จากการสังเกตุในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ตลาดรถมอเตอร์ไซค์ในประเทศยุโรปโดยเฉพาะระดับผู้ใช้ขั้น Entry ที่ถือใบขับขี่ระดับ A2 นั้นมักเป็นตลาดที่เหล่าผู้ผลิตน้อยใหญ่สนใจอยากส่งผลิตภัณฑ์ไปร่วมชิงส่วนแบ่งเสมอๆ และเจ้า Lexmoto LXR 380 สปอร์ตไบค์หน้าตาสุดล้ำคันนี้ก็คือหน้าใหม่ที่เตรียมเข้าร่วมวงดังกล่าวด้วยในปีหน้า สำหรับที่มาของเจ้า Lexmoto LXR 380 คันนี้ก็มีอยู่ว่า มันเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ถูกผลิตโดยแบรนด์จีนรายใหญ่ชื่อคุ้นหูอย่าง Zhongsen (Ryuka) ซึ่งจุดเด่นที่เอาไว้เรียกลูกค้าของมัน นอกจากจะเป็นเรื่องหน้าตาสุดโฉบเฉี่ยวแล้ว ขุมกำลังของมันยังเป็นแบบ 2 สูบเรียงพิกัด 378cc ที่สามารถทำแรงม้าได้สูงถึง 40.2 PS ที่ 9,000 รอบ/นาที แต่มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่สูงถึง 34 กิโลเมตร/ลิตร ไม่เพียงเท่านั้น ในเรื่องส่วนพ่วงอื่นๆที่น่าสนใจก็มีทั้ง ชุดระบบกันสะเทือนหน้าแบบตะเกียบคู่หัวกลับ, ดิสก์เบรกคู่, เรเดียลเมาท์คาลิปเปอร์, สวิงอาร์มอลูมิเนียม, โครงเหล็กถัก, และระบบ ABS ต่างก็ถูกเลือกนำมาติดตั้งให้ LXR300 คันนี้อย่างครบครัน ด้านค่าตัวแบบไม่รวมภาษีของ Lexmoto LXR 380…
Author: admin
ข้อเสนอพิเศษเกินใครสำหรับฮอนด้าบิ๊กไบค์นำเข้าจากญี่ปุ่นครบทุกแบบ Honda NC750X ผ่อนเริ่มต้นเพียง 4,945 บาท/เดือน รับ Gift Voucher 20,000 บาท Honda CB1000R ผ่อนเริ่มต้นเพียง 6,997 บาท/เดือน รับ Gift Voucher 30,000 บาท Honda CB1100RS ผ่อนเริ่มต้นเพียง 7,594 บาท/เดือน รับ Gift Voucher 50,000 บาท Honda Africa Twin ผ่อนเริ่มต้นเพียง 7,166 บาท/เดือน รับ Gift Voucher 40,000 บาท Honda CBR1000RR SP ผ่อนเริ่มต้นเพียง 10,583 บาท/เดือน รับ Gift…
อย่างที่เพื่อนๆหลายๆคนทราบกันว่า ในการทดสอบ WSBK Winter Test ที่เกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น ทาง Honda ไม่ยอมเข้าทดสอบร่วมกับทีมอื่นๆอย่างน่าสงสัย และเกิดคำถามต่อมาว่าแล้วพวกเขาหายไปไหนกันแน่ ? หรือว่าเจ้า Honda CBR1000RR-R รุ่นใหม่นั้นจะมีปัญหาดีเลย์ในการผลิตหรือเปล่าจึงทำให้พวกเขายังไม่พร้อมทดสอบมันร่วมกับคนอื่นๆ ? และจากข้อมูลล่าสุดที่สื่อเยอรมันสายมอเตอร์สปอร์ตเจ้าดังลงเอาไว้ ก็มีการระบุว่า ส่วนหนึ่งที่ CBR1000RR-R ยังไม่สามารถร่วมเทสในรอบเดียวกับตัวแข่งคันอื่นๆได้นั้น เป็นเพราะมันยังมีบางชิ้นส่วนที่ถึงจะเป็นไม้เด็ด แต่ก็ยังไม่พร้อมสำหรับการติดตั้งกับทดสอบอย่างโจ่งแจ้งให้ใครเห็น เนื่องจากทางค่ายต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญจากทีมแข่ง MotoGP มาเป็นผู้ช่วยวิจัย ซึ่งยังติดธุระกับการแข่งขันนัดปิดฤดูกาลอยู่ จนทำให้ไม่สามารถมาดูแลโปรเจ็กท์นี้ได้ต่อเนื่องนั่นเอง อย่างไรก็ดี ถึงชิ้นส่วนหลายๆจุดจะยังไม่พร้อมทดสอบให้ใครได้เห็น ทว่าทาง Honda ก็ได้แอบไปเช่าสนามเอรากอนตั้งแต่วันที่ 25-26 พฤศจิกายน เพื่อทดสอบตัวแข่ง CBR1000RR-R กันแบบลับๆจนถึงขนาดที่ว่าไม่มีปาปารัซซีคนไหนสามารถย่องเข้าไปแอบถ่ายบรรยากาศได้ ก่อนที่เหลาทีมแข่งใน WSBK เจ้าอื่นจะขนทัพกันไปทดสอบตัวแข่งที่สนามเฆเรซ ช่วงวันที่ 28-29 พฤศจิกายนเสียด้วยซ้ำ ส่วนช่วงเวลาที่ทาง Honda จะพร้อมเข้าทดสอบเจ้า CBR1000RR-R กับทีมแข่งอื่นๆ ก็มีการคอนเฟิร์มแล้วว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมกราคาคมปีหน้าเท่านั้น…
ในการทดสอบตัวแข่งรอบปิดซีซันหรือ Winter Test นอกจากเหล่านักบิดและทีมจะต้องทดสอบตัวแข่งที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในศึก MotoGP ปีหน้าแล้ว ทาง Brembo ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ชุดระบบเบรกรายใหญ่ (ซึ่งเท่าที่ทราบตอนนี้ตัวแข่งใน MotoGP ทุกรุ่นใช้ชุดเบรกของพวกเขาทั้งหมด) เองก็แอบเอาคาลิปเปอร์เบรกตัวใหม่ที่แปลกตาเกินกว่าจะมองข้ามไปได้มาให้นักบิดได้ทดสอบด้วย และสำหรับจุดแปลกของคาลิปเปอร์เบรกเรเดียลเมาท์รุ่นใหม่ของ Brembo ชุดนี้ก็คือการที่มันมาพร้อมกับแนวครีบจัดเต็มทั้งด้านบนและด้านล่างเพื่อเอาไว้ระบายความร้อนของตัวคาลิปเปอร์ฯเอง ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกที่พวกเขาทำมันขึ้นมาอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งขนาดนี้ ส่วนเหตุผลก็แน่นอนว่าจะต้องเป็นเพราะด้วยการใช้งานเบรกที่หนักหน่วงของนักบิดในปัจจุบัน กับความพยายามในการรักษาอุณหภูมิจานเบรกให้ร้อนตลอดเวลาด้วยการติดตั้งชุดครอบจานเบรกกันลมเอาไว้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่นักหากตัวคาลิปเปอร์จะมีความร้อนสะสมมากขึ้นเรื่อยๆจนเสี่ยงที่ตัวน้ำมันเบรกในระบบจะเดือดง่ายกว่าเดิมเมื่อเทียบกับตอนที่ใช้ในการแข่งขันปีก่อนๆ ดังนั้นแค่การใช้ตัวดักลมเป่าปั๊มเบรกเพียงอย่างเดียวคงไม่พอ ทาง Brembo จึงเลือกเพิ่มครีบให้กับตัวปั๊มเพื่อเพิ่มพื้นที่แลกเปลี่ยนอุณหภูมิความร้อนจากตัวคาลิปเปอร์กับความเย็นของอากาศที่พัดผ่านตอนรถวิ่งอยู่ให้มากขึ้นกว่าคาลิปเปอร์เบรกเรียบๆที่เคยใช้มานั่นเอง อย่างไรก็ดีในตอนนี้เรายังไม่มีข้อมูลที่ช่วยยืนยันว่าเหล่าทีมแข่งและ Brembo จะตกลงใช้ชุดคาลิปเปอร์เบรกรุ่นนี้ใน MotoGP ปีหน้าเลยหรือไม่ ทว่าหากมีข้อมูลออกมาให้อัพเดทเพิ่มเติมอีกเมื่อไหร่ เราจะรีบแจ้งให้เพื่อนๆได้ทราบกันในทันทีครับ อ่านข่าวสาร MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ Motorival
ไม่ใช่แค่เพียงในบ้านเราเท่านั้นที่มักมีปัญหาเกี่ยวกับ “รถมอเตอร์ไซค์ท่อดัง” แต่ในเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญสุดๆของประเทศฝรั่งเศส อย่างกรุงปารีสเองก็จริงจังและต้องการความสงบไม่แพ้กันเพื่อสุนทรียภาพในการชมวิว จนถึงขั้นที่ทางกรมตำรวจปารีสต้องจัดตั้งหน่วยลาดตระเวนพิเศษขึ้น เพื่อเอาไว้จับผิด “ยานพาหนะเสียงดัง” โดยเฉพาะ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้อมูลระบุไว้ว่า ทางกรมตำรวจกรุงปารีส ได้ลงทุนส่งเจ้าหน้าที่กว่า 40 นายไปเข้าฝึกพิเศษเพื่อตรวจจับ “เสียงที่เป็นมลพิษ” โดยเฉพาะ ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถแยกแยะเสียงของท่อไอเสียที่ดังเกินกฏหมายกำหนดได้ดีกว่าเจ้าหน้าที่ทั่วๆไป และเพื่อให้การตรวจจับง่ายขึ้น ก็ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะนำเทคโนโลยีกล้องวัดเสียงที่เริ่มใช้แล้วในประเทศอังกฤษมาช่วยทำงานด้วยในอนาคต นอกจากนี้ในรายงานยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า นับตั้งแต่มีการจัดตั้งหน่วยลาดตระเวนพิเศษนี้ขึ้นมาช่วงระยะเวลาประมาณหนึ่ง (ไม่ได้ระบุว่านานแค่ไหนแล้ว) พวกเขาก็สามารถเจรจากับเหล่านักบิดที่ใช้มอเตอร์ไซค์ท่อดังมาแล้วไมต่ำกว่า 100 รายเกี่ยวกับปัญหาที่พวกเขาสร้าง ซึ่งน่าเสียดายที่ทางกรมตำรวจไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลว่าได้กระทำการลงโทษหรือตักเตือนใดๆเพิ่มเติมกับนักบิดเหล่านั้นบ้าง แล้วเพื่อนๆคิดว่าไอเดียนี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจหรือไม่อย่างไร ? เชิญคอมเมนท์กันเข้ามาได้เลยครับ ขอบคุณข้อมูลจาก Visordown เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ Motorival
โดยปกตินอกจากสถติในเรื่องการคว้าแชมป์ หรือผลงานการแข่งขันในศึก MotoGP แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้คนให้ความสนใจก็คือสถิติการล้ม หรือระเบิดกรวดของนักบิดแต่ละคนในฤดุกาลนั้นๆ ซึ่งอันที่จริงในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมานี้ เราคงพอทราบกันดีว่า Marc Marquez มักเป็นนักบิดที่ทำคัวเลขสถิตินี้จนได้อันดับต้นๆอยู่เสมอ ทว่าใน MotoGP 2019 นั้นกลับต่างออกไป เพราะนอกจาก Marc Marquez จะไม่ติดอันดับ Top 3 แล้ว แต่กลับเป็น Johann Zarco ที่แม้จะแข่งไปแค่เพียง 16 จาก 19 สนามในฤดูกาลนี้เท่านั้น ที่คว้าตำแหน่ง “แชมป์ระเบิดกรวด” ในปีนี้ไปแทน จากสถิติการล้มสูงถึง 17 ครั้ง ซึ่งคิดเป็นเกือบ 2 เท่าจากปีก่อน (ใน MotoGP 2018 Zarco ล้มไปเพียง 9 ครั้งเท่านั้น) ส่วนอันดับสอง และอันดับสามที่ตามมาก็คือคู่หูนักบิดจาก…
Triumph Motorcycles เปิดตัว เปิดตัว 2020 Triumph Tiger 900 พี่เสือสายลุย มากับ 5 รุ่นย่อย ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง โดยยังคงพื้นฐานเอกลักษณ์เครื่องยนต์ 3 สูบ เพิ่มเติมคือ cc เช่นเคย โดยสำหรับจุดเด่นของ 2020 Tiger 900 รุ่นใหม่นั้น เราคงต้องเริ่มจากรูปลักษณ์ภายนอกที่มีการปรับดีไซน์ใหม่ทั้งหมด ไล่ตั้งแต่ชุดไฟหน้าที่ออกแบบให้ดูมีความเป็นเหลี่ยมสันมากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นยังติดตั้งชุดโคมไฟตัดหมอกให้มาอยุ่ในระดับที่ใกล้เคียงกับไฟหน้ามากกว่าเดิม เพื่อเพิ่มทัศนวิสัย ส่วนถังน้ำมันที่ดูบึกบึนรับกับช่วงแฟริ่งข้างมากกว่าเดิมก็ขยายความจุเพิ่มเป็น 20 ลิตรในทุกรุ่นย่อย ตัวเครื่องยนต์ 3 สูบเรียง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Tiger 800 ก็ถูกยกมาปรับปรุงใหม่ใน Tiger 900 คันนี้ด้วย โดยเริ่มจากการเพิ่มความจุขึ้นเป็น 888cc พร้อมอัพแรงม้าสูงสุดขึ้นเป็น 95.2 PS ที่ 8,750 รอบ/นาที และทำแรงบิดสุงสุดได้อีก 87…
แม้ MV Agusta จะเป็นแบรนด์พรีเมียมที่มีจุดขายคือดีไซน์ตัวรถสุดสวยงาม แต่สุดท้ายรถของพวกเขาก็มักจะถูกนำไปตกแต่งในแบบฉบับที่สำนักต่างๆทั่วเลือกเลือกนำไปดัดแปลงอยู่เสมอ ซึ่งเจ้า MV Agusta F3 675 – La Rouge คันนี้เองก็เป็นหนึ่งในนั้น แถมสำนักแต่งที่ทำมันขึ้นมาก็เป็นดีลเลอร์แห่งหนึ่งของทางค่ายในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เสียด้วย แต่ถึงเราจะบอกว่าเจ้า La Rouge คันนี้มีพื้นฐานจากซุปเปอร์สปอร์ตตัวจี๊ด F3 675 ทว่าภาพลักษณ์ของตัวรถที่พวกเขาอยากได้นั้นคือ MV Agusta Superveloce 800 รถมอเตอร์ไซค์แนวนีโอ-คาเฟต์ เรเซอร์ ที่ทางค่ายพึ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ ดังนั้นทางสำนักจึงเลือกถอดแฟริ่งเดิมๆของ F3 ทิ้งไปทั้งหมด เหลือไว้แค่ชุดเฟรม เครื่องยนต์กับถังน้ำมัน แล้วเลือกใส่ชุดแฟริ่งกับบอดี้พาร์ทใหม่เข้าเพื่อให้ตรงตามแนวคิดที่ตั้งใจไว้ ทั้งชุดโม่งหน้าคาร์บอน, ชุดแฟริ้งท้ายทรงตูดมด กับเบาะนั่งหุ้มหนังกลับ นอกจากนี้หากเพื่อนๆสังเกตุกันดีๆ จะเห็นได้ว่าชุดไฟหน้าขอเจ้า La Rouge คันนี้ ไม่ใช่ของ F3 ดั้งเดิม แต่เป็นของสปอร์ต-แอดเวนเจอร์อย่าง Turismo Veloce ที่ดูมีความเป็นเหลี่ยมสันมากกว่าเข้าไปแทน…
แม้ว่าจะมีข่าวออกมาให้พูดถึงอยู่หลายครั้งได้เป็นว่าไม่ต่ำกว่า 3 ปี แต่จนตอนนี้ดูเหมือนว่ามันใกล้ถึงช่วงเวลาจริงๆแล้วที่ Yamaha SR400 จะถูกยุติสายการผลิต เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นสื่อชาวญี่ปุ่นรายหนึ่ง ได้ระบุไว้ว่า ภายในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ ทาง Yamaha Japan จะเปิดตัว SR400 “Final Edition” รุ่นปิดสายการผลิตออกมา ซึ่งในตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามันจะถูกผลิตขึ้นทั้งหมดกี่คัน แต่มันจะมาพร้อมกับเฉดสี 2 แบบให้เลือก นั่นก็คือ สีแดง และ สีเขียว อันเป็นสีที่ทางค่ายเคยใช้ตอนเปิดตัวมันครั้งแรกเมื่อปี 1978 และแม้เราจะบอกว่ามันเตรียมเผยโฉมในวันที่ 5 ธันวาคมนี้จริง แต่กำหนดการส่งมอบในญี่ปุ่นก็จะอยู่ในช่วงกลางเดือนมกราคม ปีหน้า ส่วนราคาสำหรับจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นก็จะอยู่ที่ 588,500 เยน หรือราวๆ 164,000 บาท และสุดท้ายมันจะมีโควต้าถูกนำเข้ามาให้ลูกค้าชาวไทยได้จับจองด้วยหรือไม่นั้น เรายังต้องติดตามกันต่อไปครับ *ส่วนภาพ Yamaha SR400 ที่เห็นอยู่ตอนนี้เป็นตัวฉลอง 40 ปี…
เอ.พี. ฮอนด้า ยกระดับความเป็นผู้นำรถพรีเมียม เอ.ที. ครั้งใหม่ ด้วยการเปิดตัว New PCX150 ภายใต้คอนเซปต์ “Vertex of Pride สู่ขั้นสุดแห่งความภูมิใจ” 2020 PCX 150 ปรับโฉมให้เข้า เฉียบ เร้าใจไปอีกขั้นด้วยเส้นสาย V-Shape ด้านหน้ารถ สะท้อนความพรีเมียม พรั่งพร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ที่เหนือชั้น โฉบเฉี่ยวเต็มระบบกับไฟ Full LED รอบคัน เพิ่มความหรูหราด้วย Welcome Light ไฟ LED ส่องพื้น ล้ำสมัยด้วยแผงหน้าปัดเรือนไมล์แบบดิจิตอลเต็มรูปแบบ มั่นใจด้วยระบบคอมบายเบรกที่ช่วยกระจายแรงเบรกหน้าหลัง มาพร้อมล้ออัลลอย 14 นิ้วและยางมิชลินขนาดใหญ่ช่วยในการยึดเกาะ สั่งงานง่ายดั่งใจด้วย Honda Smart Key ที่เชื่อมต่อกับแผงควบคุมนิรภัย Honda Smart Controller สะดวกสบายด้วยกล่องเก็บสัมภาระความจุ 28 ลิตร เก็บหมวกกันน็อกแบบเต็มใบได้พร้อม…