หลังจากที่ MotoRival เราได้มีโอกาสไปร่วมทดสอบ Royal Enfield Super Meteor 650 ใหม่ ตั้งแต่ต้นปี ที่ประเทศอินเดีย และได้ทำรีวิวขึ้นไปแล้ว (อ่านได้ที่นี่)
และเมื่อไม่นานมานี้ประเทศไทยเราก็ได้เปิดตัวเคาะราคามันออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากเอามาโชว์ตัวเป็นครั้งแรกที่งาน BIMS2023 บอกเลยว่าราคาถือว่ามาดีกับตัวเริ่ม 2.69-2.84 แสนบาท
รีวิว Super Meteor 650 กับการที่มันเป็นครุยเซอร์ไซส์กลาง ราคาน่าสนใจ
ซึ่งการทดสอบในไทยครั้งนี้ จะเริ่มต้นทดสอบ จาก Chateur De Khoayai วิ่งย้อนกลับไป ทางเขายายเที่ยง ลำตะคอง และย้อนกลับมาที่ Chateur De Khoayai ระยะทางราวๆ 150 กม.
ต้องบอกว่า ครั้งนี้เราได้มีโอกาสมาขี่รถซ้ำ แต่ผมจะรีวิวแบบไม่ซ้ำเดิม เนื่องจากเรามี @จ๋า มาร่วมซ้อน 2 ในทริปนี้ด้วย และเป็นการซ้อน 2 มีทั้งทางตรง ทางโค้ง ทางขรุขระ เลยจะมารีวิว ให้ฟังกันอีกสักรอบ
สำหรับรายละเอียดของตัวรถนั้น เราก็ได้พรีวิวไปแล้วก่อนหน้าไปตั้งแต่ตอนที่มันเปิดตัวแล้ว ยังไงก็สามารถรับชมได้ที่นี่
เอาล่ะพร้อมแล้ว เรามาพูดถึงท่านั่งกันก่อนเลย
ความสูงเบาะ 740 มม. ก็ถือว่าเป็นตามสไตล์รถครุยเซอร์ ไม่สูงมาก ทำให้คนที่สรีระตัวไม่สูงใหญ่มาก ยังนั่งคร่อมลงได้เต็มฝ่าเท้า
ส่วนช่วงแฮนด์บาร์ นั้นเป็นแฮนด์กางยาวออกยกนิดหน่อยในสไตล์ครุยเซอร์ทำให้ท่านั่ง จะหลังตรงสบายหน่อย แต่ถ้าใครช่วงตัวสั้น อาจพบว่ายังต้องมีการเอื้อมตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย
จุดที่หลายคนชื่นชอบ และทำให้มันดูเป็นครุยเซอร์แท้ ก็คือ พักเท้าที่วาง Forward Control นั่นจึงทำให้มันวางเท้าแบบเหยียดไปด้านหน้าได้ สบายผ่อนคลาย แต่เนื่องจากตำแหน่งมันจะเชิดปลายเท้าขึ้น ดังนั้นเวลาขี่เร็วๆ ผมจะรู้สึกว่าลมดันเท้าช่วงความเร็วสูงๆ ระดับ 130kmph+ ช่วงนี้เราอาจต้องวางเท้าจิกลงเพื่อให้ลมไม่ดันมาก
ส่วนผู้ซ้อนนั้น พบว่า รุ่น STD เบาะมันแคบและแข็งไปหน่อย เวลาขี่ผ่านทางขรุขระ ไม่เรียบจะต้องคอยเกาะเอวหนีบสะโพกผู้ขี่ให้ดี
แต่พอได้มาลองเบาะ Touring พบว่า หนา และกว้างกว่า ทำให้นั่งได้สบาย และการที่มันมีโหนกขึ้นมาทำผู้ซ้อนไม่ไถลไปหาตัวผู้ขี่เวลาเบรกรถ รวมถึงการมีพนักพิงหลัง ทำให้ผู้ซ้อนสบายใจและหายห่วงได้เป็นอย่างดี เวลาเปิดคันเร่ง
ขุมกำลังเครื่องยนต์ Parallel Twin 650cc เสื้อลม พร้อมระบบออยคูลเลอร์ ก็ต้องเรียนเช่นเดิมว่า พละกำลังนั้นถือว่า เพียงพอ เหมาะสมกับ รูปลักษณ์ตัวรถ เดินทางได้สบายทั้งในเมือง และออกทริป เวลาเร่งแซงรถยนต์ช้า ก็เพียง Shift Down เกียร์ลงนิดหน่อย ก็ยังมีทอร์คมาให้ใช้ในการเร่งแซงได้ แบบไม่ต้องเค้นรอบเกินไป
แต่เนื่องจากเราขี่แบบมีผู้ซ้อนท้าย ในจังหวะขึ้นเขาที่ชันมากๆ และรอบเครื่องต่ำมากๆ อาจต้องลดเกียร์ลงประมาณ 2 เกียร์ เพื่อรีดทอร์ค ในการไต่ทะยานขึ้นทางลาดชันได้อย่าง กระฉับกระเฉง
คือ อัตราเร่งถือว่าทำได้ดี ช่วงกลางก็ยังมีมาให้ใช้ ส่วนช่วงปลายนั้นต้องบอกว่าด้วยความที่มันโต้ลมพอสมควรบริเวณฝ่าเท้า รวมถึงลมปะทะตัว แต่ก็อย่างที่บอกถ้าขี่ตัวทัวริ่งมีวินชิลด์ก็จะช่วยให้สบายได้มากยิ่งขึ้น
สำหรับความเร็วปลายเรายังคงได้แถวๆ 160kmph+ ก็ว่ากันตามตรงถือว่าเพียงพอแล้วนะกับสไตล์ของตัวรถ
จุดน่าประทับใจอีกอย่าง คือ ความร้อนในวันที่เราทดสอบอากาศร้อนมากๆ แต่ เครื่องแม้เป็นเสื้อลม แต่ก็ไม่สัมผัสถึงไอร้อน มาที่หน้าแข้งหน้าขา เราเลย ยังขี่ได้สบายๆ ในอากาศร้อนๆ บ้านเรา
ระบบกันสะเทือน ด้านหน้า UpSideDown จาก SHOWA 43 มม. ซึ่งถือว่าเป็นรถที่ให้ USD มาเป็นคันแรกของค่าย มีระยะยุบ 120 มม. ถือว่าพอเหมาะกำลังดีเลย การซับแรงสะเทือน หรือ เวลาตกหลุม ตอนที่เราขี่เจอทางขรุขระบอกเลยว่า ok มากๆ ไม่สะท้านสะเทือน
ส่วนด้านหลัง ทวินช็อค ปรับพรีโหลดได้ 5 Steps ซึ่งเราพบว่า มันอาจจะดูติดแข็งไปสักหน่อย กับการเป็นสไตล์ครุยเซอร์ เวลาเจอพวกทางขรุขระลูกระนาด ต้องเบากันสักหน่อย (มีผู้ซ้อน ถ้าไม่มีผมยกก้นรูดไปเหมือนตอนขี่ที่อินเดียแล้ว)
อย่างไรก็ดีเรื่องของช่วงล่าง และชุดเฟรม ที่ออกแบบมาใหม่ ผมประทับใจมากๆ เพราะเป็นครุยเซอร์ที่ให้การคอนโทรลได้ดีเยี่ยม ปกติ เราจะไม่อยากเล่นโค้งในรถครุยเซอร์ แต่ไม่ใช่คันนี้ ผมยังขี่ซ้อน 2 เล่นโค้งเกาะกลุ่มแถวหน้าได้อย่างสนุก พลิกรถได้มั่นใจ ถ้าเปลี่ยนยางเกรดดีกว่านี้ บอกเลยยิ่งเลี้ยวเข้าโค้งได้สนุก และมั่นใจยิ่งขึ้นไปอีก
ระบบเบรก จานดิสก์เดี่ยวทั้งหน้าขนาด 320 มม. และหลัง 300 มม. ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์ 2 pots ทั้งหน้า-หลัง เช่นกัน
ซึ่งต้องบอกว่า ขนาดจานไล่ๆกันเลย อย่างไรก็ดี เบรกอาจไม่ได้จับจิกกับสไตล์ของปั๊ม Bybre และ การที่มันเป็นครุยเซอร์ แต่ก็ถือว่าชะลอความเร็วได้ดีประมาณหนึ่ง
ถ้าหากซัดๆ ก็คงต้อง Shift Down เกียร์ลงช่วย แต่ก็อาจต้องระวังสักนิดเพราะ ทอร์คลงล้อหลังหนักพอควร ควรทำ Rev Matching (เบิ้ลเครื่อง) เพื่อช่วงป้องกันล้อล็อกด้วยจะทำให้ควบคุมรถได้ดีขึ้น
สรุป รีวิว Super Meteor 650 อีกครั้งในไทย ต้องบอกเลยว่าเรื่องการขับขี่ ยังทำได้ดีเหมือนเดิม ประเด็นที่น่าสนใจ คือ การประกาศราคาที่ออกมาดีเลย
และการที่มันเป็นครุยเซอร์ไซส์กลาง ซึ่งต้องบอกว่าตัวเลือกมีน้อย และได้เครื่องเสื้อลม ออยคูล ที่มีเอกลักษณ์ เฉพาะเข้ากับสไตล์รถ แถมขี่ง่าย ไม่เหมือนรถอเมริกันครุยเซอร์ คันใหญ่ราคาแพง
ใครมองหาครุยเซอร์ ที่มีพละกำลังเพียงพอกับการเดินทางใช้งานได้จริง ราคาไม่แรง กับรูปลักษณ์ Modern Vintage ครุยเซอร์ ก็ต้องคันนี้ล่ะ
ราคา Royal Enfield Super Meteor 650 เริ่มที่สี Astral Blue และ Black 2.69 แสนบาท
สี Interstella 2.74 แสนบาท
ตัว Touring Celestial Red และ Blue 2.84 แสนบาท
อ่านข่าว Royal Enfield เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านรีวิว เพิ่มเติมได้ที่นี่
