Alex Rins อดีตนักแข่งที่สรา้งชื่อเสียงบนเวทีใหญ่กับค่ายคนบ้า Suzuki ที่ปัจจุบันหลังวงแตกก็ได้ย้ายชายคามาอยู่กับค่ายปีกนก Honda เมื่อมองผิวเผินก็ดูเหมือนอนาคตจะสดใส หลังเจ้าตัวสามารถคว้าแชมป์สนามที่ Circuit of the America ที่ค่ายปีกนกเผ้ารอมานานได้สำเร็จ แต่พอเพ่งดูให้ดีก็จะเห็นว่าอันดับที่ดีรองลงมาของนักแข่งคนนี้คือที่ 9 และ 10 แถมยังไม่จบการแข่งขันอีก 2 รอบ นั้นจึงเป็นประเด็นในผู้จัดการนักแข่งเบอร์ใหญ่ในวงการ MotoGP อย่าง Carlo Pernat ที่มีประสบการณ์การวิเคราะห์นักแข่งอันโชกโชน ออกมาวิเคราะห์ถึงอนาคตของ Alex Rins ไว้ว่านักแข่งผู้นี้มีแววย้ายทีม ถึงแม้ว่าจะมีสัญญาอยู่กับ Honda อีกปีนึงก็ตาม “สำหรับผมมันชัดเจนว่า Rins จะย้ายไปอยู่กับ Yamaha ในปีหน้า” Pernat กล่าว ซึ่งเหตุผลสนับสนุนเรื่องนี้นอกจากจะเป็นเรื่องผลงานของค่ายปีกนกที่ไม่เข้าตาแล้ว รถแข่งของ Yamaha นั้นยังเป็นรถแข่งคันเดียวในสนามที่ใช้เครื่องยนต์แบบสูบเรียง ซึ่งเป็นประเภทของรถแข่งที่ Alex Rins นั้นมีประสบการณ์ด้วยมากที่สุด เนื่องจากเป็นเครื่องยนต์ที่ใกล้เคียงกับรถเก่าของ Suzuki…
Author: Kristha
Marco Bezzecchi นักแข่งขาวอิตาลีจากสำนัก VR46 ที่กำลังไปได้สวยในการแข่ง MotoGP ฤดูกาลปัจจุบัน หลังจากการคว้าแชมป์สนามมาถึงสองครั้งที่อาเจนตินาและฝรั่งเศส แถมยังมีชัยในการแข่ง Sprint Race นั้นจึงทำให้ต้นสังกัดอย่าง Ducati เห็นแววและความสามารถของเขา ซึ่งนั่นก็ทำให้ค่ายแดงตัดสินใจมอบรถแข่งสเปคโรงงานให้กันนักแข่งรายนี้ในการแข่งขันปีหน้า ซึ่งคนที่ออกมาพูดเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น Gigi Dall’Igna เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ Ducati นั้นเอง “ใช่ครับ เขาคู่ควรที่จะได้รับมัน(Ducati Desmosedici GP24) ที่นี่เรารักคนมีความสามารถ Ducati เป็นเหมือนครอบครัว พวกเราต้องรับรู้และให้ความเคารพกับคนที่มีส่วนร่วมช่วยผลักดันนักแข่งขึ้นมาในระดับนี้” เขากล่าวหลังจบการแข่งขันที่ Assen ซึ่ง Bezzecchi สามารถจบด้วยตำแหน่งรองแชมป์ โดยทาง Marco Bezzecchi ที่จะได้รับตัวแข่งสเปคโรงงานในปีหน้าก็กล่าวว่า “แน่นอนว่าผมดีใจและภูมิใจมาก ต้องขอบคุณเขา(Gigi Dall’Igna) เพราะรถแข่งสเปคโรงงานเป็นสิ่งที่ผมต้องการมาโดยตลอด ตอนนี้ทุกอว่างเป็นไปได้สวยที่ VR46 พวกเขาเป็นเหมือนพี่น้องกับผม ผมไม่คิดว่าตัวเองจะแข่งได้แบบนี้ถ้าไม่มีพวกเขา มันจึงเป็นความฝันที่จะได้รถแข่งโรงงานในปีหน้า(แข่งทีมเดิมแต่ได้รถทีมโรงงาน)” ในขณะที่ผู้จัดการทีม VR46…
2023 Ducati Scrambler ราคา ไทยเปิดขายแล้ว 3 รุ่น 3 ราคา กับมอเตอร์ไซค์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิกสแครมเบลอร์จาก Ducati ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่รอบคัน จัดเต็มด้วยเทคโนโลยีทันสมัย แต่ยังคงไว้ด้วยเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยอากาศแบบดั้งเดิม เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยในไทย หลังจากที่ MotoRival เราได้ทดสอบกันตั้งแต่เดือน เม.ย. ในงาน Global Test ซึ่งมันจะมาพร้อม 3 รุ่นย่อยต่างสไตล์ 2023 Ducati Scrambler ราคา เริ่มไม่ถึง 4 แสน มันยังคงใช้พื้นฐานเครื่องยนต์ L-Twin ระบายความร้อนด้วยอากาศ 2 วาล์วต่อสูบแบบ Desmodromic ที่มีปริมาตรกระบอกสูบอยู่ที่ 803 ซีซี ปรับปรุงรายละเอียดภายในใหม่ ทำให้ นน.ลงไป 2.5 กก. ให้พละกำลังสูงสุด 73 Hp @ 8,250…
Royal Enfield ค่ายรถมอเตอร์ไซค์ลูกครึ่ง อังกฤษ-อินเดีย ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดโลก จากการเจาะกลุ่มรถคลาสกลางด้วยรถในคลาส 650 series อย่าง Interceptor และ Continental GT และล่าสุดกับรถครุยเซอร์อย่าง Super Meteor แต่ดูเหมือนว่าในระยะยาว ทางค่ายก็มีแผนที่จะขยับขยายไปสู่ตลาดที่อยู่สูงกว่านั้น ปัจจุบันข้อมูลเกี่ยวกับการที่ Royal Enfield มีแผนจะผลิตรถมอเตอร์ไซค์ที่มีขนาดเครื่องยนต์ใหญ่ขึ้นยังเป็นเพียงแค่ข่าวลือ แต่จากการที่มีการค้นพบชื่อรหัส R2G ก็ทำให้สื่อจากอินเดียเชื่อว่ารถรุ่นใหม่ดังกล่าว คือการนำพื้นฐานของรถในตระกูล 650 series ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมันแบบ 2 สูบเรียง มาทำการพัฒนาต่อยอดให้มีความจุเพิ่มขึ้น เพื่อตอบรับกับตลาดอย่างสหรัฐอเมริกาที่ต้องการรถที่มีพละกำลังสูงขึ้น เนื่องจากรถที่มีพละกำลังสูงสุดของทางค่ายนั้นให้พละกำลังสูงสุดแค่ 47 แรงม้า รถคันแรกของ 750 series นั้นถูกคาดการณ์ว่าเป็นรถในสไตล์บ็อบเบอร์ ซึ่งดูแล้วก็น่าจะเหมาะกับความเป็นรถอังกฤษ ผสมกับอเมริกันอยู่ไม่น้อย ในขณะที่รถสไตล์อื่นก็ถูกพิจารณาที่จะเปิดตัวตามมาในอนาคต และนี่ก็จะไปตรงกับแนวคิดของผู้บริหารที่เคยบอกไว้ว่า ทางค่ายจะเน้นไปที่ตลาดรถคลาสกลางที่มีความจุ 350-750 ซีซี และไม่ได้มีแผนทำรถที่มีเครื่องยนต์ใหญ่หรือเล็กกว่านี้ ที่มา autocarindia…
BMW CE 02 รถมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์พลังงานไฟฟ้า EV คันเล็กจากค่ายบาวาเรีย BMW ที่เคยถูกเปิดตัวในฐานะรถต้นแบบไปตั้งแต่ปี 2021 ในตอนนี้มันได้ถูกเปิดตัวใหม่อีกครั้งในฐานะรถรุ่นผลิตจริงในวัน BMW Motorrad Day สำหรับการวางจำหน่ายในปี 2024 โดยวางตำแหน่งให้เป็นน้องเล็กของ CE 04 ที่มีระดับพลังเทียบเท่ารถสกู๊ตเตอร์ประจำบ้าน BMW CE 02 นั้นจะทำตลาดในฐานะรถสกู๊ตเตอร์ประจำบ้านระดับเริ่มต้น ที่จะแบ่งพละกำลังสูงสุดไว้สองระดับคือ เทียบเท่ามอเตอร์ไซค์เครื่อง 50 ซีซี มาพร้อมมอเตอร์ที่ให้พละกำลังแบบต่อเนื่องได้ 4 แรงม้า และเค้นสูงสุดได้ที่ 5 แรงม้า ทำความเร็วได้สูงสุด 45 กิโลเมตร/ชั่วโมง และเทียบเท่ามอเตอร์ไซค์เครื่อง 125 ซีซี มาพร้อมมอเตอร์ที่ให้พละกำลังแบบต่อเนื่องได้ 8 แรงม้า และเค้นสูงสุดได้ที่ 15 แรงม้า ทำความเร็วสูงสุด 95 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยการแบ่งแบบนี้จะเป็นการแบ่งตามระดับใบขับขี่ของทางยุโรป ทางด้านแรงบิดของทั้งสองรุ่นนั้นเท่ากันที่…
TVS Apache R310 มอเตอร์ไซค์สปอร์ตเปลือยคลาสเริ่มต้นรุ่นใหม่จาก TVS ค่ายรถรายใหญ่จากอินเดีย ที่เราอาจจะคุ้นหูกันในฐานะค่ายรถที่ร่วมมือกับ BMW ในการพัฒนารถมอเตอร์ไซค์คลาสเริ่มต้นอย่างตระกูล G310 series ที่แรกเริ่มเดิมทีนั้นทางทางค่ายบาวาเรียได้ทำการขายรถในโฉมสปอร์ตเปลือย และโฉมยกสูงไปก่อนแล้ว ทางด้านค่ายชมพูทวีปก็ได้เปิดตัวรถโฉมสปอร์ตมีเปลือกอย่าง Apache RR310 ไปนานหลายปี แต่กลับไม่มีร่างเปลือยตามมาจนกระทั่งตอนนี้ TVS Apache R310 ที่อยู่ในภาพหลุดดังกล่าว(ชมภาพได้ที่นี่) นั้นเป็นเพียงแค่ชื่อสมมุติที่เราตั้งขึ้นมาเป็นการเฉพาะเท่านั้น รถคันจริงนั้นคาดว่าจะต้องใช้ชื่อที่ต่างไปจากนี้ ในขั้นต้นจะเห็นได้ว่าตัวรถนั้นจะยังคงถูกสร้างอยู่บนพื้นฐานเดียวกับ Apache RR310 และ G310R ไล่ตั้งแต่เครื่องยนค์สูบเดียว 312 ซีซี ชุดเฟรมเหล็กถัก สวิงอาร์ม ระบบกันสะเทือน จะต่างไปก็แค่ชุดแฟริ่งรูปลักษณ์ภายนอก และชุดล้อใหม่เท่านั้น ทางด้านระดับความคืบหน้านั้นดูเหมือนว่าจะยังอยู่ในช่วงต้นแบบ หรือไม่ก็อยู่ในช่วงของการพัฒนาสำหรับการใช้เป็น Concept Bike ในการโชว์ตัวเท่านั้น ไม่ใช่รถตัวขายจริงแต่อย่างใด เนื่องจากเราจะเห็นได้ว่ารถคันดังกล่าวนั้นใช้ซับเฟรมที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งเกิดต้นทุนการวางจำหน่ายสำหรับรถคลาสนี้ไปมาก และท่อไอเสียทรงรถแข่งที่ไม่สามารถนำมาใช้จริงบนท้องถนนได้ ข้อมูลในปัจจุบันของ TVS Apache R310…
สื่อมอเตอร์สปอร์ตชื่อดังอย่าง Speedweek ได้เผยข้อมูลตัวเลขเงินสนับสนุนที่ทาง Dorna เจ้าของลิขสิทธิ์การแข่งขัน MotoGP ได้มอบให้กับเหล่าทีมแข่งในรายการของตัวเอง ซึ่งนี่อาจเป็นเรื่องที่หลายคนไม่เคยทราบมาก่อนว่าทีมแข่งนั้นได้รับเงินจากผู้จัดด้วย นั่นก็เพื่อทำให้แน่ใจว่าเหล่าทีมแข่งนั้นจะมีสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อให้มีรถแข่งวิ่งอยู่ในสนามอยู่อย่างพอเพียง ไม่ทำให้การแข่งขันดูจืดชืดเพราะมีรถแข่งน้อยเกินไป โดยค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนทีมแข่งที่เราจะนำมาให้ทุกคนได้เห็น เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการแข่งขันปี 2023 ที่มีการแข่งขันทั้งหมด 20 สนาม(จาก 22 สนาม เนื่องจากตัดรายการแข่งที่ ฟินแลนด์ และ คาซัคสถาน) โดยเราจะขอเริ่มกันที่เงินค่าเช่ารถแข่ง ที่โดยปกติแล้วทีมแข่งอิสระจะเป็นผู้ออกเงินเช่ารถแข่งมาจากทีมโรงงานด้วยราคาประมาณ 2.2 ล้านยูโร(84.5 ล้านบาท) และทาง Dorna จะให้เงินกับทีมโรงงาน 1 ล้านยูโร(38 ล้านบาท) เพื่อช่วยสนับสนุนให้ทีมโรงงาน ยอมนำรถของตัวเองไปให้ทีมอิสระใช้ ซึ่งรถแข่งที่ปล่อยเช่านั้นมีราคาแพงกว่าค่าเช่ารถมาก โดยทีมโณงงานไม่ว่าจะเป็น Honda, KTM, Aprilia ที่มีรถทีมอิสระอยู่ค่านละ 2 คัน ต่างก็ได้เงินตรงนี้ไปทีมละ 2 ล้านยูโร(77 ล้านบาท) ทางด้าน Ducati…
Marc Marquez นักแข่งดีกรีแชมป์โลกชื่อดัง MotoGP ได้จับมือร่วมกับ AirBnB ผู้ให้บริการจัดการห้องพักออนไลน์ระดับโลก เปิดให้เช่าพักบ้านมอเตอร์โฮมด้วยราคาสุดพิเศษเพียง 93 ยูโร หรือประมาณ 3,500 บาท ตามหมายเลขประจำตัวของนักแข่งผู้นี้ ซึ่งนี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งความเอ็กคลูซีพที่ไม่สามารถหาได้ทั่วไป เพียงแค่คุณลงชื่อที่เว็บของ AirBnB คุณก็มีสิทธิ์ลุ้นรางวัลสุดยอดดังกล่าว โดยสิ่งที่คุณจะได้รับจากแพ็คเกจห้องเท่าสุดหรูนี้คือ – นอนหนึ่งคืนในมอเตอร์โฮมที่แต่งในธีมของ Marc Marquez ซึ่งจะจอดอยู่ข้างมอเตอร์โฮมคันจริงที่นักแข่งคนนี้นอนพักอยู่ ในโซนหมู่บ้านนักกีฬีที่ปกติจะมีแค่นักแข่ง ทีมช่าง และสื่อที่เข้าไปได้ – ห้องนอนจะถูกจัดด้วยคอลเล็กชั่นส่วนตัวของ Marc Marquez ไม่ว่าจะเป็นถ้วยรางวัล หมวกกันน็อค ชุดแข่ง และอีกมากมายที่วางอยู่เต็มห้องนอน – บัตร MotoGP VIP Village – ลองขับเครื่อง MotoGP Simulator – เดินทัวร์แพ็ดด็อคและพิตบ็อกส์ ทุกคนสามารถเข้าไปจองได้ในลิ้งที่เราให้มาก่อนวันที่ 19 กรกฎาคม เวลา…
Aprilia RS440 รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตน้องเล็กจาก Aprilia ถูกจับภาพได้แบบชัดเจน ขณะกำลังวิ่งทดสอบอยู่ในประเทศอินเดีย(ชมภาพได้ที่นี่) แสดงให้เห็นกระแสของรถมอเตอร์ไซค์คลาสเริ่มต้นในระดับโลกที่กำลังมาแรง เมื่อค่ายใหญ่จากยุโรปและอเมริกาอย่าง Triumph, Harley-Davidson, KTM ต่างก็พยายามรุกตลาดกลุ่มนี้อย่างหนักในช่วงปีที่ผ่านมา คราวนี้ก็มาถึงตาของรถอิตาลีสายสนามกันบ้าง Aprilia RS440 นั้นเป็นเพียงแค่ชื่อสมมุติของรถสปอร์ตคลาสเริ่มต้นคันนี้เท่านั้น ซึ่งตั้งชื่อตามแนวทางของรถรุ่นพี่อย่าง RS660 แต่รายละเอียดทางเทคนิคที่แท้ของของรถรุ่นดังกล่าวนั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด ทั้งในด้านปริมาตรกระบอกสูบของจำนวนลูกสูบ แต่หากอ้างอิงจากข้อมูลที่หลุดออกมาเมื่อปีที่แล้ว ว่าทางค่ายได้ทำการพัฒนาเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง สำหรับมอเตอร์ไซค์คลาสเริ่มต้นเอาไว้ เราก็ขอคาดเดาว่ารถในภาพ Spyshot อาจจะใช้เครื่องยนต์ลูกดังกล่าวก็เป็นได้ ทางด้านรูปลักษณ์ภายนอกนั้นจะเห็นได้ว่ายกงานออกแบบมาจากรถรุ่นพี่อย่าง RS660 และ RSV4 แบบยกชุด(แบบเดียวกับค่ายเขียวเลยนะ) แต่ถูกนำมาย่อขนาด ปรับอัตราส่วนรอบคันให้เหมาะสมกับการเป็นมอเตอร์ไซค์คลาสเริ่มต้น ชุดเฟรมและสวิงอาร์มนั้นเป็นของใหม่หมดจด แต่ทำให้มีรูปร่างหน้าตาคล้ายของรุ่นพี่ ระบบเบรกหน้านั้นก็ลดลงเหลือแค่ดิสก์เบรกเดี่ยว ซึ่งก็ไม่ได้ถือว่าน่าเกลียดเลยเมื่อเทียบกับคู่แข่ง Aprilia RS440 นั้นเราคาดว่าจะได้เห็นความคืบหน้าเพิ่มเติมกันในปลายปีนี้ หากดูจากสภาพความพร้อมของรถที่กำลังวิ่งทดสอบ หรืออย่างช้าก็คงไม่เกินปลายปีหน้า ทางด้านของราคานั้นก็คาดว่าจะตั้งออกมาให้ไม่หนีห่างจากคู่แข่งที่ใกล้ชิดที่สุดอย่าง KTM RC390 หรือ Honda CBR250RR…
ใครที่ติดตามการแข่งขัน MotoGP ในปัจจุบันคงจะได้เห็นกันแล้วว่าสภาพความพร้อมในการแข่งขัน ของค่ายรถจากฝั่งญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็น Honda หรือ Yamaha ในตอนนี้เรียกได้ว่าอยู่ในระดับที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับดีกรีความเป็นแชมป์โลกที่สะสมมาในอดีต แม้แต่การแข่งขันกับทีมอายุน้อยจากยุโรปอย่าง KTM ก็ยังถือเป็นเรื่องยากลำบาก จนล่าสุดกรรมการการแข่งขันก็ได้เสนอปรับกติกา ให้ทีมแข่งเพื่อช่วยญี่ปุ่นทั้งสองสามารถกลับมาสู้บนหัวแถวได้อีกครั้ง แนวทางการปรับกติกาที่ว่านี้คือการพยายามทำให้ทีมที่จากญี่ปุ่นทั้งสอง สามารถใช้กติกาแบบเดียวกับ “ทีมแข่งผู้ผลิตหน้าใหม่” ซึ่งปกติแล้ว รถแข่งของค่ายผู้ผลิตแต่ละเจ้านั้นจะต้องมีการยื่นจดสเปคกับทางกรรมการการแข่งขันทุก 2 ปี และในระหว่านั้น รถแข่งของแต่ละค่ายจะไม่สามารถปรับเปลี่ยนรายสเปคละเอียดของรถแข่งได้มากกว่าที่กำหนดไว้ กติกาข้อนี้มีเพื่อป้องกันทีมแข่งขนาดใหญ่ที่มีเงินหนา ลงทุนพัฒนารถใหม่อย่างต่อเนื่อง จนค่ายผู้ผลิตขนาดเล็กไม่สามารถตามทันได้ แต่ขณะเดียวกัน ทีมแข่งหน้าใหม่ไม่จำเป็นต้องทำตามข้อกำหนดนี้ เพื่อให้พวกเขาสามารถพัฒนารถแข่งของตัวเอง เพื่อให้ขึ้นมาสู้กับค่ายรถใหญ่ได้อย่างเท่าเทียมมากขึ้น พร้อมตั้งเส้นตายไว้ว่า หากทีมเหล่านั้นสามารถทำผลงานได้ดีมากกว่าเกณฑ์เมื่อไร พวกเขาก็ต้องเปลี่ยนมาอยู่ในกติกาเดียวกับทีมใหญ่ในปีต่อมา ทางด้านทีมใหญ่ที่ไม่สามารถขึ้นโพเดียมได้เลยตลอดฤดูกาล ก็สามารถใช้กติกาพิเศษสำหรับทีมหน้าใหม่ได้เช่นกัน ปัญหาคือทั้ง Honda และ Yamaha ต่างก็พยายามเต็มที่ และยังพอจะสามารถขึ้นโพเดียมหรือชนะได้บ้าง ซึ่งมันก็ทำให้ภาพรวมของทีมเหล่านี้ยังคงวิ่งวนอยู่กลางตารางเป็นส่วนใหญ่ เพราะตัวแข่งไม่ได้พัฒนาขึ้นให้ทันคนอื่น ทางกรรมการแข่งขันจึงหาวิธีทำให้ทีมอดีตแชมป์ทั้งสอง เข้าถึงกติกาทีมเด็กใหม่ได้ง่ายขึ้น แต่ความยากคือ การแก้กติกาประเภทนี้ต้องได้รับความเห็นชอบจากทีมแข่งรายอื่นด้วย ที่มา crash อ่านข่าวสาร…