รีวิว Continental ContiRoad ยางล่าสุดสัญชาติเยอรมัน สำหรับสายสปอร์ต-ทัวริ่ง มิดไซส์ขึ้นไป จะแห้งหรือเปียกก็ไม่กลัว!

ย้อนไปเมื่อปลายปี 2019 ทาง Continental Tire ได้มีการเปิดตัวยางรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่สำหรับวางจำหน่ายในปี 2020 ณ งาน EICMA2019 ไม่นานนักทาง Two wheels parts ตัวแทนจำหน่ายยางมอเตอร์ไซค์ Continental แห่งเดียวในประเทศไทย ก็ได้มีการนำเข้ายางหนึ่งซีรีย์ใหม่หนึ่งในนั้นมาจำหน่ายในประเทศไทยของเราเป็นที่เรียบร้อย นั่นก็คือเจ้า Continental ContiRoad ที่พวกเราทีม MotoRival พึ่งได้รับเชิญจากพวกเขา ให้เข้าร่วมการทดสอบมันในไม่กี่วันที่ผ่านมา ดังนั้นไม่เสียเวลามาชม รีวิว Continental ContiRoad กันเลย

ก่อนอื่น สำหรับยาง Continental ContiRoad รุ่นนี้ ถูกจัดอยุ่ในกลุ่มยางสำหรับการใช้งานเชิงสปอร์ต-ทัวร์ริ่ง ซึ่งถ้าเทียบกับยางรุ่นก่อนๆของค่าย มันก็จะจัดอยู่ตรงกลางระหว่างรุ่น ContiRoadAttack2 กับ ContiRoadAttack3 ดังนั้นเทคโนโลยีที่มีอยู่ในตัว ContiRoad จึงเป็นแบบที่ต่อยอดมาจากรุ่นพี่ของมันทั้ง 2 รุ่นดังกล่าวด้วยเช่นกัน

เริ่มจากลายดอกยางที่จะเห็นได้ว่าทาง Continental ตั้งใจออกแบบให้มันมีพื้นที่หน้ายางมากเป็นพิเศษเพื่อเอาไว้ใช้เป็นผิวสัมผัสกับพื้นถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหน้ายางตรงกลางที่ไม่มีร่องดอกยางใดๆมาขวางอยู่เลย ขณะที่ดอกยางด้านข้างเองก็ออกแบบลายไว้ค่อนข้างสวยงาม จนแทบจะดูเหมือนว่ามันคือยางที่เหมาะสำหรับใช้งานเชิงสปอร์ตมากกว่า สปอร์ต-ทัวร์ริ่งเสียด้วยซ้ำ

และอันที่จริง ทางทีมงาน MotoRival เราได้รับยาง ContiRoad มาติดรถของทีมงานก่อนหน้าไปร่วมทริปแล้วพักหนึ่ง ซึ่งความรู้สึกสัมผัสแรกที่ได้ก็คือผู้ทดสอบสามารถเปิดคันเร่งแรงๆได้สบายๆโดยที่ล้อหลังไม่มีอาการสลิปเลยสักนิด (รถที่ใช้ขณะนั้นคือ CF moto 650MT ซึ่งมีแรงบิดให้เรียกใช้เยอะประมาณหนึ่ง) แม้แต่ตอนเบรกเองก็ให้ความรู้สึกว่ายางสามารถหยุดชะลอตัวรถจากความเร็วสูงๆได้ดี ใช้ระยะค่อนข้างสั้นเช่นกัน ไม่มีอาการหน้าไถลให้รู้สึกแม้แต่น้อย ซึ่งความดีงามตรงนี้ก็เป็นเพราะหน้ายางตรงกลางของมันแทบไม่มีลายดอกยางแทรกเข้ามาเลยนั่นแหล่ะ จึงทำให่มันมี Grip ในการยึดเกาะได้ดี

นอกจากนี้ด้วยลักษณะหน้ายางดังกล่าว จึงทำให้มันสามารถสร้างแรงยึดเกาะได้ดีมากบนทางแห้ง และจะยิ่งหนึบขึ้นเรื่อยๆ หากพื้นผิวสัมผัสมีความร้อนมากขึ้น ซึ่งโชคดีและประจวบเหมาะที่วันจัดทริปทดสอบวันแรกนั้นอากาศถือว่าร้อนอบอ้าว(สุดๆ) ทำให้เหล่าผู้ร่วมทริปที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์หลากหลายรุ่น แล้วใส่ยางรุ่นนี้อยู่สามารถไล่หวดกันในโค้งได้อย่างสนุกมือมาก ตั้งแต่ขาขึ้นเขาไปจนถึงสังขละบุรีจุดหมายปลายทาง โดยที่ตัวยางแทบไม่มีอาการเลื้อย หรือน่วมให้ได้รู้สึกเลย ซึ่งส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณโครงสร้างยางแบบ “ZeroDegree” ที่มีความสเถียรตลอดเวลาในการใช้งานทั้งในช่วงทางตรง หรือ แม้แต่ทางโค้งด้วยเช่นกัน

ต่อมาถ้าให้กล่าวถึงการใช้งานบนพื้นผิวที่เปียก แม้ลายดอกยางจะดูค่อนข้างแคบ ทว่าด้วยรูปทรงของมันกลับช่วยรีดน้ำออกไปด้านข้างได้ดี นอกจากนี้ยังมีการผสมสาร Silica เข้าไป (ทาง Continental เรียกเทคโนโลยีนี้ว่า “RainGrip”) ซึ่งช่วยให้ตัวยางมีความหนืดมากยิ่งขึ้นกว่ายางแบบปกติที่ไม่มีสาร Silica นี้ ส่งผลให้ตัวยางสามารถยึดเกาะได้ดีแม้ถนนเปียกแฉะ หรือชื้น

ทีนี้หากเพื่อนๆสงสัยว่าแล้วมันดีแค่ไหน ? เราอยากให้มองภาพนี้ควบคู่ไปด้วย ซึ่งภาพเหล่านี้ ช่วงการทดสอบในสถานที่ปิด ที่ทางทีมงาน Two wheels parts ตัวแทนจำหน่ายยางมอเตอร์ไซค์ Continental แห่งเดียวในประเทศไทย ได้จัดเอาไว้ให้ เป็นพื้นลานปูน ราดน้ำชุ่มๆให้เราได้ทดสอบ รีวิว Continental ContiRoad บนบททดสอบการจำลองบนพื้นเปียก โดยถ้าสังเกตุเพิ่มเติมดีๆจะเห็นว่าพื้นมีสีดำเข้มๆเต็มไปหมด และนั่นคือสีของตะไคร่น้ำที่เคลือบอยู่ มันลื่นมาก ชนิดที่แค่เดินใส่รองเท้า ยังต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก

แต่ทว่าในการทดสอบนั้น ContiRoad ยางน้องใหม่รุ่นนี้สามารถทำหน้าที่ในการยึดเกาะได้ดี โดยฝั่งตัวผู้ทดสอบที่ขี่ CBR1000RR SP คันนี้เองก็สามารถพลิกเลี้ยวรถทำสลาลอมด้วยความเร็วประมาณ 50-60 กม/ชม ได้อย่างสบายใจ หรือหากให้เบรกจากความเร็วประมาณ 70 กม/ชม บนพื้นผิวที่เปียกลื่นเช่นนี้ ก็ใช้ระยะเบรกที่สั้นอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจเช่นกัน

นอกจากนี้ในฝั่งพี่ๆท่านอื่นที่ทดสอบยางด้วย CBR500R กับ CB500X เองก็สามารถกระชากรถออกตัวได้โดยที่ยางหลังไม่มีอาการสไลด์ก่อนแล้วถึงยกตัวขึ้นเช่นกัน ทั้งๆที่ปกติถ้าหากเป็นยางกลัวน้ำจริงๆ ด้วยพื้นผิวถนนที่ใช้ทดสอบเช่นนี้ มันจะต้องมีอาการท้ายไถลหน่อยๆก่อนหน้าลอยไปแล้ว

ส่วนในวันที่สองของการทดสอบ ที่เราต้องขี่รถลงจากสังขละ เพื่อกลับเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี ปรากฏว่าในช่วงบ่ายมีมรสุมเข้า ทำให้เกิดฝนตกหนักมาก และดันตรงจังหวะกับที่ผู้ทดสอบได้คิวขี่ CBR1000RR SP พอดี (ที่เห็นขี่ก่อนหน้านี้ แค่ขี่ในสเตชันทดสอบทางเปียกเท่านั้น) เลยอดหวดอย่างน่าเสียดาย ทว่ามันก็ทำให้เรายิ่งสามารถทดสอบยาง ContiRoad ได้อย่างครบถ้วนมากขึ้น เพราะในครั้งนี้เป็นการขี่ลุยฝนบนถนนเปียกของจริง

เพิ่มเติมอีกนิดสำหรับคุณสมบัติสุดท้ายที่ Continental ใส่เข้ามาใน ContiRoad ก็คือเทคโนโลยี “Performance over Time” ซึ่งจะเป็นการออกแบบให้เนื้อยางด้านในมีคอมปาวน์อ่อนกว่าด้านนอกประมาณหนึ่ง ทำให้หากใช้งานไปนานๆจนเนื้อยางชั้นนอกหายไปหมดแล้ว มันก็จะยังคงสามารถสร้างแรงยึดเกาะได้ดีเช่นเดิมเหมือนกับตอนยางใหม่ๆ แต่มันจะเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ หากมีโอกาสได้ทดสอบกันยาวๆ เราคงจะมาบอกการันตีเทคโนโลยีนี้กันได้อีกครั้ง (หรือถ้าเพื่อนๆคนไหนใช้แล้วเป็นอย่างไรก็ สามารถแชร์ความรู้สึกโดยการคอมเม้นต์ บอกเราได้ครับ)

สรุป รีวิว Continental ContiRoad แบบสัมผัสแรกในครั้งนี้ ถือว่าเป็นยางสปอร์ต-ทัวริ่งที่น่าพอใจอย่างมาก เนื่องจากมันสามารถให้การยึดเกาะได้ดีทั้งในทางแห้ง หวดกันได้แบบกดยับมั่นใจตลอดเส้นทาง หรือทางเปียก ก็การันตีจากภาพด้านบนไปแล้วว่าลื่นแค่ไหนก็ยังเอาอยู่ด้วยเทคโนโลยี RainGrip จึงทำให้เราขี่ลุยฝนโดยไม่ต้องมาจอดหลบได้มั่นใจมากขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ก็ต้องพึงระวังไว้ว่าขี่ทางเปียกยังไงก็ต้องระวังไม่ควรขี่เร็วมากเหมือนทางแห้ง

นอกจากนี้หน้าตาของลายดอกยางเองก็ถือว่าสวยไม่แพ้ยางสปอร์ตไบค์แท้ๆ เลยล่ะครับ

โดยไซส์ยางที่ Continental Thailand มีจำหน่ายทั้งหมด 4 ไซส์ได้แก่

– 120/70ZR-17 (สำหรับยางหน้า)
– 160/60ZR-17 (สำหรับยางหลัง)
– 180/50ZR-17 (สำหรับยางหลัง)
– 190/55ZR-17 (สำหรับยางหลัง)

ส่วนราคาตอนนี้ก็ยังเป็นช่วงโปรโมชัน ตกคู่หนึ่งราว 8,000 – 9,000 บาท ฉะนั้นหากเพื่อนๆคนไหนสนใจยาง Continental ContiRoad อยู่ล่ะก็ สามารถสอบถามข้อมูลกับตัวแทนจำหน่ายยางรถมอเตอร์ไซค์ Continental หรือติดต่อกับเพจ Continental Motorcycle Thailand ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปได้เลยครับ

ขอขอบคุณทาง Two wheels parts ตัวแทนจำหน่ายยางมอเตอร์ไซค์ Continental แห่งเดียวในประเทศไทย ที่ให้เกียรติเชิญทีมงาน MotoRival ได้เข้าร่วมทดสอบเจ้ายาง Continental ContiRoad ในครั้งนี้ครับ