โดยปกติแล้วหากพูดถึงรถมอเตอร์ไซค์แพงๆทั้งหลาย เราก็มักจะนึกถึงแต่รถมอเตอร์ไซค์แนว Super Sport, Cruiser, Touring, หรือไม่ก็แนวๆ Custom ทั้งหลายเท่านั้น แต่เอาจริงๆแล้วเหล่ารถมอเตอร์ไซค์สายฝุ่นแพงๆเองก็มีให้เห็นเช่นกัน โดยบางคันราคานี่ก็ตั้งไว้ซะแพงระยับจนเมื่อเราได้เห็นตัวเลขแล้วเราคงไม่กล้าเอามันไปลุยป่าลุยเขาแม้แต่ครั้งเดียวให้เสียดายของ
ดังนั้นในวันนี้เราจึงรววม Top 5 รถมอเตอร์ไซค์สายฝุ่นที่แพงที่สุดในโลกมาให้เพื่อนๆได้รับชมกัน จะมีคันไหนบ้าง มาเริ่มกันเลยครับ
5. Alta Redshift MXR
นี่น่าจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์สายฝุ่นเพียงหนึ่งเดียวจากห้าอันดับที่แพงอยู่แล้วตั้งแต่เกิดโดยไม่ต้องพึ่งสโลแกนพิเศษอะไรทั้งนั้น เพราะความพิเศษที่แท้จริงของมันก็คือการมีขุมกำลังหลักเป็นมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงที่สามารถสร้างแรงม้าได้ถึง 50 ตัว และแรงบิดอีกเกือบ 200 นิวตันเมตร ด้วยน้ำหนักตัวที่เบาเพียง 117.5 กิโลกรัมเท่านั้น สนนราคาแบบไม่รวมภาษีที่ 8,500 ปอนด์ หรือราวๆ 360,000 บาท
4. Honda CRF450R “Dave Thorpe” Replica
ตัวแข่งโมโตครอสแท้ๆสุดจี๊ดที่พึ่งเปิดตัวออกมาไม่นานจาก Honda ซึ่งในคราวนี้นอกจากการที่มันจะได้รับการอัพเกรดหรือปรับปรุงเพื่อทำตลาดในฐานะโมเดลปี 2018 แล้ว มันยังถูกตกแต่งด้วยแฟริ่งลายพิเศษที่ลอกแบบมาจากตัวแข่งโมโตครอส Honda RC500 ปี 1989 ของเจ้าตำนานสายฝุ่นแห่งประเทศอังกฤษ นอกจากนี้ยังเสริมของแต่งอีกมากมาย พร้อมสนนราคาแบบไม่รวมภาษีที่ 9,049 ปอนด์ หรือราวๆ 384,000 บาท
3. Cake KALK สนนราคาแบบไม่รวมภาษีที่ 12,400 ปอนด์ หรือราวๆ 526,000 บาท
อาจจะฟังดูไม่คุ้นหู แถมดูไม่คุ้นตาเท่าไหร่นักสำหรับเจ้า KALK รถโมโตครอสไฟฟ้าจากค่าย Cake สัญชาติสวีเดน แต่ความพิเศษของเจ้านี่นั้นก็ึือการที่มันเลือกใช้แต่วัสดุดีๆในการสร้าง ใช้ระบบกันสะเทือนหน้าหลังจาก Ohlins ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าเองก็สามารถสร้างกำลังได้กลังพอเหมาะคือ 20 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดอีก 42 นิวตันเมตร ส่วนน้ำหนักตัวก็เบาเพียง 70 กิโลกรัมเท่านั้น และที่พิเศษสุดๆของเจ้านี่ก็คือรูปลักษณ์หน้าตาที่ไม่เหมือนใคร และคงมีใครเหมือนมากไม่ได้พราะมันผลิตด้วยจำนวนจำกัดเพียง 50 คันทั่วโลก และสนนราคาแบบไม่รวมภาษีที่ 12,400 ปอนด์ หรือราวๆ 526,000 บาท
2. Harley-Davidson MP119
โดยปกติแล้วเรามักจะเห็นสำนักแต่งทั้งหลายทำการปรับแต่งรถมอเตอร์ไซค์ของ Harley-Davidson ให้มีหน้าตาออกไปในทางคัสตอมครุยเซอร์กันซะส่วนใหญ่ แต่สำหรับเจ้า Street Rod คันนี้นั้นต่างออกไปโดยสิ้นเชิง เพราะมันถูกทางสำนัก Diamond Range และ Shaw Speed ร่วมมืกันจับถอดชุดช่วงล่างเดิมๆที่ต่ำเตี้ยทิ้งไป แล้วแทนที่ด้วยชุดระบบกันสะเทือนสูงโปร่ง เสริมด้วยชุดล้อซี่รัดยางหนาม และแฮดน์บาร์ทรงกว้างแบบฉบับรถโมโตครอส ก่อนที่จะจบงานด้วยชุดท่อไอเสียแต่งฟูลซิสเต็มจาก HGS พร้อมสนนราคาทั้งคันแบบไม่รวมภาษีที่ 20,000 ปอนด์ หรือราวๆ 849,000 บาท
1. Steve McQueen 1963 Triumph Bonneville Desert Sled สนนราคาแบบไม่รวมภาษีที่ 73,133 ปอนด์ หรือราวๆ 3,140,000 บาท
สำหรับรถมอเตอร์ไซค์สายฝุ่นคันสุดท้ายที่ได้ชื่อว่าแพงที่สุดในขณะนี้ของเรานั้นเจ้า Triumph Bonneville รุ่นเก่ากึ้กปี 1963 ที่ได้รับการตกแต่งพิเศษจนกลายเป็นโมโตครอสไบค์ ซึงฟังเผินๆแล้วมันอาจจะดูไม่ได้พิเศษจนทำให้มันกลายเป็นอันดับหนึ่งรถมอเตอร์ไซค์สายฝุ่นที่แพงที่สุด แต่เพราะมันคือหนึ่งในรถมอเตอร์ไซค์ที่ดาราผู้ล่วงลับชื่อดังอย่าง Steve McQueen รักที่สุดและเคยเป็นเจ้าของมาก่อน ดังนั้นเมื่อถึงวันเปิดประมูลเจ้านี่ขึ้นมา ราคาค่าตัวของมันจึงพุ่งไปแตะหลัก 73,133 ปอนด์ หรือราวๆ 3,140,000 บาทเลยทีเดียว
ขอบคุณข้อมูลจาก Visordown.com
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ
