เพราะปกติรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป นน.จะเยื้องไปทางด้านหน้าหน่อยจากตัวเครื่องยนต์ ส่วน Scooter อื่นๆ ก็ นน. จะทิ้งไปด้านท้ายเยอะ ซึ่งเวลาเลี้ยวโค้ง เจออาการหน้าพับเข้า แต่ท้ายดื้อ

พอเป็น E01 คันนี้ เทโค้งบนเขาใหญ่ เหยโคตรกริ๊ป เนียนมากๆ เทโค้งมั่นใจบาลานซ์ดีสุดๆ ขี่เล่นโค้งสนุกมากๆ รักเลย

Yamaha-E01 (2)
ระบบเบรก อันนี้เป็นจุดเดียวเลยมั้งที่ผมจะติ มัน เพราะ ดูแค่สเป็กแรงบิด 30.2 Nm แต่เบรก จานดิสก์เดี่ยว หน้า-หลัง ขนาดเท่าๆกัน และทำงานร่วมกับ ปั๊ม 1pot ทั้งหน้า-หลัง ผมดูแค่สเป็ก รู้เลยไม่พอแน่ๆ

ซึ่งมาขี่แล้วจริงตามนั้นเลย เพราะ Brake Regen ที่กล่าวไป ช่วยหน่วงลงไม่เยอะ ยิ่งตอนลงเขาใหญ่ เห็นชัดเลย เพราะต้องเบรกลึกก่อนพับโค้ง ผมพบว่าพอซ้อน 2 นน.โหลดเกือบ 110 กก. ไหลมาก ต้องกดลงน้ำหนักเยอะ ทำให้เบรกได้ไม่มั่นใจ เอาตามตรงไม่พอกับความแรงที่มี ถ้าใครสายซัดแบบที่เราได้ลองเช่นนี้ แต่ถ้าขี่ทั่วๆไป ผมว่าก็เบรกได้พอเพียง
ดังนั้น ถ้าคันนี้ ทำ Production จริง ผมอยากให้อัพเกรดเบรก ไม่ควรต่ำกว่า 2 Pot อย่าง Scooter อิตาลี 150cc น้องใหม่ ยังให้มา 3 Pot พร้อมสายถักแล้วเลย
แต่ถึงยังไงก็ตาม ผมว่าเรื่องเบรก เป็นเรื่องเล็กที่ไปอัพเกรดเอาภายหลังได้

Yamaha-E01 (38)
สรุป รีวิว Yamaha E01 ทดสอบแบบจัดเต็มกลุ่มแรกๆ ในโลก ย้ำเลยว่าไม่ขาย ไม่ต้องถามราคานะครับ เพราะ ราคานี้ ถ้าขายจริง ไม่ต่ำกว่า สองแสนแน่นอน
สเป็กแบตจุถึง 4.9 kWh (แบตรถยนต์ Hybrid ญีปุ่่น ที่ผมทดสอบมา ประมาณ 0.9 kWh เอง) มอเตอร์ขับเคลื่อนส่งกำลังได้ราบรื่น มี TCS, และระบบเชื่อมต่อข้อมูลผ่าน eSIM, Tracking GPS ได้ ฯลฯ ส่วน E01 ตอนนี้มีประมาณ 500 คันบนโลกเท่านั้น รถต้นแบบน่าจะทราบกันดีว่า ราคามันแพงมากกก ต้นทุนในการพัฒนา คันนึงอาจจะเฉียดๆ ล้านก็เป็นไปได้
เอาเป็นว่าคงต้องรอ Yamaha พัฒนาจนเป็น Production Bike กันอีกที ว่าแต่จะมาเมื่อไร สเป็กประมาณไหน ไม่มีใครรู้ แต่อยากให้มันขี่ดีแบบนี้ และปรับปรุงส่วนอื่น ให้ทันสมัยและดีขึ้นต่อไป อย่างเช่น Port 12V ควรให้เป็น Type A หรือ Type C ได้แล้ว

Yamaha-E01 (43)สำหรับผู้ที่สนใจ Yamaha แว่วๆ มาว่าอาจให้คนทั่วไปได้ลองทดสอบ ช่วง ส.ค. นี้ รอติดตามกันให้ดี ถ้ามีมาทีม MotoRival เราจะมาอัพเดทให้รับทราบกันครับ

ซึ่งจะต่างจากรถ Scooter AT คันอื่นๆ ที่ นน. จะทิ้งไปด้านท้ายเยอะ จากชุดแคร้งเครื่อง

อ่านข่าว EV เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว Yamaha เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านรีวิว เพิ่มเติมได้ที่นี่

Share.

About Author

Background EXP in Automotive journalists more than 10 Years Writer & Test Driver @Pantip Garage 2018-Present @9carthai 2015- 2017 @Torque & VIPStyle Magazine 2015 @Autospinn 2012-2015 @GTmania.tv 2009-2010

error: Content is protected !!