รีวิว SR GT200 ใช้งานจริงร่วม 5 เดือน ทำไมมันถึงเป็นรถคู่ใจ (ใช้งาน) ของผมปี 2023

0

รีวิว SR GT200 แบบใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน หลังจัดรถคันนี้มาอยู่ในบ้าน ราว 5 เดือน และทำไมมันกลายเป็นรถคู่ใจผมในปีนี้

Preview-Aprilia-SR-GT200-1
ขอย้อนกลับเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา Aprilia Thailand ได้เปิดตัวรถ Scooter สไตล์ Sport ผสม Adventure AT นั่นก็ถือ SR GT200 และทางทีมงาน MotoRival เราเองได้ทำรีวิว ทดสอบมันไปตั้งแต่สัมผัสแรกในสนาม Impact Speedpark รวมไปถึงจัดฟูลรีวิว แบบบิดออกทริปเขาใหญ่ ไปแล้วด้วย อ่านฟูลรีวิวได้ที่นี่

ในวันนี้ผมจะขอมารีวิว SR GT200 รถคู่ใจผมในปี 2023 นี้ ซึ่งผมได้ถอยมันออกมาตั้งแต่ต้นปี และทำไมมันถึงเลือกมันมาเป็นรถคู่ใจใช้งานจริงของผม เลยจะมาเล่าและรีวิวให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันครับ
Review-Aprilia-SR-GT200-Ponออ ขอย้ำก่อน เนื่องจากพวกสเป็ก การพรีวิวตัวรถ อะไรต่างๆ ผมได้ทำฟูลรีวิวไปแล้ว ดังนั้นจะไม่มากล่าวซ้ำในคอนเท้นต์นี้ ถ้าใครอยากทราบรายละเอียด สเป็ก ก็สามารถเข้าไปดูที่ เนื้อหารีวิว ข้างต้นได้ครับ

Aprilia-SR-GT200-F-Rทำไมผมจึงเลือก SR GT200?
– ประเด็นแรก ผมอยากหารถ Scooter แนวสปอร์ตมาใช้งาน ตั้งแต่ประมาณปลายปีก่อนแล้ว ซึ่งผมขอข้ามคลาสช่วง 300-400cc ไป เพราะเคยใช้มาแล้วรู้สึกว่ารถหนัก ช่วงท้ายยาวขี่รถติดในเมืองค่อนข้างลำบาก
รวมถึง เวลาจอดรถนี่ลำบากมากๆ ยิ่งในห้างนี่แทบหมดหวัง ผมจึงมอง Scooter ในช่วง 150-200cc เอาไว้ใช้งาน และมี Ubox ที่สามารถเก็บขนของสัมภาระได้
และยิ่งถ้าได้ช่วงล่างที่มีช่วงยุบเยอะ Ground Clearance เยอะ ยิ่งดีเลย เพราะผมเป็นคนใช้งานอาจจะไม่ระวังมาก และถนนประเทศเรา ผิวโลกพระจันทร์ด้วย แถมในหมู่บ้านผมนี่ลูกระนาด เยอะมากๆ แทบจะวางทุก 100 ม. อยู่แล้ว ทั้งหมดนี้ทำให้ผมต้องการรถ Scooter Sport Adventure ในช่วง 150-200cc

Preview-Aprilia-SR-GT200 (11)
– ประเด็นต่อมา เหตุผลทำไมผมเลือกถอย SR GT200 คันนี้มันมาอยู่ในบ้าน ก็เพราะมัน Unique ไม่ซ้ำใคร เป็นรถที่หน้าตาหล่อ และโดนใจผมมาก การถ่ายทอด DNA ใบหน้ารูปลักษณ์จากตัว Supersport และ Superbike อย่าง RS600 และ RSV4 สามตา อันดุดัน

Aprilia-SR-GT200-Wing
และมีช่องรีดอากาศด้านข้างในสไตล์ Winglet ของรถแข่ง MotoGP
รวมไปถึงอีกเรื่องที่เป็นตัวตัดสินใจสำคัญเลยก็คือ สีแดง ในรุ่น Sport เพราะโทนสีของมันเป็นแดงสไตล์รถ Supercar Europe ซึ่งโทนแดง จะมีความแตกต่างจากแดงญี่ปุ่น อยู่พอสมควร
โดยโทนสีของมันใกล้เคียงกับสี Red Ferrari ซึ่งผมก็ได้ทำสีบนตัวรถยนต์ BMW F30 ของผมด้วย

Aprilia-SR-GT200-Wheel
นอกจากนั้น ล้ออัลลอยจาก Enkei ลวดลายทำออกมาสวยงามลงตัว และรุ่น Sport ก็ทำสีแดงเดียวกับตัวรถ ซึ่งก็โดนใจผมมากอีกเช่นกัน เพราะ ผมเคยมีรถ Big Scooter ผมก็ไปทำสีล้อให้เป็นสีแดงเช่นเดียวกัน เพราะรถแนวนี้ ถ้ามีการทำสีล้อนอกจากสีดำ ก็จะมักจะมากับสีทองน้ำตาลไหม้ ซึ่งผมไม่ค่อยจะชอบเท่าไร เพราะรู้สึกเป็นสีพิมพ์นิยมเกินไป

เอาล่ะ หลังทราบเหตุผลกันแล้ว ก็มาเข้าสู่เรื่องใช้งานจริงมาระยะหนึ่งแล้วเป็นอย่างไรบ้าง

SR-GT200-Hand-Position
อันดับแรก เลย ตำแหน่งท่านั่งต่างๆ ของมันผมว่า ดูดี คอนโทรลรถได้ง่าย แต่ก็มีข้อสังเกตุ เพราะเบาะมันสูง รถดูโย่ง ทำให้ใครที่ตัวเล็ก อาจต้องเขย่งเท้ากันหน่อย
และการที่ตัวรถมันสูง จึงทำให้ตำแหน่งแฮนด์ และ กระจกของมันดูสูงมากกว่ารถ Scooter ทั่วๆไป ระยะแฮนด์ระยะกระจกที่สูงขึ้นมาอาจ ติดช่วงกระจกรถยนต์เวลาที่เราซอกแทรก ช่องจราจรได้บ้าง แต่ตัวรถที่ไม่หนัก และช่วงท้ายที่ไม่ยาวมาก ก็ยังทำให้มันขี่ลัดเลาะในเมืองได้ไม่ยากเย็นคนเกินไป

Preview-Aprilia-SR-GT200 (9)สำหรับคนซ้อน เบาะท้ายแม้จะไม่ใหญ่มาก แต่สำหรับ @จ๋า ตัวเล็ก ก็นั่งได้สบายระดับหนึ่ง พักเท้าหลังเอาออกง่าย เพียงใช้ส้นเท้าเกี่ยวออก
ถ้าใครใช้ซ้อนแฟนตัวเล็กๆ แบบผม อันนี้ไม่มีปัญหาเลย

Preview-Aprilia-SR-GT200 (23)
และ Ubox ก็ต้องบอกว่าใหญ่พอประมาณ ใส่หมวก Full Face ลงไปได้ เวลาไปซื้อของที่ตลาด หรือ ห้างหลังๆ ผมแทบไม่เอารถยนต์ออกแล้ว เพราะ Ubox สามารถเก็บของได้ประมาณหนึ่งเวลาเราไปซื้อกับข้าว

Preview-Aprilia-SR-GT200 (24)
ส่วนตัวถังน้ำมันตรงกลางบอดี้ ก็สะดวกดีเวลาเติมไม่จำเป็นต้องลงจากรถ แต่ในทางปฎิบัติ ผมว่าก็ควรลงจากรถครับ เวลาเติมน้ำมันอาจจะต้องคอยดูเด็กปั๊มนิดไม่ให้มันล้น เพราะบางครั้งหัวจ่ายไม่ตัด

Preview-Aprilia-SR-GT200-Switch
สำหรับปุ่มที่เอาไว้ใช้เชื่อมต่อกับระบบ Smartphone ผ่าน Bluetooth ตรงนี้เป็นอะไรที่น่าเสียดาย เพราะ ต้องซื้อเป็น Option เสริมสำหรับเชื่อมกับแอป Aprilia MIA สามารถเอาไว้ดูข้อมูลต่างๆ ของตัวรถได้ ซึ่งจุดนี้เท่าที่ทราบทาง Aprilia Thailand ยังไม่ได้เคาะราคาออปชั่นตัวนี้ออกมา

Preview-Aprilia-SR-GT200 (18)
ส่วนเก๊ะซ้าย ผมว่ามันเล็กไปหน่อยแต่ก็พอที่จะใส่ Smartphone เข้าไปและชาร์จ USB ไปด้วย แต่ก็ต้องระวังนิด เพราะถ้ากระแทกแรงๆ เก๊ะอาจเปิดออกมาเองทำให้ของหล่นได้

Preview-Aprilia-SR-GT200 (7)
ต่อที่ขุมกำลังเครื่องยนต์ i-Get200 174cc หม้อน้ำ การใช้งานต้องบอกว่า ต้นอาจไม่ได้หวือหวา จี๊ด อะไรขนาดนั้น แต่ข้อดี คือ มันสมูทเครื่องยนต์เดินนิ่งเรียบ ลื่น
กำลังเท่าที่ดูจะไหลมาช่วงย่านกลาง-ปลายดี

TopSpeed ถ้านั่งแบบหลังตรงไม่หมอบ ก็ ช่วง 120+ ได้ สำหรับอัตราเร่ง-TopSpeed Test ผมได้ทำไว้ตั้งแต่ ตอนมันเปิดตัวครั้งแรกแล้ว
รับชมได้ที่นี่

Aprilia-SR-GT200-Redส่วนอัตราสิ้นเปลืองผมขี่ในเมือง กทม.-นนทบุรี มีเคยขี่ซัดๆ ยาวๆ ไปนครนายก แบบแช่ความเร็วสูง ผมจับอัตราสิ้นเปลืองมาแล้ว 5 ถังแรก ได้อยู่ 33-35 kml เอาเป็นว่าถ้าคนขี่ปกติทั่วๆไป ไม่ได้เป็นสายซัดแบบผม ผมว่าเดินทางยาวๆ หรือขี่แบบชานเมือง ยังไงก็ทำได้ 35+
อีกจุดที่ผมชอบ คือ Start & Stop System ทำงานได้ดีรวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน ตอบสนองถือว่ารวดเร็วใช้ได้

Preview-Aprilia-SR-GT200 (6)
ช่วงล่าง สำหรับผมถือว่า ดีลงตัวเลย ไม่จำเป็นต้องไปเปลี่ยนโช้กหลัง หรือเซ็ทโช้กหน้าใหม่

Preview-Aprilia-SR-GT200 (8)
เนื่องจากผม นน.ตัวประมาณ 59 กก. เน้นขี่ใช้งานในเมือง ซึ่งไม่ได้ใช้ความเร็วสูง เน้นช่วงออกตัวและ เร่งแซง เข้าโค้งก็อย่างที่ทราบ เทโค้งเร็วมาก ไม่ได้ ในกทม.
และก็มีซ้อน 2 ด้วย คือ แอดมินจ๋า ซึ่ง นน. ประมาณ 45 กก. จากการเซ็ทโช้กเดิมจากโรงงาน คือ สปริงอ่อนสุด ผมยังรู้สึกขี่สบายๆ ไม่กระแทกจนยัน แต่ อาจติดยวบไปนิด ผมเลยเซ็ทไว้ประมาณ ตรงกลางเบอร์ 3 กำลังดี
ยกเว้นเพื่อนๆ ที่ นน. ตัวมากๆ และซ้อนคนตัวใหญ่ๆ อันนั้น ต้องเรียนตามตรงว่า โช้กอาจจจะยุบกระแทกสุดได้ ถ้าเจอ Bump แรงๆ แบบหลุม หรือ รอยต่อสะพาน

Aprilia-SR-GT200-Red-2เอาเป็นว่า ถ้าผมอยากซิ่ง หรือ เดินทางไกล หรือ ต้องโหลด นน.มากๆ เทโค้งเร็วๆ แรงๆ ไว้ก็อาจจะมาพิจารณาอัพเกรดโช้กกันอีกที
ซึ่งถ้าผมจะทำโช้กแบบทั้งหน้า-หลัง ก็อาจจะโหลดทั้งหน้า-หลัง ลงด้วย เผื่อ@จ๋า จะได้ขี่ได้ด้วย เพราะมันอาจจะสูงเกินไปสำหรับผู้หญิงตัวเล็ก

Preview-Aprilia-SR-GT200 (5)
เบรก เป็นไงบ้าง
โดยรวมผมว่าก็เหมาะสมกับตัวรถแล้ว แต่มีจุดสังเกตุนิดหน่อย คือ แม่ปั๊มบนมันดูแข็งๆ ไปหน่อย ต้องกดลงลึก ถ้าขี่เบรกบ่อยๆ อาจมีปวดนิ้วได้ กับระยะก้านเบรกผมว่ามันห่างนิ้วมือผมไปหน่อย หรือผมเป็นคนนิ้วสั้นก็ไม่รู้นะ
เอาเป็นว่าถ้าผมจะอัพเกรดระบบผมว่า จุดแรกก็น่าจะเป็นตัวปั๊มเบรกบน หรือ อาจเป็นก้านเบรกปรับระดับ เพื่อให้มันเข้าใกล้ช่วงนิ้วมากขึ้น
เพราะ จาน หรือ ปั๊มล่าง และสายเบรกที่ให้มาเป็นสายถักผมว่าสเป็กมัน ok แล้ว

Preview-Aprilia-SR-GT200 (15)ส่วน ABS ที่ให้มาด้านหน้า ผมว่ามันทำงานได้ดีละเอียด และไม่ทำงานไวเกินไป
ด้านหลังไม่มี ABS เพราะเผื่อเอาไว้ทำล้อล็อก เวลาขี่ Offroad ซึ่งอาจเป็นจุดที่หลายคนมองว่า ทำไมไม่ให้มาเลย ปลอดภัยกว่า ซึ่งก็จริงอย่างว่าครับ
แต่เบรกหลัง เอาจริงๆ ถ้าไม่ได้กดแรงๆ มันก็ไม่ได้ล็อกง่ายขนาดนั้น เพราะ เบรกหลังไม่ได้เป็นตัวชะลอความเร็วหลัก เน้นประคองในการชะลอรถมากกว่า
เพราะหลายครั้งที่ผมกำจนมันล็อกเลย มักจะเป็นในจังหวะที่ผมกำแต่เบรกหน้าอย่างเดียว และต้องกดแรงพอควรด้วย

Aprilia-SR-GT200-Ponสรุปเลย คือ ผมใช้งานมาระยะหนึ่งแล้ว ต้องบอกว่ามันเป็นรถที่ขี่ดี ขี่แล้วดูเท่ Unique หล่อขี่ไปไหนคนมองเยอะ กำลังเครื่องถือว่า พอเหมาะกับการใช้งานได้ทุกวัน เดินทางไกลก็ได้
เพียงแต่ ต้นอาจไม่จี๊ดจ๊าด หวือหวา ซึ่งถ้าหากอนาคตมีชุดชามแต่งของ Malossi ผมว่าอยากจะลองอยู่ ช่วงล่างสำหรับผม ผมชอบและว่า ok แล้ว ถ้าคิดจะทำเพิ่มก็คงโหลดทั้งหน้า-หลัง เผื่อ @จ๋า ขี่ได้ด้วย เพราะเค้าตัวเล็ก

และในครั้งต่อไป ผมจะลองนำมันไปขี่ออกทริปเดินทางไกลดูกันครับว่า มันจะขี่ดีไหมใช้งานแล้วเป็นอย่างไร
หรือ ผมมีโปรเจ็คจะทำอะไรเพิ่มเติมกับรถคันนี้ ไว้จะมาอัพเดทให้เพื่อนๆ ได้ชมกันต่อไปครับ

Preview-Aprilia-SR-GT200
Aprilia SR GT200 Sport ราคา 148,900 บาท มีให้เลือกด้วยกัน 3 สี ได้แก่ แดง, เหลือง และ เงิน

Preview-Aprilia-SR-GT200-2
Aprilia SR GT200 ราคา 143,900 บาท มีให้เลือกด้วยกัน 3 สี ได้แก่สี ดำ, เทา และ น้ำเงิน

ผู้ที่สนใจก็ลองติดต่อได้ที่ตัวแทนจำหน่าย Aprilia และ Vespa ได้ทั่วประเทศ

อ่านข่าว Aprilia เพิ่มเติมได้ที่นี่

Share.

About Author

Background EXP in Automotive journalists more than 10 Years Writer & Test Driver @Pantip Garage 2018-Present @9carthai 2015- 2017 @Torque & VIPStyle Magazine 2015 @Autospinn 2012-2015 @GTmania.tv 2009-2010

error: Content is protected !!