หลังจากที่ก่อนหน้านี้ KTM ค่ายรถไร่ส้มจากออสเตรียได้ประกาศออกมาว่าพวกเขากำลังประสบปัญหาทางการเงิน ซึ่งส่งผลกระทบถึงสภาพคล่องของบริษัท จนตอนนี้พวกเขาได้ทำการปลดพนักงานทั่วโลกไปแล้วเกือบพันคน และอาจจะลามไปถึงขั้นการเปลี่ยนมือเจ้าของกิจการ เนื่องจากมีรายงานว่าทางค่ายได้เข้าไปติดต่อกับ Bajaj และ Red Bull ให้เข้ามาช่วยอุ้ม
จนถึงตอนนี้อนาคตของบริษัทก็ยังคงไม่มีความแน่นอน ในฝั่งของเวทีการกีฬาความเร็วก็อยู่ไม่สุข เนื่องจากเป็นแผนกที่มีค่าใช้จ่ายสูง แต่กลับไม่สามารถสร้างรายได้โดยตรงให้กับบริษัทได้ หลายฝ่ายจึงเริ่มกังวลว่าค่ายไรส้มอาจจะถอนตัวออกจากการแข่งขัน MotoGP หากสถานะทางการเงินไม่ดีขึ้น
ซึ่งล่าสุดก็มีรายงานออกมาว่า Pierer Mobility Group ที่เป็นบริษัทแม่ของทั้ง KTM Husqvarna GASGAS ได้เตรียมแผนที่จะขายค่ายรถพรีเมี่ยมอย่าง MV Agusta ที่พวกเขาเพิ่งซื้อกิจการเข้ามาครอบครองเมื่อช่วงต้นปีทิ้งไป เพื่อเอาเงินเหล่านั้นมาใช้หมุนเวียนภายในบริษัทแม่ และหล่อเลี้ยงสามค่ายรถหลักของตัวเองก่อน
แน่นอนว่าการตัดสินใจนี้ก็ถือว่าดูมีเหตุผลเป็นอย่างยิ่ง เพราะการขายค่ายรถที่ตัวเองยังไม่ได้ลงทุนลงไปมากเท่าไร น่าจะดีกว่าการที่จะต้องเสียสามค่ายหลักของตัวเองไปจนหมด แต่นั่นก็ทำให้เราเกิดความสงสัยว่าทำไม Pierer Mobility Group ถึงตัดสินใจลงทุนหลายพันล้านเพื่อซื้อ MV Agusta มาไว้กับตัวเองตั้งแต่แรก
ทั้งที่แนวทางของค่ายรถจากอิตาลีก็ต่างกับตัวเองมาก จะแชร์พื้นฐานร่วมกับรถรุ่นอื่นในเครือเพื่อลดต้นทุนก็ทำไม่ได้ เพราะจะทำให้ภาพลักษณ์งานศิลป์ของฝั่งอิตาลีเสียหาย ส่งผลให้ MV Agusta ต้องถูกขายทอดตลาดอีกครั้งหลังจากที่ KTM ซื้อมาถือเล่นอยู่เพียงแค่ 9 เดือน
อ่านข่าวสาร KTM เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าวสาร MV Agusta เพิ่มเติมได้ที่นี่