รีวิว CL500 กันอีกครั้ง บิดออกทริป แบบซ้อน2 กันบ้าง

หลังจากที่ MotoRival เราได้ทำ รีวิว CL500 & CL300 ไปถึง 2 ครั้ง 2 ครา ด้วยกัน
ทั้งการทดสอบแบบสัมผัสแรกที่สนาม Honda Safety ไปแล้ว (อ่านได้ที่นี่)

รวมไปถึงการทดสอบแบบขี่ออกทริป ไปแล้วเช่นเดียวกัน รับชมได้ที่นี่

ครั้งนี้ MotoRival เราได้มีโอกาสอีกครั้ง ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่า เราได้รีวิว แบบไม่ซ้ำกับครั้งก่อน ซึ่งคราวนี้ขี่แบบซ้อนสองกันบ้าง ว่ามันจะเป็นเช่นไร
และในคอนเท้นต์นี้ ผมก็จะขอไม่พูดสเป็กรายละเอียดรถซ้ำ เพราะก็พูดกันไปหลายรอบแล้ว
สำหรับรายละเอียดของตัวรถ สามารถดูได้จากคอนเท้นต์ พรีวิว CL Series ที่นี่

สำหรับการทดสอบในครั้งนี้ MotoRival เราได้มีโอกาส ขี่กันที่เขาใหญ่ โดยวิ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก Movenpick เขาใหญ่ ในช่วงรัศมีการทดสอบประมาณ 90 กม.
โดยส่วนใหญ่ จะเป็นทางดำ ที่ไม่ใช่ทางแบบ Hi Speed มีโค้งให้เล่น และมีทางฝุ่นย่อมๆ ลุย Off-Road นิดหน่อย ซึ่งถือว่าเส้นทางกำลังเหมาะสมเลยกับการขี่ซ้อน 2

เพื่อไม่ให้เราขอมาเริ่มกันที่ท่านั่งกันก่อนเลย
เริ่มที่เบาะสูง 790 มม. แต่เบาะแคบ ผมสูง 175 ซม. สวมรองเท้าบู๊ท ก็ยังนั่งหย่อนเข่่าได้สบายๆ คนตัวสูงไม่มากนักผมว่ายังสามารถนั่งคร่อมได้ไม่ลำบากนัก

แฮนด์บาร์ ทรงกลาง ออกสไตล์ Naked Bike ทั่วๆไป ไม่ได้กางยาวมาก ทำให้มันสามารถขี่ได้ทั้ง OnRoad และ OffRoad ได้อย่างเหมาะสม
และขี่ลัดเลาะช่องจราจร ไม่ลำบาก เหมือนสไตล์ Scrambler แท้ที่ เป็นแฮนด์กางยาว และปลายยกขึ้น

ถังน้ำมันมาพร้อม Grip Tank ส่วนตัวกับช่วงเข่าผม ผมไม่ค่อยชอบ เพราะมันดันๆช่วงเข่านิดหน่อย แต่ก็ยังนั่งหนีบถังได้อยู่
พักเท้าดีไซน์ออกแบบให้ถอดยางหุ้มออกได้ หากใครอยากขี่ Enduro จริงจัง หรือ อยากแต่งสไตล์ Custom

มาที่ ตำแหน่งคนซ้อน เริ่มที่ตัวเบาะแม้จะเป็นตอนเดียว แต่องศาจะ Slope ไปหาผู้ขี่ ดังนั้นเวลาเบรก จะมีจังหวะที่ผู้ซ้อนไหลมากระแทกกับผู้ขี่

จุดที่หลายคนกังวล คือ ท่อยกสูงจะร้อนขาไหม ก็ต้องบอกว่า ในวันทดสอบแดดแรงพอสมควร ผู้ซ้อนสวมยีนส์ขายาว ไม่สัมผัสถึงไอร้อน เพราะตามที่ได้บอกไปตั้วแต่พรีวิว แล้วว่า การ์ดกันร้อนท่อออกแบบมาถึง 3 ชั้นด้วยกัน ดังนั้นหายกังวลได้เลย ว่าไม่ลวกขาแน่นอน (ท่อเดิมนะ)

ส่วนมือจับกันตกด้านหลังนั้นไม่มีมา เป็นเพียงสายลากจูงบนตัวเบาะ ดังนั้นเวลาซ้อน ก็จะต้องหนีบสะโพกผู้ขี่ หรือ เกาะเอว ส่วนเวลาเบรกก็ต้องใช้วิธีเอาฝ่ามือค้ำตัวถังน้ำมัน

สำหรับภาพรวม นน. ตัวและการคอนโทรลรถ CL500 ที่มี นน.ระดับช่วง 190 กก. ก็ไม่ได้เบาเลย เวลาที่เข็นรถ แต่ในจังหวะขี่ ถือว่าคล่องแคล่วคล่องตัวดีประมาณหนึ่ง จากการใช้ล้อขอบ 19″ ด้านหน้า หลัง 17″ จึงทำให้มันพลิกรถได้ง่าย

บล็อกเครื่องยนต์ เป็น 2 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ พิกัด 471cc แน่นอนเป็นบล็อกเลื่องชือ ของ Honda 500 Series แรงบิดดี ประหยัดน้ำมันพอตัว
ไม่ต้องเค้นกำลังที่รอบสูง กับการใช้งานสไตล์ Scrambler ผมว่าก็ทำได้ดีเหมาะสม เพราะมีกำลังมาให้ใช้ตั้งแต่ตีนต้น ออกตัวที่รอบต่ำ ซ้อน 2 ก็ยังเร่งแซงได้หายห่วง ในช่วงความเร็วเดินทางที่ไม่สูงเกินไป

แต่เราได้มีจังหวะไปขี่ทางฝุ่นด้วย ซึ่งก็ต้องบอกว่า เวลาเปิดคันเร่งนั้นก็อาจต้องละเมียดละไม สักหน่อย อย่ากระแทกคันเร่ง เพราะรถไม่มี TCS คันเร่งไฟฟ้า หรือ โหมดช่วยใดๆ
แรงบิดที่หนักพอตัวใสนรอบต่ำ จึงอาจต้องระวังกันหน่อย ไม่งั้นอาจมี Slide ล้อปัดกันได้

ส่วนการขี่ที่ความเร็วสูงนั้น ต้องบอกว่าถ้าขี่เกิน 130kmph+ อาจพบอาการชนลม อยู่ทำให้ถ้านั่งหลังตรงก็อาจจะเริ่มขึ้นช้าแล้ว โดยรวมถ้าไม่ใช่สายบ้าพลัง CL500 ถือว่าเพียงพอไม่ว่าจะขี่ในเมือง หรือ ขี่ออกทริปเดินทาง

ส่วนระบบกันสะเทือน แน่นอนว่าด้านหน้ายังเป็นหัวตั้ง ด้านหลังเป็นสปริงคู่
ภาพรวมผมว่าช่วงล่างถือว่า ถือว่าติดออกไปทางค่อนข้างนิ่มนิด แต่เรื่องการซับแรงทำได้ดีพอตัว และมีระยะยุบพอประมาณ คือ ขี่ซ้อน2 ไม่รู้สึกว่ากระแทก

แต่อาจมีเด้งนิดหน่อยตอนตกหลุม
แต่ก็ต้องเข้าใจว่าช่วงล่างอาจจะไม่คม เวลาพลิกเข้าโค้งเร็วๆ เหมือนพวก 500 Series ตัวสปอร์ตที่ใช้โช้กหลังเดี่ยว

ระบบเบรก ยังเป็นเบรกแบบจานดิสก์เดี่ยวทั้งหน้า-หลัง ทำให้หลายคนอาจผิดหวัง เพราะ 500 Series รุ่นอื่นๆ ให้มาเป็นดิสก์คู่กันหมดแล้ว ยิ่ง 500R กับ 500F ได้เบรก 4 pots
แต่ก็เข้าใจได้ด้วยการใช้พื้นฐาน Rebel จึงได้ระบบเบรกมาเหมือนกัน เพราะถ้าให้ผมพูดตามตรง Scrambler อิตาลี 803cc ก็ยังได้ จานดิสก์หน้าเดี่ยวเช่นกันเลย

คือ ภาพรวมการทำงานแบบใช้งานทั่วไป เพียงพอแล้ว ยิ่งถ้าไปขี่ Enduro ยิ่งไม่ควรใช้เบรกหน้าเยอะ
แต่ก็แน่นอนว่าทางกลับกัน ใครสายซัดสายซิ่ง แล้วชอบเบรกหนัก ก็อาจจะไม่พอ คงต้องเผื่อระยะเบรกกันหน่อย เพราะสไตล์คาแรกเตอร์เบรกของปั๊ม Nissin เค้าจะต้องไล่น้ำหนัก ไม่ใช่เบรกแบบทีเดียวจิกหมับเอาอยู่

สรุป รีวิว CL500
เอาเป็นว่าใครชอบขี่รถแบบแนวคัสตอม หรือ เน้น Lifestyle ที่ไม่ใช่สาย Performance ผมว่าคันนี้ตอบโจทย์ ลุยได้ทั้งทางดำทางแดง ที่ไม่ได้ Hard Enduro หรือ เดินทางไกล แบบไม่ Hardcore ก็ไปได้ ซ้อน 2 ก็ยังไหวใน CL500
แต่แน่นอน ถ้าคุณกางสเป็กมองหาความคุ้มค่า กรุณาไป CB500X จะเหมาะกว่า และมันเป็นรถที่เดินทางทัวริ่งวิ่งยาวๆ ได้ดีกว่าด้วย