หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้ง Yamaha และ Honda ได้เปิดตัวสองสกูตเตอร์ขุมกำลัง Hybrid อย่าง Grand Filano Hybrid และ PCX Hybird ออกมาเพื่อแลกหมัดกันเอาให้แหลกไปข้าง แต่เมื่อลองพิจารณากันดีๆแล้วจะพบว่าทั้งสองคันนี้ไม่ได้เกิดมาเพื่อตีตลาดเดียวกันโดยตรง เพราะทางฝั่ง Grand Filano นั้นถูกวางตำแหน่งไว้เล่นตลาดพรีเมียมสกูตเตอร์ระดับ 125cc ส่วน PCX กลับถูกวางตำแหน่งไว้เล่นตลาดพรีเมียมสกูตเตอร์ที่มีพิกัดสูงกว่าคือ 150cc
ดังนั้นในบทความเปรียบเทียบตัวรถครั้งนี้ เราจึงไม่ได้เปรียบเทียบโดยเอาขนาดความจุของเครื่องยนต์หรือความแรง แม้แต่ขนาดตัวรถเป็นตัววัด แต่เราจะมาวัดกันโดยใช้หัวข้อเรื่องความเป็น Hybrid และฟีเจอร์ที่ให้มา ว่าคันไหนคุ้มค่ากับราคาที่ตั้งไว้มากกว่ากัน
เริ่มจากชุดไฟส่องสว่างรอบคัน ที่ทางฝั่งของ Yamaha Grand Filano Hybrid นั้นได้รับการปรับโคมไฟหน้าใหม่ให้หันมาใช้หลอด LED เหมือนไฟท้าย ส่วนไฟเลี้ยวยังคงเป็นหลอดไส้เช่นเดิม
แต่ในส่วนของ Honda PCX Hybrid ที่เป็นแบบ Full LED มาตั้งแต่โฉมก่อนหน้านี้แล้ว
ต่อกันที่ชุดหน้าจอซึ่งในส่วนของ Grand Filano Hybrid นั้นจะยังคงใช้มาตรวัดความเร็วเป็นแบบเข็มกวาดปกติ แต่มีการปรับจอด้านล่างจากเดิมที่ใช้แบบ LCD แสดงผลแค่ระยะทาง, น้ำมันคงเหลือ, และ ECO Guide เพียงสามอย่าง มาเป็นจอสี TFT ที่สามารถปรับโหมดการแสดงผลข้อมูลอื่นๆเพิ่มจากเดิมอีกเล็กน้อยได้แก่สถานะระบบ Hybrid, ระยะทางทริป, แรงดันไฟแบตฯ, และอื่นๆอีกเล็กน้อย
ส่วน PCX Hybrid ยังคงใช้จอแสดงผลแบบ Full-Digital LCD Blacklight เช่นเดียวกันกับตัว 150 แต่มีการปรับรายละเอียดการแสดงผลใหม่ให้สอดคล้องกับระบบ Hybrid ที่เพิ่มขึ้นมา นั่นก็คือ สถานะการชาร์จ และการช่วยเสริมกำลังเครื่องยนต์ของมอเตอร์ไฟฟ้า, ปริมาณประจุไฟในแบต Li-ion, สถานะโหมดการขับขี่ที่ใช้อยู่ ซึ่งอันสุดท้ายนี่แหล่ะครับที่ดูดีกว่าคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัดเพราะมีลูกเล่นให้คนขี่อย่างเราได้สนุกกับตัวรถมากกว่า
ด้านชุดกุญแจต่างก็เป็นแบบ Keyless เหมือนกันทั้งคู่ดังนั้นจึงถือว่าสูสีกันไป
อีกจุดนึงที่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ก์คือขนาดช่องเก็บของใต้เบาะหรือ U-Box ซึ่งทางฝั่งของ Grand Filano นั้นจะได้แต้มต่อจากจุดนี้ไปเต็มๆเพราะไม่มีการเสียพื้นที่ให้กับแบตเตอรี่แยกเนื่องจากตัวระบบ Hybrid ยังคงใช้ประจุไฟจากแบตหลักลูกเดียวกันกับที่ใช้ตอนสตาร์ทเครื่อง
แต่ในขณะเดียวกันทางฝั่ง PCX นั้นด้วยความที่มีชุดแบตเตอรี่ Li-ion แยกออกมาทำให้ต้องเสียพื้นที่ช่องเก็บของใต้เบาะไป 5.5 ลิตร โดยเหลือความจุแค่พอให้ใส่หมวกกันน็อคเต็มใบได้เพียงใบเดียวเท่านั้นจากเดิมที่เคยใส่ได้สองใบ (ส่วน Grand Filano ก็สามารถใส่ได้แค่หมวกครึ่งใบเพียงใบเดียวเท่านั้นนะครับ เพราะตัวช่องเก็บของลึกไม่พอ แต่ได้เปรียบเรื่องความกว้างพอให้ใส่ของจุกจิกอย่างอื่นแทน)
และในส่วนของระบบเบรกเองค่อนข้างน่าแปลกใจเหมือนกันว่าทั้งๆที่ Grand Filano มีตำแหน่งการตลาดต่ำกว่าแต่ทาง Yamaha กับตัดสินใจติดตั้งระบบป้องกันล้อล็อค ABS มาให้ ส่วนทางฝั่ง PCX Hybrid ทางผู้บริหารได้ให้ข้อมูลกับเราเอาไว้ว่ากับรถมอเตอร์ไซค์ระดับ 150cc นั้นระบบช่วยเหลือดังกล่าวดูจะไม่จำเป็นเท่าไหร่นัก และทำให้ตัวรถมีต้นทุนสูงโดยใช่เหตุ (เกี่ยวกับเรื่องนี้ตัวผู้บริหารเองก็ยอมรับว่า ถ้าเป็นเรื่องของเสียงตอบรับจากผู้บริโภคก็มีเรียกร้องเข้ามาเยอะเหมือนกัน แต่ก็ยังยื่นยันตามเหตุผลที่เราได้ให้ไว้ในข้างต้น)
นอกจากนี้ตัวระบบดับเครื่องยนต์อัติโนมัติขณะจอดติดไฟแดง หรือที่ทางฝั่ง Yamaha เรียกว่า Stop & Start System II ส่วน Honda ใช้คำที่ติดหูกว่าว่า Idling Stop นั้น ทางผู้บริหารของทั้งสองฝ่ายก็ได้ให้ข้อมูลว่าเทคโนโลยีนี้ของตนมีการปรับรายละเอียดการทำงานใหม่เล็กน้อยให้สามารถทำงานได้รวดเร็วและเหมาะสมกับการใช้งานมากขึ้น ซึ่งจากการทดสอบของทางทีมงาน MotoRival เรานั้นพบว่าทางฝั่ง PCX Hybrid ดูจะทำงานได้ดีและไวกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ต้องเข้าใจว่า Honda ทำเทคโนโลยีนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว จึงไม่แปลกที่จะล้ำหน้ากว่าไปหนึ่งขั้น
โดยในส่วนของระบบ Hybrid ของทั้งคู่นั้น ถ้าอธิบายแบบสั้นๆก็คือ เป็นระบบมอเตอร์ดึงไฟจากแบตเตอรี่มาช่วยเสริมกำลังเครื่องยนต์ที่ทำงานเป็นขุมกำลังหลักตรงตามคำนิยามทั้งคู่ แต่ตัวมอเตอร์จะมีบทบาทแค่เข้ามาเสริมกำลังให้กับเครื่องยนต์ตอนผู้ใช้ต้องการเพิ่มอัตราเร่งเท่านั้น ไม่เหมือนกับของรถยนต์ที่สามารถปรับโหมดให้ตัวมอเตอร์จะสามารถทำงานเพียงอย่างเดียวในช่วงความเร็วต่ำได้ เพราะระบบ Hybrid ของทั้ง Grand Filano และ PCX มีข้อจำกัดในเรื่องขนาดแบตฯที่เล็ก และกำลังขับมอเตอร์ที่ต่ำจนไม่สามารถทำงานในแบบเดียวกับของรถยนต์
แต่ด้วยความที่ฝั่ง Grand Filano Hybrid ยังคงเลือกดึงไฟจากแบตเตอรี่หลักขนาด 8-9 แอมป์ที่แต่เดิมใช้ในการสตาร์ทเครื่องยนต์เท่านั้นมาขับมอเตอร์ ทำให้ขีดความสามารถในของมอเตอร์จึงทำได้แค่เพียงช่วยตอนออกตัวจากหยุดนิ่งเล็็กๆน้อยๆเท่านั้น แถมยังมีเงื่อนไขการทำงานคร่าวๆอีกประมาณ 2 ข้อด้วยกัน นั่นก็คือ ต้องจอดให้เครื่องเดินเบาซักพักนึงทุกครั้งก่อนใช้งานระบบถึงจะมีประจุชาร์จมากพอที่จะปั่นมอเตอร์ และ ตัวมอเตอร์จะช่วยปั่นเครื่องยนต์ได้แค่ 3 วินาที หรือไม่เกิน 4,000 รอบเท่านั้น เนื่องจากประจุไฟมีเพียงนิดเดียว
ในทางกลับกันฝั่ง PCX Hybrid มีการเพิ่มชุดแบตเตอร์รี่ Li-ion และกล่องควบคุม PDU แยกออกมาทำให้ตัวมอเตอร์มีประจุไฟมาใช้ปั่นตอนเสริมอัตราเร่งเครื่องยนต์มากกว่า และเหมาะสมกับบริบทในการใช้งานมากกว่า จึงทำให้มอเตอร์พร้อมเสริมกำลังเครื่องยนต์ “แทบจะ” ทุกครั้งที่ผู้ใช้ต้องการจะเร่งความเร็วตัวรถให้สูงขึ้น ซึ่งสาเหตุที่เราใช้คำว่า “แทบจะ” นั้นเป็นเพราะแม้ PCX Hybrid จะมีแบตฯแยกออกมาก็จริง แต่จากการที่เราได้ทดสอบมาพบว่าถ้าหากเปิดปิดคันเร่งเพื่อทำการขี่แบบจิมคาน่าอย่างต่อเนื่อง ไม่มีการหยุดพัก หรือเลี้ยงความเร็วคงที่ให้มอเตอร์ได้ชาร์จไฟกลับเลยเป็นเวลาราวๆ 10 นาที ตัวประจุไฟในแบตฯของ PCX Hybrid ก็อาจจะหมดได้ง่ายๆเหมือนกัน
เอาล่ะครับ จากที่เรากล่าวมาทั้งหมด ดูเหมือนว่าจะรังแกฝั่ง Yamaha Grand Filano Hybrid ไปมากพอสมควร เพราะต้องยอมรับจริงๆว่าแม้โดยพื้นฐานแล้วระบบ Hybrid ของทั้งคู่จะคล้ายกัน แต่ PCX Hybrid นั้นค่อนข้างเป็นต่อในเรื่องประสิทธิภาพตอนใช้งานจริง เนื่องด้วยเหตุผลที่เรากล่าวไปในข้างต้น แต่กับฟีเจอร์อื่นๆของฝ่ายหลังนั้นดันดูด้อยกว่าอย่างน่าเสียดายทั้งๆที่ราคาเปิดตัวนั้นน่าจะทะลุหลัก 1 แสนบาทเข้าไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับระบบ ABS ดังนั้นหากเพื่อนๆคนไหนที่สนใจรถมอเตอร์ไซค์ที่มีระบบ Hybrid ซักคัน การหันไปมอง Yamaha Grand Filano Hybrid ที่มีราคาหลัก 6.2 หมื่นบาท แต่ออพชั่นดูครบครันคุ้มราคากว่าจึงไม่ใช่ตัวเลือกที่น่ามองข้ามแต่อย่างใด
แต่ถ้าหากว่าเพื่อนๆอยากได้ระบบ Hybrid ที่ช่วยงานได้เต็มประสิทธิภาพมากจนเห็นความต่างระหว่าง “มี กับ ไม่มี” จริงๆล่ะก็ ตัว Honda PCX Hybrid ที่มีราคาแพงกว่า 40% ก็เป็นอะไรที่น่าจะตอบโจทย์กว่าในเรื่องนี้
อ่านรีวิว Yamaha Grand Filano Hybrid ได้ที่นี่
อ่านข่าว Yamaha อื่นๆได้ที่นี่
อ่านรีวิว Honda PCX Hybrid ได้ที่นี่
อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว Hybrid เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ
