รีวิว Continental ContiRaceAttack 2 + ContiSportAttack 4 ยางไฮเพอร์ฟอร์มานซ์ วิ่งถนนก็ได้ วิ่งแทร็คก็ยิ่งดีจากเยอรมัน !

0

ย้อนไปเมื่อปลายปีก่อน ทางทีมงาน MotoRival ได้เคยทำการทดสอบและรีวิวยางรถมอเตอร์ไซค์ Continental ContiSportAttack 4 ซึ่งเป็นยางสปอร์ตวิ่งถนนที่สามารถนำไปใช้ในแทร็คแบบ 50 : 50 กันไปแล้ว

มาในปี 2021 ทาง Continental Motorcycles Thailand ก็ได้เปิดตัวยางซีรีย์ใหม่สำหรับวางจำหน่ายในประเทศไทยเพิ่มอีกรุ่นนั่นคือ Continental ContiRaceAttack 2 และทางทีมงาน MotoRival ก็ได้รับเชิญให้เป็นหนึ่งในผู้ทดสอบยางรุ่นนี้ ร่วมกับการกลับไปทดสอบ ContiSportAttack 4 อีกรอบด้วย ซึ่งมันจะมีรายละเอียดและให้สัมผัสอย่างไรบ้าง เรามาว่ากันเลยครับ

continental-contiraceattack2-trip-review-002
ก่อนอื่น สำหรับยาง Continental ContiRaceAttack 2 อันที่จริงแล้วมันก็มีคุณสมบัติหลักๆคล้ายกับ ContiRaceAttack Comp.End ตัวแรก นั่นคือมีความเป็นยางสลิคที่ถูกแกะดอกยางไว้เพื่อรองรับการรีดน้ำและฝุ่นหรือกรวดที่เจอได้บนผิวถนนสาธารณะ ทำให้ลักษณะการใช้งานของมันจะเป็นแบบ สนาม 90% และ ถนน อีก 10%

continental-contiraceattack2-trip-review-004
แต่จุดเปลี่ยนหลักๆของยาง ContiRaceAttack 2 เมื่อเทียบกับ ContiRaceAttack Comp.End นอกจากลายยางที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ก็คือการที่ทาง Continental ได้มีการปรับสูตรเนื้อยางใหม่ เพื่อให้มันมีความทนทาน สามารถวิ่งได้ในระยะทางที่มากขึ้น และยังรวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมที่ดีกว่าเดิม และยึดเกาะบนทางแห้งที่มากกว่าเดิม

continental-contiraceattack2-trip-review-005
นอกนั้นในด้านเทคโนโลยีอันเป็นลิขสิทธิเฉพาะของทาง Continental ที่ใส่ให้ ContiRaceAttack 2 ก็ยังจัดเต็มตามเดิม ทั้ง
– GripLimitFeedback Technology หรือเทคโนโลยีการออกแบบโครงสร้างยางบริเวณขอบยางให้สามารถแสดงอาการเพื่อบ่งบอกลิมิตของหน้ายางให้กับผู้ขี่
– MultiGrip เทคโนโลยีการแบ่งคอมปาวน์บนหน้ายางตามความถี่ในการใช้งาน เพื่อการใช้งานที่ยางนานมากขึ้นของหน้ายางตรงกลาง และความยึดเกาะของหน้ายางด้านข้างในทางโค้ง
– BLACKCHILI RACE-COMPOUND หรือการใส่สารพิเศษที่ทำให้เนื้อยางสามารถสะสมความร้อนได้ไวขึ้น ช่วยลดระยะเวลาในการวอร์มยางให้สั้นลง ทำให้สามารถใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพได้ไวยิ่งขึ้น
– RACETRACKS โครงสร้างยางแบบพิเศษออกแบบมาเพื่อรองรับการขี่ด้วยลมยางต่ำๆสำหรับการแข่งขัน
– ZERO DEGREE เทคโนโลยีการเดินแนวโครงลวดตามแนวหน้ายางแบบเส้นเดียวจากแก้มยางด้านหนึ่งสู่อีกด้านหนึ่ง ซึ่งช่วยในเรื่องความสเถียรของยางในการวิ่งด้วยความเร็วสูงและการผายของหน้ายางทางด้านกว้างที่มากขึ้น

continental-contisportattack4-trip-review-004
ส่วน ContiSportAttack 4 จะเป็นยางที่ถูกพัฒนามาจาก ContiSportAttack3 โดยเน้นเพิ่มสมรรถนะในด้านทางแห้ง การควบคุม และระยะทางให้ดีขึ้น และจะมีเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นมาจาก ContiRaceAttack 2 อีก 2 อย่างนั่นคือ
– TractionSkin หรือเทคโนโลยีการปรับผิวและเนื้อยางให้มีความสากเหมือนเม็ดทรายตั้งแต่ออกโรงงาน ช่วยให้ยางสามารถยึดเกาะกับผิวถนนได้ตั้งแต่ช่วงแรกที่ใส่ ลดระยะเวลาในการรันอินยาง
– RainGrip เพิ่มส่วนผสมของซิลิกาช่วยให้ยางไม่ช็อคหรือหดเกร็งเวลาเจอน้ำ ทำให้ยางสามารถยึดเกาะได้ดีแม้ถนนเปียก และช่วยยืดอายุการใช้งานของยางให้ยาวนานขึ้น
*แต่จะมีการตัดเทคโนโลยี RACETRACKS ออกไปเนื่องจากยังไงมันก็จัดว่าเป็นยางที่เอาไว้วิ่งบนถนนเป็นหลักอยู่ดี

continental-contisportattack4-trip-review-010
ขณะที่เรื่องอายุการใช้งานของยางทั้งสองรุ่น อันที่จริงแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบการขับขี่ของผู้ใช้มากกว่า เพราะถ้าหากเน้นขี่บนถนนเป็นหลัก แบบไม่ได้เอะอะซัด แต่เนื้อยางที่ทาง Continental ให้มา ก็สามารถรองรับการใช้งานในระยะทาง 10,000 กิโลเมตรได้สบายๆ แม้จะเป็นเนื้อยางแบบเน้นการยึดเกาะเป็นหลักก็ตาม

continental-contiraceattack2-trip-review-003
ส่วนสัมผัสที่ได้จากการทดสอบเจ้ายาง ContiRaceAttack 2 ร่วมกับซุปเปอร์ไบค์ตัวแรง Honda CBR1000RR-R SP ในสนามแกร่งกระจาน พบว่าด้วยความที่ยางรุ่นนี้มีโปรไฟล์หน้ายางที่ค่อนข้างเรียว ไม่ได้มีทรงเป็นตัว U เหมือนยางใช้งานทั่วๆไป ทำให้ลักษณะการพลิกเลี้ยวของรถเมื่อใช้ยาวตัวนี้จะสามารถทำได้ง่ายขึ้น ไวมากขึ้น ทำให้อาจจะต้องปรับตัวกันบ้างในช่วงแรก เนื่องจากแต่เดิมตัวรถที่ใช้ในการทดสอบก็เลี้ยวค่อนข้างไวอยู่แล้ว และในขณะเดียวกัน ด้วยลักษณ์ะโปรไฟล์ยางแบบนี้ จึงทำให้พื้นที่หน้ายางทางด้านข้างจะมากกว่ายางปกติแทน ทั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการยึดเกาะของยางตอนเทโค้งให้มากขึ้นนั่นเอง

continental-contiraceattack2-trip-review-004
ด้านสัมผัสในการสร้างกริป แม้ตัวยางจะมีการใส่สาร Black Chili เข้าไป เพื่อให้ยางมีอุณหภูมิพร้อมใช้งานได้รวดเร็วมากขึ้น ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นจริง เพราะใช้เวลาวิ่งเพียงไม่กี่รอบเท่านั้นยางก็พร้อมใช้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการวิ่งในบ้านเราที่ค่อนข้างร้อน แต่กว่าที่ยางจะสามารถสร้างกริปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพของมันจริงๆ เหมือนเทียบกับยางสนามแท้ๆ (ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการแข่งขัน 100%) มันก็อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าสักหน่อย

continental-contiraceattack2-trip-review-007
แถมยางที่อยู่กับ CBR1000RR-R SP ยังเป็นตัว Street ที่มีคอมพาวน์จัดอยู่ในระดับแข็งกว่า Hard Compound ของยางสลิคขึ้นไปอีกหน่อยแต่นั่นก็ช่วยให้เราสามารถใช้มันหวดวิ่งในระยะเวลานานๆได้สบายๆโดยไม่ต้องกลัวว่ายางจะหมดไวนั่นเอง (สรุปคือใช้วิ่งยืนระยะยาวๆในสนามได้ดีแน่นอน)

continental-contiraceattack2-trip-review-006
แต่เมื่อยางได้อุณหภูมิ แม้ตัวรถ CBR1000RR-R SP นั้นจะมีความแรงค่อนข้างมาก และผิวแทร็คของสนามแก่งกระจานนั้นค่อนข้างจะลื่น แถมยังมีบั๊มพ์ค่อนข้างเยอะ ทว่ายาง ContiRaceAttack 2 ก็ยังเอาอยู่ สามารถรักษาความนิ่งของตัวรถโดยเฉพาะช่วงท้ายไว้ได้ค่อนข้างดี ช่วยให้ผู้ขี่มั่นใจขึ้นมากในการขี่ ณ สนามแห่งนี้ ซึ่งเป็นสนามที่ออกแบบไว้ทดสอบรถยนต์มากกว่า ส่วนหนึ่งก็ต้องให้เครดิตกับโครงสร้างยางและการออกแบบให้มันรองรับการใช้งานแบบไฮเพอฟอร์มานซ์อยู่แล้ว

Review-2020-Triumph-Street-Triple-RS_FrontSide
ส่วนยาง ContiSportAttack 4 ก็อย่างที่เราได้เคยนำเสนอไปว่าทางทีมงาน MotoRival ได้เคยทำรีวิวมันไปแล้วกับ Triumph Street Triple RS 2020 ไปแล้ว จึงทำให้เราจะไม่เจาะลึกมันมากเท่าไหร่นักในครั้งนี้

continental-contisportattack4-trip-review-002
แต่จากโจทย์การใช้งานที่จ่างออกไปจากการรีวิวครั้งแรก นั่นคือเปลี่ยนจากการใช้งานในเมืองเป็นหลัก มาเป็นการใช้งานแบบวิ่งทริป และลงสนาม แถมยังเป็นการใช้งานร่วมกับสปอร์ตเรพลิก้าอย่าง CBR600RR รุ่นล่าสุดอีก จึงทำให้เราสามารถสัมผัสมันได้อย่างเต็มเหนี่ยวมากขึ้น และพบว่าตัวยางรุ่นนี้ยังคงเป็นยางรถมอเตอร์ไซค์ที่สามารถรักษาการยึดเกาะบนถนนได้ค่อนข้างดี แม้จะบิดรถไปทะลุ 200 กว่ากิโลเมตร/ชั่วโมง แล้วเจอลูกคลื่นบนถนนในช่วงเวลาเดียวกัน เมื่อรวมกับโช้กที่เซ็ทมาค่อนข้างเหมาะ มันก็ยังสามารถรักษาความนิ่งของรถได้ดีไม่มีอาการส่าย หรือท้ายสไลด์ให้หวาดเสียวเลยสักนิด

continental-contisportattack4-trip-review-001
แน่นอนว่าพอถึงช่วงการใช้งานในสนาม เราพบว่ามันมีจุดสังเกตที่น่าสนใจอยู่อย่างหนึ่งเมื่อเทียบกับ ContiRaceAttack 2 ก็คือการที่ เจ้ายาง ContiSportAttack 4 กลับสามารถสะสมอุณหภูมิไปจนถึงจุดที่พร้อมสร้างกริปได้ไวกว่าค่อนข้างมาก

continental-contisportattack4-trip-review-009
และแม้มันจะเป็นยางที่เน้นเอาไว้ใช้บนถนนสลับกับในแทร็คแบบ 50/50 แต่กลับดูเหมือนว่าคอมพาวน์ยางหรือเนื้อยางของมันดูจะนุ่มกว่ายางรหัส Race เสียอีก ทั้งจากขุยของยางที่ขึ้นชัดกว่า การดูดเศษหินขึ้นมาเกาะบนหน้ายางเสียเอง

continental-contisportattack4-trip-review-007
ไม่เว้นแม้กระทั่ง “ความดูดนิ้ว” ของยางตอนจอดหลังไปหวดในแทร็คแบบขำๆมาแค่เพียง 5-6 รอบที่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่นั่นก็อาจจะเป็นเพราะยาง RaceAttack 2 ที่เราได้ทดสอบ เป็นยางรุ่น Street ที่มีคอมพาวน์แข็งเน้นรองรับการวิ่งยืนระยะยาวๆในแทร็คนั่นเอง

continental-contiraceattack2-trip-review-011
สรุป รีวิว ยาง Continental ContiRaceAttack 2 + ContiSportAttack 4 ยางไฮเพอร์ฟอร์มานซ์ วิ่งถนนก็ได้ วิ่งแทร็คก็แจ่มจากเยอรมันรุ่นใหม่ของปี 2020 ถือว่าสร้างความประทับใจให้กับผู้ทดสอบได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความสามารถในการยึดเกาะที่ครอบคลุม ตั้งแต่การใช้แบบเน้นความปลอดภัยงานบนถนน ไปจนถึงการใช้งานแบบรีดเค้นสมรรถนะรถอย่างเต็มที่ในสนาม

continental-contiraceattack2-trip-review-009
โดยสำหรับยาง Continental ContiRaceAttack 2 ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย จะมี 2 รุ่นย่อยให้ผู้ใช้ได้เลือกซื้อ ได้แก่ตัว Street ที่จะมีเนื้อยางแบบ Hard Compound เพื่อการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น หรือการวิ่งยืนระยะในสนามที่มากกว่า และตัว Medium ที่จะมีเนื้อยางนิ่มลงมาอีกหน่อย เพื่อการสร้างแรงยึดเกาะที่ไวกว่าแบบแรก แต่นั่นก็ทำให้อายุการใช้งานของมันสั้นลงเมื่อเทียบกับตัวแรก (ทว่าหากไม่ใช่คนที่ขี่ซัดมากๆบนถนนทั่วๆไป มันก็รองรับการใช้งานหลัก 10,000 กิโลเมตร ได้อยู่ดี)

continental-contiraceattack2-trip-review-012
ส่วนไซส์ยาง ContiRaceAttack 2 ทางด้านหน้าก็จะมีเพียงไซส์หน้ากว้าง 120 เท่านั้น ขณะที่ยางหลังก็จะมีให้เลือกตั้งแต่ไซส์ 160 ขึ้นไปจนถึงไซส์ 200 (แต่จะมีสำหรับเนื้อยางแบบไหนบ้างต้องเช็ครายละเอียดกับทางตัวแทนจำหน่ายอีกที)

รีวิว Continental ContiSport Attack4
ขณะที่ยาง ContiSportAttack 4 ทางด้านหน้าก็จะมีไซส์ 120 เพียงหน้ากว้างเดียว ส่วนด้านหลังก็จะมีตั้งแต่ไซส์ 160 ไปจนถึง 200 เช่นกัน ซึ่งเอาจริงๆเท่านี้ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว เพราะสามารถรองรับการใช้งานกับรถมอเตอร์ไซค์รุ่น 500cc ขึ้นไป ส่วนราคาของยางทั้งสองรุ่น ก็ตกคู่ละราวๆ 13,000 ถึงราวๆ 16,000 บาทเท่านั้น เรียกได้ว่าคุ้มค่าไม่น้อยเลยทีเดียว

อ่าน รีวิว Continental ContiRoad ได้ที่นี่
อ่าน รีวิว Continental ContiSportAttack ได้ที่นี่
อ่าน รีวิว Continental ContiMotionได้ที่นี่

อ่านรีวิว อื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว Continental เพิ่มเติมได้ที่นี่

Share.

About Author

error: Content is protected !!