กลับมาอีกครั้งกับการสัมภาษณ์ผู้บริหารแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์เจ้าต่างๆที่น่าสนใจโดยพวกเราทีมงาน MotoRival ซึ่งในการสัมภาษณ์ครั้งล่าสุดนั้น พวกเราก็ได้มีโอกาสเข้าสัมภาษณ์กับคุณ Vimal Sumbly ผู้บริหารระดับ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิคของ Royal Enfield ถึงทิศทางการตลาดต่างๆในช่วงขวบปีที่ผ่านมา รวมถึงทิศทางการตลาดในอนาคตของแบรนด์ซึ่งในแต่ละคำตอบก็ล้วนน่าสนใจทั้งสิ้น แต่จะมีอะไรบ้าง ? เรามาไล่เรียงกันเลยครับ
*เบื้องต้นการสัมภาษณ์ของพวกเรากับทีมงาน MotoRival จะเป็นการสัมภาษณ์กับคุณ Vimal Sumbly หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิคของ Royal Enfield แบบถามตอบในประเด็นต่างๆ ซึ่งทางเราจะขอลงประโยคเป็นรายข้อไปดังนี้ครับ
MotoRival : สถานการณ์ทางการดำเนินธุรกิจของทาง Royal Enfield ในช่วงวิกฤต COVID-19 กว่าขวบปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง
คุณ Vimal Sumbly : ท่ามกลางวิกฤต COVID-19 ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าการขายรถนั้นทำได้ยากขึ้น แต่ในทางกลับกันสำหรับตลาดประเทศไทย ยอดขายรถมอเตอร์ไซค์ Royal Enfield ของเราเติบโตขึ้นจนอยู่ในอันดับ 3 แล้ว สำหรับรถมอเตอร์ไซค์มิดไซส์ขนาด 250cc-750cc ซึ่งถือว่าเป็นผลตอบรับที่ดีมากๆสำหรับเรา
MotoRival : รถมอเตอร์ไซค์ของ Royal Enfield ที่ขายดีที่สุดในตอนนี้คือโมเดลใด หลังจากที่ทางแบรนด์ได้มีการเปิดตัว Meteor 350 ออกมา ?
คุณ Vimal Sumbly : ก่อนอื่น Meteor 350 ถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์ในพิกัด 350cc โมเดลแรกที่วางจำหน่ายในประเทศไทย และได้รับความสนใจจากชาวไทยเป็นอย่างดี เนื่องจากเราตั้งใจสร้างมันขึ้นมาเพื่อให้ผู้ใช้ได้สัมผัสถึงความสะดวกสบายจากเทคโนโลยีอย่างเช่นระบบ Royal Enfield’s Tripper navigation รวมถึงความนุ่มนวลในการเดินทางที่ได้จากมัน ซึ่งพวกคุณคงเคยได้สัมผัสกันแล้วในรีวิว Meteor 350
อย่างไรก็ดี รถมอเตอร์ไซค์ที่ขายดีที่สุดของเรา ก็ยังคงเป็น Royal Enfield Interceptor 650 เนื่องจากความคุ้มค่า ภาพลักษณ์ของตัวรถที่เป็นเอกลักษณ์ และสมรรถนะของตัวรถที่อยู่ในจุดสมดุลระหว่างผู้ที่กำลังอยากที่จะขยับขนาดรถมอเตอร์ไซค์ขึ้นมาให้สูงกว่า 250cc และอยากจะลดขนาดรถมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ลงจากพิกัดราวๆ 1,000cc ขึ้นไปนั่นเอง
MotoRival : แผนสำหรับการทำตลาดในครึ่งปีหลังของปี 2021 นี้เป็นอย่างไรบ้าง?
คุณ Vimal Sumbly : ในช่วงครึ่งแรกของปี 2021 หรืออันที่จริงคือนับตั้งแต่การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 การขายรถมอเตอร์ไซค์ที่ศูนย์บริการเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เราจึงพยายามทำธุรกรรมต่างๆผ่านระบบออนไลน์ให้มากที่สุด ตั้งแต่การตรวจสอบโปรโมชัน การจองรถและที่มากกว่านั้น คือการให้พนักงานของเราไปบริการลูกค้าถึงที่บ้าน ไม่ต้องออกมาเสี่ยงที่โชว์รูม ทั้งในส่วนของการทำสินเชื่อ หรือการส่งรถไปให้ลูกค้าได้ทดสอบรถก่อนตัดสินใจซื้อ เรามีความพยายามที่จะเพิ่มความสะดวกสบายและเข้าถึงลูกค้าให้มากที่สุดเท่าที่ได้ ในสถานการณ์เช่นนี้ และที่สำคัญที่สุดคือเราจะพยายามรักษาตำแหน่งการเป็นผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์อันดับ 3 สำหรับรถมอเตอร์ไซค์มิดไซส์ขนาด 250cc-750cc ต่อไปให้ได้ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ COVID-19 เช่นนี้
MotoRival : ทาง Royal Enfield มีแผนที่จะกลับมาเข้าร่วมงานจัดแสดงรถมอเตอร์ไซค์ในช่วงสิ้นปีนี้อย่าง Motor Expo 2021 อยู่หรือไม่ ? หลังจากที่เมื่อต้นปีที่ผ่านมาทางแบรนด์ไม่ได้ไปเข้าร่วมงาน Motor Show 2021 ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา
คุณ Vimal Sumbly : อย่างที่เราได้เกริ่นไว้ก่อนหน้านี้ ว่าเรายังคงต้องการที่จะเข้าถึงลูกค้าให้มากที่สุด และเราก็รักที่จะได้เห็นลูกค้าได้เข้ามาสัมผัสกับรถมอเตอร์ไซค์ของเราด้วยตัวเป็นๆ แต่ด้วยสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ยังคงระบาดหนักในประเทศไทยในช่วงเวลาดังกล่าว จึงทำให้เรามองว่าการเข้าร่วมงานมหกรรมทางด้านยานยนต์ ณ ช่วงเวลานั้น ไม่ปลอดภัยเท่าไหร่นักสำหรับบุคลากร และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับลูกค้าของ Royal Enfield
และนั่นก็รวมถึงการเข้าร่วมงานจัดมหกรรมทางด้านยานยนต์ที่จะจัดขึ้นในช่วงสิ้นปีนี้ ที่เราก็ยังจะต้องรอดูสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ต่อไปอีกเช่นกัน ว่าเหมาะสมที่เราจะเข้าร่วมงานหรือไม่ ?
MotoRival : ทาง Royal Enfield มีแผนที่จะเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์โมเดลใหม่ๆอย่างเช่นที่เราเห็นใน Spyshot ช่วงหลายๆเดือนที่ผ่านมา ภายในสิ้นปีนี้หรือไม่ ?
คุณ Vimal Sumbly : น่าเสียดายที่ผมคงบอกอะไรไม่ได้ว่ารถมอเตอร์ไซค์ที่เราจะเปิดตัวนั้น จะมีรถมอเตอร์ไซค์โมเดลใดบ้าง หรือเป็นโมเดลที่เห็นกันใน Spyshot หรือไม่ ? แต่สิ่งที่ผมพอจะบอกได้ก็คือ ภายในสิ้นปีนี้ เราจะมีรถมอเตอร์ไซค์โมเดลใหม่ๆเปิดตัวออกมาเพิ่มอีกราวๆ 3-4 โมเดล ซึ่งแต่ละโมเดลรับรองได้เลยว่าลูกค้าจะต้องชอบ และตื่นเต้นไปกับมันแน่นอน
MotoRival : ทาง Royal Enfield มีแผนที่จะขยายดีลเลอร์เพิ่มอีกหรือไม่ ?
คุณ Vimal Sumbly : เช่นเดิม เป้าหมายหลักของเราก็ยังคงเป็นความพยายามในการเข้าถึงลูกค้าให้มากที่สุด ดังนั้นเราจึงมีแผนที่จะขยายและเพิ่มจำนวนศูนย์บริการรถมอเตอร์ไซค์ Royal Enfield ให้มากที่สุดอยู่แล้ว ซึ่งในปัจจุบันเรามีศูนย์บริการทั้งหมด 33 สาขา และในปีหน้าเราคาดว่าจะเพิ่มศูนย์บริการขึ้นให้มากถึง 50 สาขา ในช่วงปีหน้า
MotoRival : หลังจากเงียบหายไปพักใหญ่ เราอยากทราบว่าโรงงานผลิตรถมอเตอร์ไซค์ของ Royal Enfield ในประเทศไทย ที่ได้เคยมีการประกาศแผนเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว ณ ขณะนี้มีความคืบหน้าไปถึงขั้นใดแล้วบ้าง ?
คุณ Vimal Sumbly : เกี่ยวกับเรื่องของโรงงานผลิตรถมอเตอร์ไซค์ Royal Enfield ในประเทศไทย อันที่จริงทางเราได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ไปทำงานที่นั่นไปสักพักใหญ่ๆแล้วเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการขึ้นไลน์ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ให้เร็วที่สุด และคาดว่าในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2021 นี้ เราก็จะได้เห็นรถมอเตอร์ไซค์ Royal Enfield ล็อตผลิตในประเทศไทยกันแล้ว
MotoRival : ย้อนไปเมื่อปีก่อน ในการสัมภาษณ์กับทางผู้บริหารของ Royal Enfield ระดับ Global ทางทีมงาน MotoRival ได้มีการสอบถามถึงประเด็นเกี่ยวกับโปรเจกท์รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าว่ามีจริงหรือไม่ ? ซึ่งคำตอบในครั้งนั้นก็คือใช่ ทางเราจึงอยากทราบว่าในตอนนี้โปรเจกท์ดังกล่าวยังคงถูกดำเนินต่อไปหรือไม่ ? หรือถูกยุบไปแล้ว ?
คุณ Vimal Sumbly : สำหรับโปรเจกท์รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เรายังคงเดินหน้าศึกษามันต่อไป เนื่องจากมันคือผลิตภัณฑ์ที่ยังไงเราก็ต้องขายในอนาคต ด้วยการบีบของสถานการณ์ต่างๆทั้งจากภาครัฐและลูกค้า ทว่าเราก็ยังคงต้องใช้เวลาในการศึกษามันอีกสักพัก
MotoRival : สุดท้ายนี้ อยากจะฝากข้อความใดถึงลูกเพจ MotoRival ที่สนใจในแบรนด์ Royal Enfield อย่างไรบ้าง ?
คุณ Vimal Sumbly : สำหรับทาง Royal Enfield เราให้ความสำคัญกับประเทศไทย เปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 3 ของเรา รองจากประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแบรนด์ และประเทศอินเดียซึ่งเป็นที่ตั้งหลักของเรา ผมจึงอยากจะฝากถึงแฟนๆ Royal-Enfield ในไทยทุกคน ให้ติดตามทาง Royal Enfield กันไว้ด้วย เพราะภายในปีนี้เราจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะมานำเสนอกับผู้บริโภคอย่างแน่นอนในระดับ Global ซึ่งนั่นก็จะมีผลถึงการวางจำหน่ายในประเทศไทยด้วย และเรายังขอย้ำว่าแบรนด์เราตั้งใจจริงในการลงทุนที่ประเทศไทย ทั้งในเรื่องของการตั้งโรงงานผลิต, มีแผนขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อรองรับกับการเติบโตของกลุ่มลูกค้าในช่วงมิดไซส์ Range ซึ่ง ณ เวลานี้เราขยับขึ้นแท่นอันดับ 3 ในไทยแล้ว และในตลาดโลกก็มีการเติบโตที่ดีไม่แพ้กัน ซึ่งเราจะยังคงรักษาบรรทัดฐานนี้ต่อไป และจะทำให้ดียิ่งขึ้นไปอีกในอนาคต
อ่านข่าว Royal Enfield เพิ่มเติมได้ที่นี่
