Ducati ค่ายรถสีแดงจากโบโลญญ่า ที่เรามักเชื่อโยงภาพลักษณ์ของค่ายนี้กับความเป็นรถสปอร์ตสายสนามอย่าง Panigale ล่าสุดได้ทำการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการว่าจะเข้าร่วมแข่งขันสายผุ่น Motocross ในปี 2024 ด้วยรถสายลุยรุ่นใหม่หมดจด โดยจะเริ่มจากรายการในอิตาลีก่อนจะขยับขึ้นไปหวดกับเจ้าตลาดในระดับโลก ทางด้านรายละเอียดของรถสายลุยรุ่นใหม่ของ Ducati นั้นยังคงเป็นปริศนา เราไม่รู้ทั้งชื่อรุ่นหรือความจุเครื่องยนต์ที่จะทำ แต่เราคาดว่าจะใช้ความจุมาตรฐานที่ 250 และ 450 ซีซี เป็นหลักในการพัฒนา แน่นอนว่ารูปแบบเครื่องยนต์จะต้องเป็นแบบระบายความร้อนด้วยน้ำ 1 สูบ ตามความเหมาะสม นอกจากนี้ยังมีการประกาศรายชื่อนักแข่งที่จะมาร่วมวงพัฒนาและแข่งขันด้วย ไม่ว่าจะเป็นแชมป์โลก MXGP 9 สมัย Antonio Cairoli ที่คว้าแชมป์โลกมาร่วมกับ KTM และ Alessandro Lupino โดยผู้ที่จะเข้ามาจัดการการแข่งขันและเก็บข้อมูลพัฒนารถจะทำโดย Maddii Racing squad ที่มีประสบการณ์กับค่ายใหญ่อย่าง Husqvarna ดูเหมือนว่าค่ายรถจากยุโรปจะเริ่มหันมาสนใจตลาดรถ Motocross มากขึ้นเป็นพิเศษ เพราะก่อนหน้านี้ค่ายรถจากอังกฤษอย่าง Triumph ก็เปิดตัวรถและทีมแข่งไปไม่นานมานี้ ทางค่ายแดงก็กำลังจะเปิดตัวน้องเล็กรุ่นใหม่อย่าง Hypermotard…
Author: Kristha
2024 Yamaha XSR900 GP รถมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ตเรโทรจากค่ายส้อมเสียง Yamaha ในที่สุดก็ถูกเผยโฉมออกมาเป็นที่เรียบร้อยในงาน Japan Mobility Show 2023 หลังจากที่มีข่าวลือข่าวหลุดถูกปล่อยออกมาให้เราเห็นตลอดทั้งปี ซึ่งรูปลักษณ์ของมันก็แทบจะลอกแบบออกมาจากรถต้นแบบอย่าง DB40 ทั้งคัน ใครที่เป็นสายไฟกลมก็อาจมีผิดหวังเล็กน้อย จากไฟหน้าทรงเหลี่ยมแปลกตา 2024 Yamaha XSR900 GP นั้นยังคงถูกสร้างอยู่บนพื้นฐานเดียวกับ XSR900 รุ่นสปอร์ตเปลือยไฟกลมมาตรฐาน ที่มาพร้อมเครื่องยนต์แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ 3 สูบเรียง CP3 ปริมาตรกระบอกสูบ 889 ซีซี ที่ให้พละกำลังสูงสุด 117 Hp ที่ 10,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 93 Nm ที่ 7,000 รอบ/นาที ที่ติดตั้งอยู่ในชุดเฟรมแบบ Deltabox ไม่ต่างจากรุ่นเดิม สิ่งที่เปลี่ยนไปคือรูปลักษณ์ภายนอกที่มีการติดตั้งแฟริ่งหน้าครึ่งบน ที่ได้แรงบันดาลจากตัวแข่ง GP ในยุค…
นอกจากฝั่งของค่ายปีกนก Honda ที่มีผลงานในช่วงหลังไม่ดีนักในเวที MotoGP ก็ยังมีค่ายร่วมชาติอีกรายที่เจอปัญหารุมเร้าพอกันอย่าง Yamaha ที่ก่อนหน้านี้ผู้จัดการทีมก็เคยออกมาบอกว่า ถ้ารถของตัวเองพัฒนาจนสู้คนอื่นไม่ได้ Fabio Quartararo ที่เป็นนักบิดมือหนึ่งก็คงจะจากไปเช่นเดียวกับกรณีของ Marc Marquez ซึ่งถึงแม้ว่าแชมป์โลกฝั่งส้อมเสียงจะไม่มีท่าทีของการฉีกสัญญา แต่เจ้าตัวก็ลำบากใจไม่น้อย “เราต้องการ Winter Test สัก 15 ครั้ง เพื่อให้พัฒนาได้อย่างพวกเขา(Ducati)” Fabio Quartararo กล่าว “แต่การเทียบเท่าพวกเขานั้นไม่ใช่เป้าหมายของเราในฤดูกาลหน้า เป้าหมายของเราคือการเข้าใกล้ ทุกปีเราพัฒนาบางด้านได้ 1 ก้าว แต่ก็จะถอยหลังในจุดอื่น 2 ก้าว เสมอ” “แชสซีส์เก่าของเรานั้นน่าทึ่ง เราสามารถทำอะไรกับมันก็ได้ ถึงแม้ว่าจะจะช้าแต่มันก็เข้าโค้งได้ดีมาก ตอนนี้แชสซีส์ใหม่ทั้งช้าและไม่ยอมเข้าโค้ง แน่นอนว่าเครื่องยนต์ของเราแรงขึ้น แต่คนอื่นก็แรงขึ้นเหมือนกัน ช่องว่าเลยไม่ต่างจากเดิม ส่วนทีมอื่นเขาพัฒนาทั้งแชสซีส์คู่ไปกับแอโร่ไดนามิคไปไกลมาก” “สำหรับผม เป้าหมายหลักคือการลดช่องว่างที่ใหญ่ขึ้นทุกปี” เขากล่าว “แน่นอนว่าผมยังอยากสู้เพื่อแชมป์โลก แต่มองตามความเป็นจริงปีหน้าเราคงไม่ได้สู้แบบนั้น แต่เป็นการทำให้เราสามารถสู้เพื่อโพเดียมได้มากขึ้น ไม่ก็เพื่อให้ได้แชมป์สนาม นั่นคือเป้าหมายส่วนตัวของผม”…
ในช่วงที่ Marc Marquez มีสัญญาเป็นนักแข่งร่วมกับทีม Repsol Honda เขาได้ค่าแรงรายปีมากถึงปีละประมาณ 15 ล้านยูโร เป็นนักแข่งที่มีค่าตัวสูงที่สุดในสนาม ซึ่งหลังจากการตกลงย้ายทีมของเขาไปสู่ Gresini ก็มีคำถามว่าทีมอิสระขนาดเล็กแบบนี้ จะหาเงินมาจากไหนมาจ่ายค่าแรงให้กับนักแข่งที่เก่งที่ในประวัติศาสตร์? แต่ดูเหมือนว่าคำตอบของคำถามนั้นคือ “ไม่ต้องจ่าย” Paolo Ciabatti ผู้จัดการฝ่ายมอเตอร์สปอร์ของทีมโณงงาน Ducati ได้ออกมาให้ข้อมูลเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาว่า “การที่นักแข่งระดับ Marc Marquez ตัดสินใจมาแข่งให้กับทีมอิสระแบบไม่เอาค่าแรงเพื่อให้ได้รถของ Ducati นั้นถือเป็นเกียรติอย่างมาก” Ciabatti กล่าว “เท่าที่ผมรู้ข้อมูล มันก็ฟรีตามนั้นเลยครับ แต่ผมไม่รู้ว่าถ้าคุณไปถาม Gresini หรือ Marc Marquez เขาจะตอบแบบนั้นหรือเปล่า” “แต่หลังจากนี้เขาจะวางแผนขึ้นมาอยู่ทีมโรงงาน Ducati หรือไม่ผมคงตอบไม่ได้ นี่อาจจะเป็นแค่ปีที่ให้เขาพักเพื่อรอย้ายไป KTM หรือ Aprilia ในปี 2025 ที่นักแข่งทีมโณงงานเกือบทุกคนยกเว้น Brad Binder จะหมดสัญญากับทีมตัวเอง”…
2024 Triumph Bonneville Stealth Edition ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เปิดตัว “บอนเนวิลล์ สเตลท์ อิดิชัน” 8 รุ่น ปี 2024 ที่มาพร้อมการคัสตอมสีรูปแบบใหม่สุดโดดเด่น เทคนิคการลงสีรูปแบบใหม่สุดล้ำโดยทีมทำสีรถจักรยานยนต์ระดับโลกจากไทรอัมพ์ สำหรับรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ สเตลท์ อิดิชัน (Stealth Editions) ทั้ง 8 รุ่น จำกัดระยะเวลาจำหน่ายเพียง 1 ปี เท่านั้น เร็ว ๆ นี้ ทั่วโลกจะได้ร่วมยลโฉมรถจักรยานยนต์ตระกูลบอนเนวิลล์ของไทรอัมพ์ ที่มาพร้อมมุมมองใหม่ด้วยการลงสีสไตล์คัสตอมอันน่าทึ่ง ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2024 กับรถจักรยานยนต์ในกลุ่มโมเดิร์น คลาสสิก ทั้งหมด 8 รุ่น “สเตลท์ อิดิชัน” (Stealth Edition) เป็นคอลเล็กชันพิเศษของรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ตระกูลบอนเนวิลล์ทั้ง 8 รุ่น ซึ่งมีระยะเวลาการวางจำหน่ายเพียง 1…
ในการแข่งขันทางฝั่งรถมอเตอร์ไซค์โปรดักชั่น World Superbike ได้มีการปรับเพิ่มกติกาใหม่ที่จะบังคับใช้ในฤดูกาล 2024 ซึ่งถือเป็นกติกาใหม่ที่น่าสนใจที่เราจะพาทุกคนมาดูกัน โดยกติกาที่ว่านั้นก็คือการเพิ่มน้ำหนักถ่วงตัวรถ ในกรณีที่นักแข่งมีน้ำหนักตัวน้อย เพื่อชดเชยข้อแตกต่างด้านน้ำหนักระหว่างนักแข่งแต่ละคนให้มีความใกล้เคียงกันมากขึ้น แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น เราขอมาอธิบายก่อนว่าในการแข่งขันรายการนี้ ตามปกติก็มีการกำหนดน้ำหนักขั้นต่ำของรถแข่งแบบรวมของเหลวไว้ที่ 168 กิโลกรัม เป็นปกติคล้ายกับรายการอื่นอยู่แล้ว แต่ในฤดูกาลหน้าทางผู้จัดจะทำการเพิ่มน้ำหนักถ่วงที่ตัวรถแข่ง ในกรณีที่นักแข่งประจำรถคันนั้นมีน้ำหนักน้อยกว่าที่กติกากำหนด เนื่องจากนักแข่งแต่ละคนสามารถมีน้ำหนักตัวได้ต่างกันสูงสุดถึง 20 กิโลกรัม ซึ่งนั่นมากพอที่จะสร้างความแตกต่างของความเร็วต่อรอบ โดยเกณฑ์ที่ผู้จัดใช้คือการกำหนดน้ำหนักนักแข่งในอุดมคติไว้ที่ 80 กิโลกรัม นักแข่งที่มีน้ำหนักเกิดอยู่แล้วก็ไม่ต้องทำอะไร แต่นักแข่งที่มีน้ำหนักตัวน้อยกว่านั้นจะให้ทำการเพิ่มน้ำหนักถ่วงตัวรถ 0.5 กิโลกรัม ทุกส่วนต่าง 1 กิโลกรัม จากน้ำหนักในอุดมคติ หรือก็คือถ้านักแข่งมีน้ำหนักอยู่ที่ 70 กิโลกรัม ซึ่งน้อยกว่าน้ำหนักในอุดมคติ 10 กิโลกรัม ก็จะให้เพิ่มน้ำหนักไปบนตัวรถ 5 กิโลกรัม จะต่างกับรายการอย่าง Formula 1 ที่จะเพิ่มน้ำหนักนักแข่งให้เท่ากับน้ำหนักในอุดมคติไปเลย เนื่องจากการแข่งมอเตอร์ไซค์นั้นต้องใช้น้ำหนักของร่างกายเข้าช่วยในการเลี้ยวรถ ถ้าเพิ่มน้ำหนักมากเกินไปก็จะทำให้นักแข่งที่ตัวเล็กควบคุมรถลำบาก และน้ำหนักที่เพิ่มเข้ามาก็มากพอให้ความต่างทางด้านน้ำหนักของนักแข่งแต่ละคนมีความเท่าเทียมมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งกติกานี้ก็เป็นที่ยอมรับกันในหมู่ทีมแข่งฝั่ง World…
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผลงานของค่ายรถปีกนก Honda เจ้าของอดีตแชมป์โลกแบบผูกขาดใน MotoGP กลับต้องตกที่นั่งลำบากหลังการบาดเจ็บของนักแข่งตัวแชมป์อย่าง Marc Marquez ซึ่งนั่นก็ทำให้กระทบกับการพัฒนารถของค่ายเป็นอย่างมาก จนไม่ว่าจะใช้นักแข่งคนไหนก็ไม่สามารถทำผลงานให้ดีได้ แต่อดีตแชมป์โลกอย่าง Casey Stoner ก็ได้ออกมาปกป้องค่ายเก่าของตัวเอง Casey Stoner อดีตนักแข่งที่เคยล่าแชมป์ด้วยกันกับ Honda ได้ออกมาให้ความเห็นว่า “Honda มีปัญหามาหลายปี มันง่ายที่จะมองเข้ามาจากภายนอกแล้วคิดว่าทีมไม่ได้ทำอะไรให้สถานะการณ์ดีขึ้น สองค่ายรถญี่ปุ่นดูเหมือนจะตามค่ายยุโรปอยู่ 1 ถึง 2 ก้าว ทางยุโรปแก้ปัญหาได้เร็วกว่าเสมอ นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ค่ายญี่ปุ่นต้องตามหลัง Marc ก็พยายามหาว่าปัญหานี้เป็นที่ตัวเองหรือเป็นที่รถ” “ผมคิดว่า Marc ยังสามารถคว้าแชมป์กับ Honda ได้ถ้าเขาพัฒนาไปถูกทาง เราเห็น Alex Rins ชนะมาแล้วที่ Austin ในมุมของผมมองว่ารถแข่งมันไม่ได้แย่ขนาดนั้น ถ้าเขายังชนะการแข่งขันได้ ในสนามอื่นมันก็ไม่ไม่ควรจะมีผลงานที่แย่กว่าอันดับ 10(ในกรณีที่ปัญหาเกิดจากรถ)” “บางครั้งในการแข่งขันคุณก็หลงทาง และต้องการใครสักคนมาแสดงให้เห็นว่ารถของคุณมันมีความสามารถ เราเห็น Dani Pedrosa…
Johann Zarco นักบิดสัญชาติฝรั่งเศสที่ขึ้นมาแข่งในคลาส MotoGP มานานถึง 7 ปี แต่กลับยังไม่เคยสามารถคว้าชัยชนะมาได้เลยสักครั้ง แต่ในที่สุดที่การแข่งขันที่ Philip Island เจ้าตัวสามารถทำสิ่งนั้นได้สำเร็จเหนือแชมป์โลกร่วมค่ายและเพื่อนร่วมทีมที่กำลังชิงแชมป์โลก จนในที่สุดเราก็ได้เห็นท่าตีลังกาอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาที่รอคอยมานาน ซึ่งจะทำทุกครั้งที่สามารถชนะการแข่งขันได้ และวันนี้เราจะพามาเปิดประวัตินักแข่งคนนี้กัน Johann Zarco เกิดในวันที่ 16 กรกฎาคม 1990 ในเมือง Cannes ประเทศฝรั่งเศส เข้าเริ่มต้นชีวิตนักแข่งอย่างเป็นทางการในปี 2004 ในรายการ Minimoto Championships ในประเทศอิตาลี ก่อนที่ในปีถัดมาเขาจะสามารถขึ้นเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งแชมป์ในรายการ Senior Mini European และเข้าไปชิงแชมป์ต่อในรายการ European Open Championship ในปี 2006 ก่อนที่จะเข้าแข่งในรายการ Red Bull Rookies Cup ในปี 2007-2008 เรียกได้ว่าขยับคลาสกันอย่างต่อเนื่องทุกปี ในที่สุดเขาก็ได้ขึ้นมาสู่รายการระดับ World…
2024 Honda SH150i Vetro รถมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์ยอดนิยมของค่ายปีกนก Honda ในตลาดยุโรป ได้ทำการอัพเดตสีใหม่เพื่อความสดใหม่ของไลน์อัพอย่างทุกครั้ง แต่การเปลี่ยนสีใหม่ในครั้งนี้กลับพิเศษมากกว่าปกติ เนื่องจากมันไม่ใช่แค่การเปลี่ยนสีภายนอกของแฟริ่งพลาสติกธรรมดา เนื่องจากชิ้นพลาสติดชุดใหม่นั้นมาเป็นพลาสติกสีแบบใส เหมือนกับเครื่องเกมจากช่วงยุค 90 ที่หลายคนอาจเคยสัมผัส 2024 Honda SH150i Vetro นั้นถือเป็นสีใหม่สำหรับรถรุ่นสำหรับจำหน่ายในปีหน้าสำหรับตลาดยุโรป ไม่ใช่สีพิเศษที่ผลิตในจำนวนจำกัดแต่อย่างใด โดยมันถูกประกอบขึ้นที่โรงงานในประเทศอิตาลี และถึงแม้ว่าชื่อของมันจะทำให้เรานึกว่ามันเป็นเครื่องยนต์รหัสเก่า แต่แท้จริงแล้วเครื่องยนต์ของมันก็ไม่มีความแตกต่างอะไรจากเครื่องยนต์ของ PCX160 ที่ขายในประเทศไทยด้วยเครื่องยนต์ความจุ 156 ซีซี 1 สูบ ที่ให้พละกำลังสูงสุด 16.2 Hp 8,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 14.2 Nm ที่ 6,500 รอบ/นาที นอกจากชุดสีเขียวใสที่ส่องเห็นชิ้นส่วนด้านใจ สเปคด้านอื่นของตัวรถก็ไม่ได้มีความแตกต่างออกไปจากรถรุ่นปกติ ระบบไฟส่องสวส่างด้านหน้าและไฟเบรกเป็นแบบ LED แต่ไฟเลี้ยวยังคงเป็นหลอดใส้, หน้าจอแสเงผลแบบ LCD, ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบหัวตั้ง ด้านหลังแบบสปริงคู่, ระบบเบรกหน้า-หลังแบบดิสก์…
การแข่งขัน Sprint Race ของรายการ AustralianGP ที่ได้ย้ายมาใช้แข่งขันในวันอาทิตย์ โดยการสลับที่กับการแข่งหลักที่ถูกนำไปจัดในวันเสาร์เพื่อหนีสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ ดูเหมือนจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของผู้จัด หลังจากที่ท้ายที่สุดแล้ว Sprint Race ดังกล่าวถูกยกเลิกไปเนื่องสภาพอากาศที่เป็นไปตามการพยากรณ์ ซึ่งมันก็แย่มาตั้งแต่การแข่งขันในรุ่นกลาง ที่จบลงด้วยการตีธงแดง ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ไม่ได้เห็นการแข่งอีกรอบในวันอาทิตย์ แต่การตัดสินใจโดยดูจากความปลอดภัยไว้ก่อนนั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด “สถานะการณ์ตอนนั้นมันอันตรายมาก เราสามารถถูกผลักออกจากพื้นสนามที่ความเร็ว 300-350 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในช่วงสุดทางตรง(หมายถึงรถถูกผลักตอนทำความเร็วสูงสุด)” Luca Marini กล่าว “ตอนเช้าอากาศก็หนาวมาก มันเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการอุณหภูมิยางให้พร้อมลงแข่ง” ทางด้านเพื่อนร่วมทีมอย่าง Marco Bezzecchi ก็เห็นตรงกัน “ผมไม่คิดว่าเราสามารถทำให้ดีกว่านี้ได้ พวกนักแข่งในรุ่น Moto3 และ Moto2 ก็ถือว่าเก่งมากที่แข่งในสถานะการณ์แบบนั้น เพราะอากาศตอนนั้นก็เข้าขั้นแย่ไปแล้ว ในตอนที่เรา Warm-Up ตอนเช้า เรื่องน้ำบนสนามไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่เป็นเรื่องลมและความเย็นต่างหาก” ทางด้านแชมป์โลกคนล่าสุด Francesco Bagnaia ถึงแม้เจ้าตัวจะยังอยากให้มีการแข่งขันต่อ แต่ก็เห็นด้วยว่ามันอันตรายเกินไป “ผมดีใจที่ผู้จัดตัดสินใจแบบนั้น ช่วงที่มีแข่ง Moto2…