Tips Trick : หัวเทียนร้อน / หัวเทียนเย็น ต่างกันอย่างไร ?

0

“หัวเทียน” ถือเป็นอีกหนึ่งอะไหล่สิ้นเปลืองที่เหล่าผู้ใช้ยานพาหนะต้องค่อยเช้คและเปลี่ยนทุกครั้งเมื่อถึงกำหนดอายุการใช้งานของมัน แต่ในบ้างครั้ง หากเพื่อนๆอยากจะลองซื้อเอง ไม่ได้ให้ช่างที่ศูนย์บริการเป็นคนเลือกของให้ เราก็อาจจะเจอคำถามจากพ่อค้าว่า เทียนที่เราอยากได้หัวเทียนแบบไหน ? หัวธรรมดา หัวเข็ม หรือหลายเขี้ยว ? และที่งงยิ่งกว่าก็คงเป็นเรื่อง เบอร์หัวเทียน ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความเป็น “หัวเทียนร้อน” และ “หัวเทียนเย็น” ด้วย แล้ว 2 อย่างนี้มันแตกต่างกันยังไง ? เรามาไขข้อสงสัยแบบง่ายๆกันดีกว่าครับ

tips-trick-iriduim-spark-plug-02
ก่อนอื่น สิ่งแรกที่เพื่อนๆต้องทำความเข้าใจก็คือ ในการสันดาปเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์เบนซินที่ใช้อยู่ในรถมอเตอร์ไซค์ของเรานั้น ปกติแล้วจะต้องมีหัวเทียนเป็นตัวจุดระเบิดเชื้อเพลิงก่อน มิเช่นนั้นเชื้อเพลิงก็จะไม่ยอมสันดาปให้ ซึ่งการจะสันดาปเชื้อเพลิงให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ใช่แค่เรื่องของกำลังของประจุไฟที่ได้จากหัวเทียนเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของอุณหภูมิของตัวหัวเทียนเองที่ต้องเหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานของเครื่องยนต์ด้วย

tips-hot-cold-spark-plug-003
โดย “หัวเทียนร้อน” จะเป็นหัวเทียนที่มีฉนวนเก็บความร้อนของขั้วหัวเทียนค่อนข้างยาว และมีพื้นที่ให้เชื้อเพลิงเข้าไปเสันดาปรอบๆฉนวนค่อนข้างลึก ทำให้สามารถสะสมความร้อนไว้ในตัวได้ค่อนข้างมาก เพื่อที่มันจะได้สามารถจุดระเบิดเชื้อเพลิงได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้ปริมาณเชื้อเพลิงมากๆ หรือกำลังอัดสูงมากๆ แต่ในขณะเดียวกัน มันก็จะระบายความร้อนจากตัวเองช้าเช่นกัน ทำให้หากเค้นรอบเครื่องยนต์มากๆนานๆ โอกาสที่เชื้อเพลิงจะชิงจุดระเบิด จนเครื่องน็อค เพราะเชื้อเพลิงโดนความร้อนจากตัวขั้วหัวเทียนจนจุดระเบิดเอง โดยไม่รอจังหวะประจุจากหัวเทียนจุดออกมาก่อนจึงมีสูง ดังนั้นหัวเทียนชนิดนี้จึงเหมาะสำหรับเครื่องยนต์เดิมๆ ที่ไม่ได้ปรับแต่งใดๆ หรือผู้ที่ไม่ได้เค้นรอบเครื่องยนต์หนักมากๆ เน้นการใช้งานในชีวิตประจำวันมากกว่า

ส่วน “หัวเทียนเย็น” ก็จะมีคุณสมบัติที่ตรงกันข้ามกับหัวเทียนร้อน นั่นคือด้วยความยาวของฉนวนหุ้มขั้วหรือแกนหัวเทียนที่สั้น และพื้นที่ให้เชื้อเพลิงเข้าไปเสันดาปรอบๆฉนวนค่อนข้างน้อย จึงทำให้หัวเทียนสามารถระบายความร้อนได้ดี ดังนั้นมันจึงเหมาะอย่างมากที่จะนำเอามาใช้กับเครื่องยนต์ที่เน้นการใช้รอบจัดๆ มีการจุดระเบิดถี่ๆจนทำให้มีความร้อนเกิดขึ้นในเครื่องยนต์ค่อนข้างสูง แต่ในทางกลับกันเพราะความสามารถในการระบายความร้อนที่ดีมากๆของมัน จึงทำให้ถ้าหากเรานำมาใช้กับเครื่องยนต์ที่ไม่ต้องเค้นรอบสูงมากนัก หรือกำลังอัดไม่ได้สูงมาก โอกาสที่ไอน้ำมันมาเกาะกับขั้วและเขี้ยวหัวเทียนจนทำให้หัวเทียนบอด แล้วสตาร์ทไม่ติดก็มีสูงเช่นกัน มันจึงไม่เหมาะที่จะนำมาใช้กับเครื่องยนต์ที่ไม่ได้ถูกปรับแต่งมา หรือเจ้าของไม่ได้ใช้งานมันหนักเท่าไหร่นักนั่นเอง

tips-hot-cold-spark-plug-002
อย่างไรก็ดี หากจะให้บอกว่าเบอร์หัวเทียนเบอร์ความร้อนไหน เหมาะกับการใช้งานของเรา หรือเครื่องยนต์ที่อยู่กับรถมอเตอร์ไซค์ของเรากันแน่ ? ถ้าหากเพื่อนๆไม่มั่นใจ และไม่ได้มีการปรับแต่งเครื่องยนต์ใดๆที่หนักมากๆ (เช่นการปรับจูนกล่องใหม่ เปลี่ยนหัวฉีดใหม่) เราแนะนำว่าให้ใช้หัวเทียนเบอร์เดิมนั่นแหล่ะครับ จะดีที่สุด ส่วนเพื่อนๆท่านใดที่มีการนำเครื่องญไปปรับแต่งมาแล้ว งานนี้อาจจะต้องลองปรึกษากับช่างที่ปรับแต่งกันเองอีกทีแล้วล่ะครับ ว่าสเตปที่ทำไปนั้น จะต้องมีการขยับหรือปรับเบอร์หัวเทียนใหม่ด้วยหรือไม่ ?

ขอบคุณภาพจาก carfromjapan

อ่าน Tips Trick เพิ่มเติมที่นี่

Share.

About Author

error: Content is protected !!